เขียนบทใหม่ของประวัติศาสตร์เพื่อสานต่อมิตรภาพจีน-ไทย : จาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

เขียนบทใหม่ของประวัติศาสตร์เพื่อสานต่อมิตรภาพจีน-ไทย : จาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.28 น.

นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยบทความพิเศษ เน้นย้ำความสำคัญของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 13–17 พฤศจิกายน 2568 ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งนับเป็นการเสด็จเยือนครั้งแรกในรอบ 50 ปี เพื่อสืบสานมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและร่วมกันสร้าง "ประชาคมจีน-ไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น"

ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2025 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยในรอบ 50 ปีนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ การเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเยือนประเทศมหาอำนาจอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สะท้อนชัดว่าผู้นำสูงสุดของไทยให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย


ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทยที่แข็งแกร่งและมั่นคง ราชวงศ์ไทยทรงสนับสนุนความสัมพันธ์จีน-ไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ค.ศ. 1975 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้นำจีนหลายท่านเข้าเฝ้าฯ เช่น เติ้ง เสี่ยวผิง, เจียง เจ๋อหมิน, หลี่ เผิง, หู จิ่นเทา และเวิน เจียบา เป็นต้น ในปี ค.ศ. 1978 รองนายกรัฐมนตรีจีน เติ้ง เสี่ยวผิง ได้เยือนประเทศไทย และได้เข้าร่วมพระราชพิธีทรงผนวชใน

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำสูงสุดของทั้งสองประเทศให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาสัมพันธ์จีน-ไทย ในปี ค.ศ. 2000 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีได้เสด็จแทนพระองค์เยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย และในระหว่างปี ค.ศ. 1987 ถึง 1998 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จเยือนจีนถึง 4 ครั้ง โดยได้พบกับผู้นำจีนหลายท่าน และเสด็จพระราชดำเนินเยือนกว่า 10 มณฑล เมืองและเขตปกครองตนเองในประเทศจีน อาทิ ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เจียงซู, ซินเจียง, และซึจั้ง เป็นต้น นอกจากนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้เสด็จเยือนจีนมาแล้วกว่า 50 ครั้ง และทรงเป็นมิตรที่ใกล้ชิดของจีนและเป็นทูตสันถวไมตรีที่โดดเด่นระหว่างจีน-ไทย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตรภรณ์ แด่กรมสมเด็จพระเทพ ฯ  สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จเยือนจีนหลายครั้งเพื่อจัดคอนเสิร์ต "สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน" พร้อมทรงบรรเลงกู่เจิงด้วยพระองค์เอง อีกทั้งทรงมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อส่งเสริมความร่วมมือจีน-ไทยในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอื่น ๆ  พระบรมวงศานุวงศ์ไทยทรงมีไมตรีจิตอันจริงใจและทรงปฏิบัติอย่างแข็งขัน เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น และส่งเสริมความผูกพันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

ผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมกันขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เจริญก้าวหน้า โดยในปี ค.ศ. 2011 ฯพณฯ สี จิ้นผิงซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจีน ได้เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และในปี ค.ศ. 2012 จีนและไทยได้ประกาศความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 2016 และในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในปี ค.ศ. 2019 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ส่งสาส์นถวายพระพร และแสดงความตั้งใจที่จะร่วมมือกับพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 2022 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้เยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี

ผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมกันผลักดันความสัมพันธ์จีน-ไทยให้เข้าสู่ระดับใหม่ของประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น  และเพื่อเป็นเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย และ "50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย" พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี  ได้เสด็จฯ ร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองที่สำคัญระหว่างจีนไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2024  อาทิ การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งจีน-ไทย และพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นต้น และด้วยการสนับสนุนอย่างมั่นคงของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยต่อมิตรภาพจีน–ไทย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง คำว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” จึงยิ่งฝังแน่นอยู่ในหัวใจของประชาชนทั้งสองปะเทศ

ด้วยการวางยุทธศาสตร์และการขับเคลื่อนร่วมกันของผู้นำทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยจึงสามารถพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างต่อเนื่อง เดือนตุลาคมปีนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เนื่องในโอกาสครบรอบ 76 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้แสดงพระราชประสงค์ว่า ภายใต้จุดเริ่มต้นใหม่ของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย–จีน ไทยมีความยินดีที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในทุกสาขาให้ลึกซึ้งและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น  ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อไม่นานมานี้ว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรที่ดี ญาติที่ดี และหุ้นส่วนที่ดี ทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนกันอย่างใกล้ชิดดุจครอบครัวเดียวกัน เมื่อยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายควรสืบสานสิ่งดีงามในอดีตและสร้างสรรค์อนาคต ร่วมกันผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน–ไทยให้ลึกซึ้งและมั่นคงยิ่งขึ้น ส่งเสริมกระบวนการสร้างความทันสมัยของกันและกัน และมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน รัฐบาลและประชาชนจีนต่างตั้งตารอการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี การเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเหตุการณ์สำคัญทางการทูตเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย จีนมุ่งหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน–ไทยเกิดผลลัพธ์ที่อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อสืบสานมิตรภาพอันดีของสองประเทศและเปิดหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ พร้อมผลักดันความสัมพันธ์จีน–ไทยสู่ 50 ปีถัดไปที่รุ่งเรืองยิ่งขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top