‘พี่ชายเหยื่อ’เผยโดนหลอกไปด้วย แต่หนีได้ เปิดความโหดแก๊งสแกมเมอร์-มีพนง.กว่า 600 คน

ความคืบหน้ากรณีช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย.68 มีผู้พบศพนายศราวุธ หรือ “โตโต้” อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 5 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ถูกแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนายทุนจีนสั่งคนไทยด้วยกันรุมทำร้ายอย่างทารุณจนเสียชีวิตในอาคารสำนักงานฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อดีตสแกมเมอร์แฉ‘ขุมนรกปอยเปต’ เผยน้องชายถูกทารุณเสียชีวิต คาดศพฝังอำพรางที่พนมเปญ)

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.68) ผู้สื่อข่าว จ.กำแพงเพชร เดินทางไปพบกับนายนัฐพล หรือโปเต้ อายุ 32 ปี พี่ชายของนายศราวุธ ที่มีข่าวว่าเสียชีวิตหลังถูกหลอกไปทำงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์

นายโปเต้ หรือเต้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังอย่างละเอียดว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาหางานทำกับเพื่อนที่ จ.กำแพงเพชร หลังหนีออกมาจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.68 ที่ผ่านมา จากนั้นก็เดินทางข้ามพรมแดนไทย-กัมพูชา ผ่านทางเส้นทางธรรมชาติเข้ามาทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

นายเต้ เล่าเหตุการณ์ก่อนที่จะหลบหนีออกมา และได้ข่าวว่าน้องชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตว่า ก่อนหน้านี้ทุกคนที่ถูกหลอกไปทำงานเริ่มอยู่กันไม่ได้แล้ว ซึ่งน้องชายของตนก็คิดที่จะหลบหนีออกมา โดยภายในห้องที่น้องตนอยู่นั้น มีเหล็กลูกกรงอยู่ข้างหลัง ซึ่งมีเพื่อนร่วมห้องที่พักอยู่ช่วยกันแหกลูกกรงเอาไว้เตรียมจะหลบหนี แต่ต้องย้ายห้องก่อน จนคนที่เข้ามาอยู่ห้องคนใหม่โผล่หัวออกไป จนยามที่เฝ้าขึ้นมาดูและตรวจสอบว่าใครทำ น้องชายของตนและคนอื่นๆในห้องชุดเดิม จึงถูกบอสชาวจีนจับทำโทษ โดยการเอาตัวไปใช้เหล็กตีจนเห็นเนื้อข้างหลัง เอาไฟฟ้าช็อตที่ตัวและปาก หลังจากนั้นเอาขึ้นไปขังไว้บนชั้น 6 ตึกบี โดยเปิดแอร์ไว้ที่ 16 องศาเซลเซียส ให้แก้ผ้านอนหลับ พอเช้ามาก็ขึ้นไปตีอีก ช่วงเย็นก็ขึ้นไปตีอีกเป็นแบบนี้มา 2 วัน จนวันที่ 3 ตนจึงตัดสินใจหลบหนีออกมาพร้อมกับเพื่อนเพื่อหาคนเข้าไปช่วยเหลือ

นายเต้ เล่าว่า เวลา 07.30 น.เช้าของวันที่ 16 พ.ย.68 ได้รวมตัวกับเพื่อนประมาณ 40 กว่าคน หลังจากนั้นก็หลบหนีออกมาเลย โดยจุดนั้นเรียกว่า “บัวลัย ประตู 3”

นายเต้ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแอดมินการตลาดสินค้าออนไลน์ คอยตอบลูกค้า ได้ค่าจ้างเดือนละ 24,000 บาท และค่าคอมมิชชันต่างหาก ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับสาวไทยที่อยู่ จ.พังงา ที่มีข่าวเสียชีวิตจากโรคประจำตัว แท้ที่จริงแล้วถูกทรมานโดยการตีและใช้ไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สาวไทยดับคาปอยเปต แม่ร่ำไห้! บริษัทขู่เผาศพทิ้ง หากเป็นข่าวใหญ่)

นายเต้ กล่าวอีกว่า ข่าวล่าสุดข้างในปอยเปตแจ้งว่าน้องชายของตนเสียชีวิตแล้ว แต่ตนยังไม่มั่นใจ 100% เพราะตอนที่ตนหนีออกมาน้องชายของตนก็ถูกใช้เหล็กตีและใช้ไฟฟ้าช็อต อาการ 50/50 แล้ว แต่ก่อนเที่ยงมีการติดต่อมาหาแม่ตนที่ทำงานอยู่ใน จ. สมุทรปราการ ว่าน้องชายของตนยังทำงานปกติ แต่สภาพการถูกทำร้ายแบบนั้นตนว่าไม่น่าจะทำงานได้แล้ว ซึ่งตนไม่ได้พูดคุยกับน้องชายแต่อย่างใดมารู้อีกทีว่าถูกทำร้ายแล้ว และตนพยายามจะออกจากห้องแต่คนที่คุมที่นั้นไม่ให้ออก ทำให้ตนไม่มั่นใจว่าใช่น้องชายตนหรือไม่ที่ถูกตี โดยตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่าน้องชายของตนเสียชีวิตหรือยังแต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อยากให้รัฐบาลเข้าไปช่วยให้เร็วที่สุด และคนที่เหลือข้างในก็อยากกลับบ้านกันหมด

ทั้งนี้ ออฟฟิศที่ทำงานมีจำนวนกว่า 600 คน ซึ่งรวมกับออฟฟิศของน้องผู้หญิงที่เสียชีวิตชาว จ.พังงา ด้วย พอเกิดเรื่องก็มีการย้ายออกไปที่อื่น มีการทยอยย้ายออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เป็นเป้า ตนจึงอยากเตือนคนไทยว่าให้เช็คข้อมูลก่อนที่จะไปทำงานหากไปแล้วถูกหลอกก็จะมีสภาพแบบตนและน้องชายของตน

หลังจากนายเต้ ให้ข้อมูลกับผู้ถือข่าวจบ ผู้เป็นแม่ก็ส่งคลิปภาพเสียงที่ถ่ายไว้เมื่อตอน 11.00 น. วันที่ 18 พ.ย.68 หลังจากมีข่าวว่าน้องชายเสียชีวิตแล้ว โดยในคลิปเป็นเสียงของน้องชายตนเองที่ถูกส่งมาให้กับผู้เป็นแม่ โดยนายเต้ กล่าวว่า ตนได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้วก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงของน้องชายตนหรือ AI กันแน่ ซึ่งรอข่าวจากคนที่อยู่ที่นั่นเหมือนกันว่าตอนนี้น้องของตนเสียชีวิตแล้วหรือยัง ส่วนเรื่องของการนำศพกลับมานั้น ตนอยากให้รัฐบาลช่วยนำกลับมาบำเพ็ญกุศลให้ได้ และคาดว่าจะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.นครพนม

-005