ครอบครัวทหารขาขาด ไม่เห็นด้วยนายกฯทำข้อตกลงสันติภาพ อย่าไว้ใจเขมรเสี่ยงเสียดินแดน

ครอบครัวทหารขาขาด ไม่เห็นด้วยนายกฯทำข้อตกลงสันติภาพ อย่าไว้ใจเขมรเสี่ยงเสียดินแดน

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.48 น.

ครอบครัวทหารกล้า ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่เหยียบกับระเบิดขาขาดขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม และยังมีลูกหลานปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวชายแดน ไม่เห็นด้วยที่นายกฯ ทำข้อตกลงสันติภาพกับผู้นำกัมพูชา เพราะไม่เชื่อใจเขมรจะทำตามข้อตกลง และไทยอาจเสียเปรียบสุ่มเสี่ยงเสียดินแดน ชี้รัฐบาลควรเห็นใจครอบครัวทหารกล้าที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะเพื่อปกป้องอธิปไตยมากกว่า 

นางสาคร เพียขันที อายุ 78 ปี และนางสาวมัลลิกา ทุมจันทร์ อายุ 52 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแม่ และพี่สาว ของสิบเอกธีรพล เพียขันที ผบ.ชุดปฏิบัติการ ร้อยทหารพราน 2610 กรมทหารพรานที่ 26  หนึ่งในทหารกล้า ที่เหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวน ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ขาข้างซ้ายขาด และมีบาดแผลที่ต้นขาขวา เมื่อวันที่ 12 ส.ค.2568  


ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร ต่างออกมาแสดงความรู้สึกไม่เห็นด้วย จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงสันติภาพชายแดนไทย-กัมพูชา กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นสักขีพยาน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในบันทึกข้อตกลงแม้จะมีการเสนอให้ทั้งสองฝ่ายถอนอาวุธหนัก และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน

นางสาคร และนางสาวมัลลิกา แม่และพี่สาวของทหารกล้า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เชื่อใจกัมพูชาว่าจะทำตามข้อตกลงเพราะที่ผ่านมามีการประชุมเจรจาและทำบันทึกข้อตกลงหลายครั้ง ไม่เคยเห็นกัมพูชาจะทำตามเลยสักครั้ง  และไม่รู้ว่ากัมพูชาจะหักหลังไทยอีกเมื่อไหร่ ที่ผ่านมามีแต่ฝั่งไทยที่เป็นฝ่ายดำเนินการตามข้อตกลง จึงมองว่าการทำข้อตกลงสันติภาพครั้งนี้ ไทยอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบและสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนให้กัมพูชา และในฐานะที่คนในครอบครัวซึ่งเป็นทหารต้องสูญเสียขาจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดน   ก็เสียใจกับการเสียสละของทหารที่ต่อสู้จนได้ชัยชนะ เมื่อปลายเดือน ก.ค.68 อาจจะต้องสูญเปล่าก็อยากให้เห็นใจครอบครัวของเหล่าทหารกล้าที่เขาสูญเสียคนในครอบครัวเพื่อป้องกันผืนแผ่นดิน แต่สุดท้ายไทยอาจต้องมาเสียเปรียบหรืออาจะเสียดินแดน ที่เหล่าทหารกล้าร่วมกันสละชีวิตปกป้องไป

นางสาวมัลลิกา ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ลูกชายตนเองยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดน จ.สุรินทร์ ก็ยังแชทพูดคุยกันตลอด แม้ลูกชายจะไม่เคยพูดเรื่องทางการทหารหรือการปฏิบัติหน้าที่เลย แต่ในฐานะแม่ก็เป็นห่วงและเข้าใจหัวอกลูกชาย ก็ขอให้เขาปลอดภัย.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top