‘ประชาคมแพทย์’เสนอแนวทาง‘อพยพ’ ต้องมี Template ประกาศดังไปทันที ไม่ใช่เถียงทันที

‘ประชาคมแพทย์’เสนอแนวทาง‘อพยพ’ ต้องมี Template ประกาศดังไปทันที ไม่ใช่เถียงทันที

วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 07.59 น.

‘ประชาคมแพทย์’เสนอแนวทาง‘อพยพ’ ต้องมี Template ประกาศดังไปทันที ไม่ใช่เถียงทันที

27 พฤศจิกายน 2568 เพจ “ประชาคมแพทย์” โพสต์บทความเรื่อง “การอพยพ มันต้องเป็นแบบนี้ ประกาศอพยพดังขึ้น - เราต้องไปทันที ไม่ใช่เถียงทันที” ระบุว่า...


การอพยพ มันต้องเป็นแบบนี้

ประกาศอพยพดังขึ้น – เราต้องไปทันที

ไม่ใช่เถียงทันที

อบต.ละงูประกาศอพยพด่วน 100%

ระบบการอพยพ ของทุกจังหวัด ในภาคใต้

และระบบการอพยพแห่งชาติ สิ่งที่ต้องทำอย่างจริงจังและประชาชนต้องมีวินัย เหมือนประเทศญี่ปุ่น ที่เขาอยู่กับภัยแผ่นดินไหว ตลอดชีวิต

เวลาที่เราพูดถึง “การอพยพ” ในไทย มักนึกถึงภาพเจ้าหน้าที่เร่งประกาศผ่านหอกระจายข่าวตอนน้ำขึ้นถึงเข่าแล้ว ประชาชนขนของออกจากบ้านท่ามกลางความมืด และรถทหารลุยน้ำสูงกว่าหัวไฟหน้า บางครั้งก็ช่วยได้ บางครั้งก็มาช้าเกินไป แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ๆ คือ เราไม่เคยมีระบบอพยพที่ออกแบบล่วงหน้าอย่างเป็นมืออาชีพ

แต่ภัยธรรมชาติยุคนี้—โดยเฉพาะภาคใต้—มันไม่ได้ให้เวลาเราเท่าเดิมอีกต่อไป

ฝนตกเช้า น้ำท่วมบ่าย

ระดับน้ำขึ้น 1 เมตรในไม่กี่ชั่วโมง

และพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกปีจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ดังนั้น “การอพยพ” จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องมารอคิดเอาตอนเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เป็น มาตรการเชิงรุกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนควรมี Template พร้อมใช้แบบอัตโนมัติ ข้อมูลครบ ชัด ส่งตรงถึงประชาชนในนาทีที่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน ไม่ใช่ตอนทุกอย่างเริ่มสายเกินไป

วันนี้ อบต.ละงู สตูล ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง—ออกประกาศแจ้งประชาชนให้อพยพ 100% ชัดเจน จริงจัง และตรงประเด็น ซึ่งควรถือเป็นตัวอย่างของการสื่อสารที่ “รักษาชีวิต” ได้มากกว่าการออกประกาศแบบกลางๆ ว่า “ขอให้เฝ้าระวัง” ที่ไม่มีใครรู้ว่าต้องทำอะไร

ในฐานะแพทย์และคนทำงานเชิงระบบ

ประชาคมแพทย์ ...ขอเสนอแนวทางที่ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง—โดยเฉพาะในภาคใต้—ควรเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คำว่า “อพยพด่วน” มีความหมายจริง ไม่ใช่แค่ข้อความในกระดาษ

---

1. ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็น “ผู้อำนวยการการอพยพระดับจังหวัด” ไม่ใช่ผู้ประกาศผ่านหอกระจายข่าว

ตำแหน่งผู้ว่าฯ ไม่ใช่พิธีกรอ่านประกาศจาก ปภ. แต่เป็น “ผู้รับผิดชอบชีวิตคนทั้งจังหวัด” ในภาวะภัยพิบัติ

และเครื่องมือสำคัญที่สุดที่จะช่วยชีวิตได้คือ “ระบบอพยพที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า”

หากจังหวัดใดไม่มี Template ของข้อความอพยพที่พร้อมใช้ทันที ถือว่าประชาชนกำลังเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

เพราะในสถานการณ์แบบนี้ เวลา = ชีวิต

---

2. Template การอพยพที่ควรมีติดจังหวัด: พร้อมปรับใช้ทันทีใน 3 นาที

 “แบบฟอร์มประกาศอพยพด่วน” ที่ควรจัดทำไว้ล่วงหน้า สามารถใส่ข้อมูลเฉพาะพื้นที่ แล้วส่งออกทุกช่องทางได้ทันทีเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน

(1) ระบุระดับความเสี่ยงแบบชัดเจน

ระดับน้ำปัจจุบัน

แนวโน้มการเพิ่มขึ้น

หมู่บ้าน/ชุมชนใดอยู่ในพื้นที่สีแดง

(2) กำหนดจุดพักพิง 2 แบบ

ก. จุดพักพิงสำหรับประชาชนทั่วไป (ผู้แข็งแรง)

– อาคารเรียน

– ศูนย์ชุมชน

– วัด/มัสยิดที่ปลอดภัย

ข. จุดพักพิงสำหรับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ/กลุ่มเปราะบาง

– รพ.สต.

– โรงพยาบาลใกล้เคียง

– ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะหลายจังหวัดประกาศอพยพ แต่ไม่เคยคิดว่าผู้สูงอายุ 80 ปี จะไปอยู่ตรงไหน

(3) วิธีการอพยพแบบ “ทำได้ทันที”

หากเดินทางเองได้

– ให้ใช้เส้นทางไหน

– หลีกเลี่ยงเส้นทางไหน

– ต้องนำเอกสารอะไร

หากเดินทางเองไม่ได้

– จุดรอรถรับ-ส่ง 3–5 จุด

– ตารางเวลารถรอบเช้า–บ่าย–เย็น

– วิธีสังเกตเจ้าหน้าที่

(4) ช่องทางติดตามข่าวสารแบบ Real-time

– Facebook จังหวัด

– Line OA

– วิทยุชุมชน

– เว็บไซต์ “ศูนย์น้ำท่วมจังหวัด” (ควรมี)

(5) ช่องทางโทรศัพท์ฉุกเฉิน

– ศูนย์อพยพจังหวัด

– ศูนย์นเรนทร

– ปภ.

– โรงพยาบาลประจำอำเภอ

---

3. ตัวอย่างประกาศอพยพที่ออกแบบอย่างมืออาชีพ (ปรับใช้ได้ทันที)

> ????ประกาศจังหวัด…… เรื่อง การอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย

เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ตำบล…… อำเภอ…… มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจเกิน 1 เมตรภายใน … ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน จังหวัดจึงกำหนดให้มีการ อพยพเร่งด่วนร้อยละ 100 ของประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. จุดพักพิงสำหรับประชาชนทั่วไป

– โรงเรียน……

– วัด……

– ศูนย์ชุมชน……

2. จุดพักพิงสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้เปราะบาง

– รพ.สต……

– โรงพยาบาล……

3. การเดินทางไปยังจุดพักพิง

ประชาชนที่สามารถเดินทางเองได้ ให้ใช้เส้นทาง……

ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางเองได้ ให้ไปรอรถ ณ จุดรับ-ส่งดังนี้

– จุดที่ 1 … เวลา …

– จุดที่ 2 … เวลา …

4. ช่องทางติดต่อเร่งด่วน

– ศูนย์อำนวยการอพยพจังหวัด…… โทร……

– ปภ. โทร. 1784

– โรงพยาบาล…… โทร……

ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศสำคัญได้ผ่านช่องทาง

– Facebook จังหวัด……

– Line OA “เตือนภัยจังหวัด……”

– วิทยุชุมชนประจำตำบล……

> จึงประกาศเพื่อทราบและให้ประชาชนทุกคนอพยพโดยทันที

---

4. ทำไมต้องมี Template และระบบกลาง?

เพราะภัยธรรมชาติทุกวันนี้เร็วเกินกว่าจะเขียนประกาศแบบสดๆ

ถ้าฝนตกหนักตอนตีสอง แต่ผู้ว่าต้องมานั่งให้ทีมร่างประกาศตอนตีสาม—เราสูญเสียเวลาไปหนึ่งชั่วโมงที่สำคัญที่สุดของชีวิตประชาชนแล้ว

ประเทศไทยมีระบบเตือนภัยสึนามิ แต่ยังไม่มีระบบเตือนภัยน้ำท่วมที่สื่อสาร “ภาษาเดียวกัน” ในทุกจังหวัด

ทุกแห่งออกประกาศแบบของตัวเอง

ไม่มีมาตรฐาน

ไม่มีข้อมูลประกอบ

บางอันอ่านแล้วไม่รู้ต้องทำอะไร

สิ่งที่เราเสนอคือ ระบบอพยพแห่งชาติ ที่เริ่มต้นได้ทันทีจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะท่านคือผู้นำพื้นที่ และประชาชนจะเชื่อท่านมากที่สุดถ้าการสื่อสารชัดเจนและตรงไปตรงมา

---

5. สรุป: การอพยพคือการแพทย์เชิงป้องกันระดับจังหวัด

ในวงการแพทย์ เรามีคำว่า preventive medicine

คือการป้องกันก่อนเกิดโรค เพราะการรักษาเมื่อสายเกินไป แพงและเสี่ยงมากกว่า

การอพยพก็เช่นกัน

มันคือ “การป้องกันก่อนเกิดความสูญเสีย”

ผู้ว่าฯ ที่มี Template อพยพพร้อมใช้

คือผู้ว่าฯ ที่ปกป้องชีวิตประชาชนได้มากที่สุด

ไม่ใช่ผู้ว่าฯ ที่ไปลุยน้ำถ่ายรูปทีหลัง

ประชาคมแพทย์ หวังว่าผู้ว่าราชการทุกจังหวัดในภาคใต้ จะนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ทันที

เพราะคำว่า “พร้อม” ไม่ได้หมายถึงมีเจ้าหน้าที่เยอะ

แต่หมายถึง

มีระบบที่ทำงานได้ใน 3 นาที

ไม่ใช่ใน 3 ชั่วโมง

***********

บทส่งท้าย

************

ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าต้องพูดคำว่า “รู้งี้…” ในวันที่สายเกินไป

ท้ายที่สุดนี้ เราอยากพูดในนาม “ประชาคมแพทย์” ถึงประชาชนทุกท่านว่า

เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกประกาศอพยพเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการประเมินที่ “รุนแรงกว่าความเป็นจริง” หรือทำให้ประชาชนรู้สึกว่าต้องรีบละทิ้งทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง หรือความสะดวกสบายของตนเอง—ขอให้เข้าใจว่าการตัดสินใจนั้นเกิดขึ้นเพื่อ รักษาชีวิตของท่านเป็นอันดับแรก

ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนสามารถประเมินสถานการณ์ภัยพิบัติได้ “ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์”

และไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนอยากออกประกาศให้ประชาชนเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น

แต่ในโลกแห่งความจริงของภัยธรรมชาติ

การประเมินต่ำไปเพียง 1 ชั่วโมง อาจหมายถึงความสูญเสียทั้งชีวิตและครอบครัว

ในขณะที่

การประเมินสูงเกินไป อาจหมายถึงความไม่สะดวกชั่วคราว

เราต้องเลือก “ฝั่งที่ปลอดภัยกว่าเสมอ”

และเราขอวิงวอนจากใจว่า>>>

อย่าใช้เหตุการณ์ที่ภายหลังพบว่า “น้ำไม่ท่วมมากขนาดนั้น” หรือ “ยังอยู่ได้อีกสักคืน” มาเป็นสาเหตุในการตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจทำงานเต็มที่

เพราะในนาทีที่ตัดสินใจออกประกาศ

พวกเขากำลังเผชิญกับข้อมูลที่จำกัด และกำลังตัดสินใจแทนคนทั้งชุมชน

ภายใต้ความกดดันที่ไม่มีใครอยากแบกรับ

เราอาจเสียดายทรัพย์สิน แต่ชีวิตของเราและคนที่เรารัก—ไม่มีอะไรมาแลกได้

เรารู้ว่า

– บ้านคือความทรงจำ

– สัตว์เลี้ยงคือครอบครัว

– ทรัพย์สินคือสิ่งที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงหลายสิบปี

แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก

ความปลอดภัยต้องมาก่อน

และเราขอให้ทุกคนตระหนักว่า

เมื่อท่านตัดสินใจ “อยู่ในพื้นที่เสี่ยง” ท่ามกลางน้ำที่กำลังขึ้น

ท่านอาจต้องยอมรับความจริงว่า

เจ้าหน้าที่อาจเข้าไปช่วยไม่ได้

ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากช่วย

แต่เพราะเขาอาจเสียชีวิตไปพร้อมกับท่าน

ดังนั้น การอพยพแม้จะลำบาก แต่คือความลำบากที่ “เลือกได้”

ต่างจากความเสียใจที่ “แก้ไม่ได้”

และหากวันหนึ่งพบว่า

“ประกาศอพยพครั้งนั้นเกินความจำเป็น”

ผมอยากให้เราทุกคนกลับไปมองด้วยสายตาใหม่ว่า

มันคือ ชัยชนะ

ไม่ใช่ความผิดพลาด

เพราะชัยชนะของเราคือ “ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต”

สุดท้าย—ขอให้ทุกจังหวัดในภาคใต้

ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน

และทุกครอบครัว

ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมใหม่ว่า

เมื่อประกาศอพยพดังขึ้น—เราไปทันที

ไม่ใช่เถียงทันที

นี่คือวิธีที่เรารักษาชีวิตกันเอง

ก่อนที่เราจะต้องมองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า

“รู้งี้ตอนนั้น….”

Admin ประชาคมแพทย์

27 พ.ย 2568

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top