เสียงสะท้อนชายแดนศรีสะเกษ กดดันรัฐ–กองทัพเอาจริง หลังทหารเหยียบระเบิดขาขาด

เสียงสะท้อนชายแดนศรีสะเกษ กดดันรัฐ–กองทัพเอาจริง หลังทหารเหยียบระเบิดขาขาด

วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.47 น.

เสียงสะท้อนชายแดนศรีสะเกษ กดดันรัฐ–กองทัพให้เอาจริง หลังเหตุทหารเหยียบระเบิดขาขาด

10 พฤศจิกายน 2568 ที่บ้านชำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว อายุ 62 ปี เจ้าของร้านชำในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง (รพ.สต.) จุดที่เคยเกิดเหตุกระสุนตกใส่อาคารได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเล่าว่า หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ติดชายแดนด้านภูมะเขือและห้วยตามาเรีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด แต่ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงจากการเก็บกู้ระเบิดของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน จนภายหลังทราบว่าเป็นเหตุเจ้าหน้าที่ทหารไทยเหยียบระเบิด


ขณะนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพูดคุยถึงสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าอยากให้ผู้บริหารบ้านเมืองและกองทัพดำเนินการขั้นสูงสุดอย่างเด็ดขาด โดยมีการพูดถึงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่เคยบอกไว้ว่า หากมีการเสียขาจากระเบิดเป็นรายที่ 7 จะมีการตอบโต้ขั้นเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว

ชาวบ้านในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต้องการให้ดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นประเทศที่ไม่อาจไว้ใจได้ ทุกคนรู้สึกเสียใจที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องมาเหยียบกับระเบิด ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในแผ่นดินไทย ต้องมารับความสูญเสีย กองทัพจึงควรมีท่าทีเด็ดขาด ผลักดันกองกำลังกัมพูชาให้ออกไปให้ห่างจากภูเขาและชายแดนไทย เพื่อสร้างความสงบสุขให้กับประชาชน

นอกจากนี้ ยังฝากกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกล่าวว่า รู้สึกเสียใจและขอส่งกำลังใจจากคนชายแดนไปถึงกำลังพลทุกนายที่เสียสละดูแลแผ่นดิน แม้ต้องสูญเสียแขนขา หรือร่างกายไม่สมบูรณ์ดังเดิม ทุกคนต่างต้องการกำลังใจอย่างมาก เพราะทั้งหมดทำเพื่อชาติและเพื่อแผ่นดิน

ด้าน นางต้อม สีเหลือง อายุ 48 ปี ชาวบ้านตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากชายแดนเขาพระวิหารประมาณ 9 กิโลเมตร กล่าวว่า หลังทราบข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิด รู้สึกเป็นห่วงทหาร และอยากให้ทหารไทยบุกจัดการให้เด็ดขาด เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง ทำมาหากินลำบาก ห่วงลูกหลานและพ่อที่แก่ชรา ไปไหนไกลก็ไม่ได้ เกรงจะเกิดเหตุรุนแรง จึงอยากให้สถานการณ์ยุติลงโดยเร็ว ชาวบ้านพร้อมอพยพเพื่อเปิดทางให้ทหารปฏิบัติงานได้เต็มที่ เพราะอยากกลับมาใช้ชีวิต ทำมาหากินได้อย่างสงบสุขอีกครั้ง

ขณะที่ นายเปลื้อง ออมชมภู อายุ 63 ปี ชาวบ้านโนนดู่ ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงทหารที่ได้รับบาดเจ็บอย่างมาก และอยากให้กองทัพดำเนินการให้จบสิ้น ไม่อยากให้คาราคาซังอีกต่อไป เพราะชาวบ้านอยู่กันด้วยความหวาดกลัว จะไปเก็บเกี่ยวข้าวก็ไม่กล้า ยิ่งมาเห็นข่าวทหารขาขาด ยิ่งเพิ่มความกังวล อยากให้กองทัพตัดสินใจเด็ดขาด จะทำอะไรก็ให้ทำให้จบ เพราะหากยังยืดเยื้อ ชาวบ้านก็ไม่สามารถทำมาหากินได้ ต้องอยู่ในความระแวงตลอดเวลา การค้าขายซบเซา ทุกคนเตรียมตัวอพยพอยู่ตลอด เพราะไม่รู้ว่าเหตุรุนแรงจะเกิดขึ้นเมื่อใด.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top