วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และ อบต.ปังกู เร่งจัดสถานที่รับศพจ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ครอบครัวเดินทางไปดูศพและรับร่างกลับบ้านเกิด ประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ ขอบคุณเพื่อนร่วมรบทุกนายที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและช่วยพาร่างกลับบ้าน เผยลูกชาย 4 ขวบเห็นพ่อใส่ชุดทหารมาหาที่วัด
21 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่จากอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลปังกู ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ได้เร่งช่วยกันจัดสถานที่ภายในวัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย เพื่อรอรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง หรือจ่าเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ทหารสังกัด ร.23 พัน.3 ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชา เพื่อปกป้องอธิปไตย บริเวณเนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิดอย่างสมเกียรติ

หลังจากครอบครัวได้เฝ้ารอรับร่างของจ่าเริง มาประกอบพิธีทางศาสนามานาน 4 วัน แต่การปะทะยังรุนแรงจึงไม่สามารถนำร่างทหารกล้าทั้ง 2 นาย ที่พลีชีพในสมรภูมิเนิน 350 ออกมาได้ กระทั่งวันที่ 20 ธันวาคม ทหารไทยไดเข้ายึดคืนเนิน 350 สำเร็จ และสามารถนำร่าง จ.ส.อ.เริง และพลทหารภานุพัฒน์ ทหารกล้าทั้ง 2 นายลงจากเนิน 350 ได้ และทำการเคลื่อนร่างจ่าเริง พร้อมพลทหารภานุพัฒน์ ไปยังโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจชันสูตรศพตามขั้นตอน

ขณะที่ ผู้เป็นแม่ ภรรยา ลูกทั้ง 4 คน และสมาชิกในครอบครัว ก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อร่วมพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ก่อนที่จะมีการทำพิธีส่งร่างจ่าเริง กลับคืนภูมิลำเนาเช้าวันนี้ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิด อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ อย่างสมเกียรติต่อไป

โดยมีกำหนดประกอบพิธีทางศาสนาศพ จ.ส.อ. สำเริง คลังประโคน ที่วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ดังนี้ วันที่ 21 ธ.ค. 68 เวลา 13.00 น. ศพเคลื่อนมาถึงวัด เวลา 18.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ , พิธีเชิญพวงมาลาหลวง พระราชทาน , พิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ถึงวันที่ 23 ธ.ค.68 จากนั้น วันที่ 24 ธ.ค.68 เวลาประมาณ 17.00 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ
นางแสงเทียน ยามดี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจ่าเริง บอกว่า ดีใจที่เจอร่างน้องแล้ว เพราะทุกคนในครอบครัวต่างก็เฝ้ารอมา 4 วันแล้ว ก็กลัวว่าจะไม่ได้เจอเขาแบบครบ 32 ก็ดีใจที่น้องได้กลับบ้าน ที่ผ่านมาเขาเคยพูดไว้ว่าถ้าเขาไม่ได้แผ่นดินคืนเขาจะไม่กลับบ้าน ก็ขอบคุณเพื่อนร่วมรบทุกนายที่เคยดูแลร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน รวมถึงขอบคุณผู้บังคับบัญชาที่พาร่างน้องกลับบ้าน ก็ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี เขาได้ทำสำเร็จในสิ่งที่เขาหวังแล้ว ก็ภาคภูมิใจในตัวน้องมาก ยกให้เขาเป็นวีรบุรุษคนหนึ่งที่ได้ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละกล้าหาญ ทุกคนจะจารึกเขาไว้ในใจตลอด

นางแสงเทียน ยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 หลังจากทราบว่าเขาเสียชีวิตในสนามรบแล้ว ลูกชายคนที่ 3 ของจ่าเริง อายุ 4 ขวบ ซึ่งวิ่งเล่นอยู่ในวัด ก็ได้ไปบอกแม่และญาติว่าเห็นพ่อใส่ชุดทหารเดินอยู่ในวัดก่อนจะเดินหายไป ก็คิดว่าเขาคงจะคิดถึงลูกเขามาก หรืออาจจะมาลาหรือมาหาคนในครอบครัวหรือไม่ ตนก็บอกไม่ได้เรื่องแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่บุคคล.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี