วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
21 ธันวาคม 2568 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารนิติเวช โรงพยาบาลสุรินทร์ น.พ.ชวมัย สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่บุคลากรโรงพยาบาลสุรินทร์ เตรียมส่งมอบร่าง จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี สังกัด ร.23 พัน.3 และ พลทหารภานุรัตน์ เสาร์สา อายุ 22 ปี สังกัด ร.23/3 ได้พลีชีพพร้อมกันทั้ง 2 นาย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.68 ที่เนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ทางโรงพยาบาลสุรินทร์ได้ส่งร่างอันไร้วิญญาณ ให้กับโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน เพื่อส่งกลับให้ครอบครัวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนายังภูมิลำเนาต่อไป

หลังจากที่ส่งร่างผู้กล้าทั้ง 2 นาย มาชันสูตรที่โรงพยาบาลสุรินทร์เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้กล้าทั้ง 2 นายบรรจุลงหีบศพพร้อมกับคลุมธงชาติไทยอย่างสมศักดิ์ศรี บุคคลกรทางการแพทย์โรงพยาบลสุรินทร์ และญาติคนไข้ที่อยู่บริเวณนั้น ต่างยืนสดุดีให้กับผู้กล้าในขณะที่ร่างเคลือนผ่าน
โดยทางด้านครอบครัวของ จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน ได้เดินทางมารับร่างพร้อมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์ ก่อนที่จะนำร่างกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ภูมิลำเนาต่อไป หลังจากนำร่างขึ้นรถตู้พยาบาล นพ.ชวมัย สืบนุการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ได้ยืนสดุดีพร้อมคำนับเพื่อแสดงความอาลัยและเชิดชูให้กับผู้กล้าเป็นครั้งสุดท้าย

โดยทางด้านภรรยาของจ่าสิบเอกสำเริง ได้พูดคุยและปิดใจกับทางผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่ทางด้านจ่าเริงจะเสียชีวิตได้พูดบางอย่างกับตนเอง และสั่งเสียบอกกับลูกสาวว่าต่อไปนี้อาจจะไม่ได้ติดต่อกันอีก
นางธัญญรัตน์ คลังประโคน อายุ 39 ปี ภรรยาจ่าเริง เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.68 ก่อนที่จ่าเริงจะเข้าสมรภูมิรบและพลีชีพได้โทรมาพูดคุยและบอกตนว่า ถ้าจ่าเริงไม่อยู่แล้วฝากดูแลแม่ด้วยนะ และเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.68 จ่าเริงได้พิมพ์ทางแชทมาบอกลูกว่า หลังจากนี้พ่อจะไม่ได้ทักหาหนูอีกแล้วนะ และลูกก็ตอบ จ้า จากนั้นก็จบไปเลย จากนั้นก็ตนเองก็มีอาการตาขวากะตุกตลอดเวลาและคิดในใจว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีเข้ามาหรือเปล่า และผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มีข่าวร้ายแจ้งมาว่า จ่าเริง พลีชีพในสมรภูมิรบ 350 และจ่าเริงเคยเอารูปตอนที่สมัยหนุ่ม ตอนที่จบจากนักเรียนนายสิบ ถามตนว่าหล่อไหม ตนก็บอกว่าหล่อและจ่าเริงก็บอกว่าขอเอารูปนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก และไม่คิดว่าจะได้เอารูปที่จ่าเริงชอบมาเป็นรูปสุดท้าย

โดยทางลูกสาวของจ่าเริงมี 2 คน น้องพัด คนเล็ก น้องพลอย คนโต ได้โอบกอดรูปพ่อและหอมพ่ออยู่ตลอดเวลาและบอกว่าหนูคิดถึงพ่อจัง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยน้องพลอยลูกสาวคนโตของจ่าเริง ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตพ่อได้ทักมาบอกว่า ต่อไปนี้พ่อจะไม่ได้ติดต่อหาแล้วนะ เพราะว่าพ่อสัญญาณไม่ดีและก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยจากนั้นพ่อก็ไม่ทักมาอีกเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี