บทความพิเศษ :ประเทศไทยคงจะไม่มีโอกาสได้คนดี มาบริหารบ้านเมือง หากคนไทยมัวแต่นั่งรอกัน

บทความพิเศษ :ประเทศไทยคงจะไม่มีโอกาสได้คนดี มาบริหารบ้านเมือง หากคนไทยมัวแต่นั่งรอกัน

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.

ไทยเผชิญวิกฤตภูมิอากาศ ปัจจัยวิกฤตเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ บั่นทอนประเทศ
ข้อความดังกล่าวข้างต้นคือข้อความพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าไม่รู้จะตำหนิใคร เลยโทษภูมิอากาศเป็นปัจจัยบั่นทอนประเทศ สื่อไทยคิดได้แค่นี้หรือ? มิน่าถึงปล่อยพวกนักการเมืองบางคนกินบ้านกินเมือง เล่นละครการเมืองให้ดูบนความทุกข์ยากของประชาชน

ต่อมาอีกวันหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันนั้นก็พาดหัวข่าวต่อ ว่าเสียหาย 5 แสนล้านชูพักหนี้ เติมเงินประชาชน รัฐบาลจัดเยียวยา“น้ำท่วมใต้” สิ่งที่รัฐบาลทำคือการเอาเงินภาษีของประชาชน ไปกู้หนี้ยืมสินมาให้ประชาชน แบกภาระหนี้ต่อไปถึงลูกถึงหลานแทนที่จะปกป้อง ส่งเสริมการทำกินของเขา จะเตรียมพร้อมในการให้ภัยพิบัติไม่ให้ประชาชนต้องล้มละลาย เดือดร้อนอย่างที่เกิด จะยังคิดไม่ออกหรือไง?


ความเป็นจริงแล้วยุคนี้เป็นเรื่องที่คนเราสามารถรับรู้ถึงสภาพวิกฤตของภูมิอากาศได้ล่วงหน้าเสมอและผู้บริหารประเทศ นักการเมืองข้าราชการต่างๆ ย่อมจะรับรู้ได้ หาทางป้องกันร่วมกันกับประชาชนร่วมกันปกป้องไม่ให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น สร้างความเสียหาย น้ำท่วม ภัยแล้ง แก่ประชาชนได้น้อยที่สุด เช่น การไม่สร้างถนนปิดทางน้ำหมดเพื่อประโยชน์ของนายทุนบางจำพวก มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า การบริหารจัดการอย่างมีการวางแบบแผนไว้ล่วงหน้า รวมทั้งการบริหารจัดการอย่างมีสมรรถภาพ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องวิบัติ ทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ที่ควรได้รับการตำหนิมากที่สุดคือพวกคณะรัฐบาลนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ที่มุ่งแต่ประโยชน์ของตนเองและพรรคพวกเป็นส่วนใหญ่และแสดงให้เห็นถึงสมรรถภาพของการบริหารจัดการประเทศ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

วิกฤตภูมิอากาศพอที่จะบรรเทาได้ แต่วิกฤตความชั่วช้าของนักการเมืองและผู้บริหารประเทศบางคนมันยากที่จะแก้ไข รวมทั้งข้าราชการบางคนที่ไร้สมรรภภาพ คนเลวๆเหล่านี้จะไม่ยอมรับผิดชอบ อย่างดีก็กล่าวขอโทษต่อประชาชามันคือคำพูดลมๆ แล้งๆ พอให้ประชาชนได้ยินแต่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบปัญหา โดยรัฐบาลอัดเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ ฯลฯ เพื่อการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมี

การที่จะมีการยุบสภาเร็วๆ นี้ และจัดการเลือกตั้งใหม่นั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความยากจนข้นแค้นของประชาชนเลย พวกนักการเมืองตระบัดสัตย์ก็จะกลับเข้ามาอีก การใช้เงินซื้อเสียงจะเกิดขึ้นอีกการเรียกร้อง แม้กระทั่ง MOU 43, 44 ที่ต้องยกเลิกเพราะพวกที่ไปทำไว้มันหวังเอาประโยชน์ของชาติไปแลกกับผลประโยชน์ของพวกมันเอง

ทุกวันนี้มันก็ยังมีพรรคพวกอยู่ในคณะรัฐบาลแล้วคนในรัฐบาลก็ก่อนเป็นใหญ่ว่าจะเลิก แต่ก็ตระบัดสัตย์ มิหนำซ้ำยังมีนิติบริกรชั่วๆ จะให้ประชาชนลงมติจะเลิกหรือไม่ มันโยนความรับผิดชอบไปให้ประชาชนอีกทั้งๆ ที่ตอนทำ MOU มันใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ไม่ผ่านสภาไม่ผ่านสถาบันตามรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่ต้องเสียแผ่นดินผลประโยชน์ของชาติ

ประชาธิปไตยบนพื้นฐานของการโกหก ตลบตะแลง ตระบัดสัตย์ ขายชาติขายแผ่นดินมีโทษตามกฎหมายอาญา ม.191 จำคุกถึงประหารชีวิต คงดำเนินต่อไป รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเกือบทั้งหมด ในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่รัฐธรรมนูญเขียนให้นักการเมือง(สส. ที่เป็นนักธุรกิจการเมือง) เข้ามาใช้อำนาจ บริหารด้วย สร้างความวิบัติให้ประเทศชาติ ประชาชน มาโดยตลอด รัฐบาลที่มาจากรัฐประหารแรกๆ ก็ดูจะดีลงท้ายก็แย่ ที่ดีๆสร้างผลงานไว้มากมายแต่ไปมัวแต่จับจ้องจับผิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะสื่อบางสื่อต้องการหาเงินจากการขายหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ก็เลว เมื่อใดที่นักการเมืองมีความซื่อสัตย์ไม่ซื้อเสียง ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนและความมั่นคงด้วยความซื่อสัตย์ เมื่อนั้นประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีการเลือกตั้งมีผู้กำกับการเลือกตั้งที่มีสมรรถภาพ ถ้ายังไม่พร้อมก็เรียกร้องให้ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ รักชาติรักประชาชนและสถาบันเถอะ อย่าเอาพวกกะล่อนตระบัดสัตย์เข้ามาบริหารประเทศอีกเลย ให้ไปเปิด ร้านขายข้าวผัดและกาแฟดีกว่า
รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ!!!!!
                                                                               อัมรินทร์ คอมันตร์
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top