14 ธันวาคม 2568 เมื่อวันนี้ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีชาวบ้านชายแดนทั้ง อำเภอพนมดงรัก อำเภอกาบเชิง จำนวนหลายคนเดินทางอพยพมาพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ จากเหตุการณ์การรบกัน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เขตชายแดนต่างได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ตั้งแต่มีการปะทะหนักชาวบ้านต่างรู้สึกคิดถึงบ้าน แต่ก็ต้องทนจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกาศคำสั่งให้สามรถกลับบ้านได้ จึงจะได้กลับ เพราะสถาการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอน

โดยภาพบรยากาศวันนี้ มีมุมน่ารักของหนูน้อยผู้อพยพ ที่พิการไม่มีขาซ้าย น้องได้อพยพมากับคุณยายและพร้อมที่จะสู้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปด้วยกัน ขนาดลูกหมู2ตัวก็ยังวิ่งตามชาวบ้านมาอพยพเหมือนกัน สัตว์ก็ยังรักชีวิตเหมือนกับคน ชาวบ้านเล่าบอกตอนระเบิดลงชาวบ้านบางคนก็หนีอพยพมาทีหลัง เห็นลูกหมู2ตัวนี้วิ่งตามจึงจับขึ้นรถมาด้วย เป็นภาพที่น่ารักทีเดียว

ในขณะเดียวกัน นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ อายุ 58 ปี (อดีสส.พรรคภูมิใจไทย)ได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจผู้อพยพเช่นเดียวกัน อยากให้รัฐบาล ช่วยดูแลค่าเสี่ยงภัยให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามหมู่บ้านชายแดน

นางปทิดา เล่าวว่า วันนี้เดินทางมามอบของและเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้อพยพ โซนฝั่งอำเภอพนมดงรัก โดยวันนี้เยี่ยมให้กำลังใจกันผู้อพยพ โดยสถาการณ์รอบนี้ถือว่า ดีกว่ารอบที่แล้ว เพราะชาวบ้านชายแดนมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น จากครั้งที่แล้วโดยเตรียมเครื่องอุปกรณ์ และเครื่องนอนมาด้วย รอบนี้ทุกคนมีจัดเตรียมมาความพร้อมมาก และก็ทางจังหวัดก็ได้อำนวยความสะดวก แล้วก็ได้ส่งอำเภอแต่ละอำเภอมาที่ศูนย์อพยพอยู่ในแต่ละอำเภอ เจ้าของพื้นที่เองไม่ว่าจะเป็นท้องที่ท้องถิ่น หรือว่าโรงเรียน ที่ชาวบ้านอพยพมาอาศัยอยู่ ก็ได้ดูแลได้อย่างดีมากทุกคนก็มีความสุขมากขึ้น บอกว่ากินอิ่มนอนหลับ และก็มีที่พักมีที่นอนพร้อม 

แม้ว่าที่นี่ไม่เหมือนกับอยู่บ้านตัวเองก็ตาม แต่ทุกคนก็เป็นเสียงคล้ายคลึงกันว่า ก็เข้าใจสถานการณ์ แล้วก็อยากให้ทางพี่น้องทหารเราที่อยู่แนวหน้า มีความปลอดภัย โดยอยากให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมเรื่องการเยียวยาผู้อพยพ เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปขนาดไหน ก็คงจะฝากรัฐบาลให้มีการเตรียมพร้อมเรื่องเงินที่จะเยียวยาผู้อพยพ และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ดำเนินการ คือเรื่องเงินค่าเสี่ยงภัย ให้กับพี่น้อง ช.ร.บ.เพราะว่ารอบการกันสู้รบกันรอบนี้ค่อนข้างจะจะดุเดือดกว่ารอบที่แล้ว เพราะฉะนั้นพี่น้องช.ร.บ.ก็ทำงานค่อนข้างจะหนักมาก จึงอยากจะฝากการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องช.ร.บ.เหมือนที่ตนเคยพูดในสภา

'เราไม่รู้ว่าการสู้รบอย่างนี้ จะยังเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในอนาคต เพราะฉะนั้นการเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเรื่องของขวัญกำลังใจของของเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ปฏิบัติการแนวหลัง ที่ช่วยเจ้าหน้าที่แนวหน้า เราก็จะเห็นว่าสิ่งของที่เข้ามาสนับสนุน อาจจะอาจจะมีเบาบางลง แต่ก็ยังมีของหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาดูแลผู้ประสบภัยได้ได้ค่อนข้างที่จะไม่ได้ขาดแคลนอะไรมากมาย แต่อาจจะเป็นเฉพาะเรื่องนมเด็ก หรืออะไรบ้างนั้นก็เป็นปัญหาเฉพาะเรื่อง อาจจะต้องฝากถึงหน่วยงานภาครัฐ อาจจะต้องเพิ่มเติมมา'