13 ส.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหาร จนท.ป่าไม้และอุทยานฯได้ร่วมกันปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้ในป่าสาละวินอย่างหนักตั้งแต่เดือนเม.ย.57 จนทำให้ขบวนการมอดไม้หยุดชะงัก แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมนายทุนและผู้มีอิทธิที่อยู่ เบื้องหลังขบวนการลักลอบตัดไม้ครั้งนี้ได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติสาละวินพร้อมด้วยสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้ลงพื้นที่บริเวณห้วยแม่ปัวระหว่างเส้นทางจากแม่สามแลบไปยังอำเภอสมเมย เพื่อตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ พบว่าได้มีการลักลอบตัดต้นสักขนาดใหญ่อายุร่วม 100 ปี

เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เป็นร่องรอยที่เพิ่งตัดเพราะยังใหม่และเห็นชัดในหน้าฝน และได้มีการชักลากไม้โดยใช้ล้อเข็นไปตามถนนและลากลงแม่น้ำสาละวินเพื่อล่องไปยังประเทศเมียนมาร์ นอกจากนี้ในอีกหลายจุดที่อยู่ห่างออกไปก็พบร่องรอยการตัดไม้ในลักษณะเดียว กันด้วย

“ขณะนี้กลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ได้เริ่มลงมือตัดไม้อีกครั้ง เนื่องจากเมื่อถึงฤดูฝนปริมาณน้ำในแม่น้ำสาละวินได้เอ่อสูงขึ้น ทำให้ง่ายต่อการชักลากไม้ ประกอบกับกองกำลังทหารพรานที่เคยร่วมปราบปรามได้ถอนกำลังไปหมดแล้ว จึงทำให้ในตอนกลางคืนเป็นโอกาสที่ดีในการตัดไม้และชักลากลงแม่น้ำ ขณะที่ชาวบ้านเองก็เริ่มไม่กล้าให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่อีกต่อไปเนื่องจากเห็น ถึงความไม่จริงจัง ขนาดเป็นข่าวใหญ่โตแต่ก็ไม่สามารถจับกุมเหล่าขบวนการลักลอบตัดไม้ครั้งนี้ได้”

จนท.อุทยานฯ กล่าวว่า ชาวบ้านเคยมีการบอกกับทหารพรานไปแล้วว่า หากต้องการสกัดกั้นขบวนการ ลักลอบตัดไม้จริงๆ ก็น่าจะมาตั้งจุดตรวจค้นบริเวณนี้ แต่ฝ่ายทหารไม่ยอมตั้งด่านตรงนี้ เช่นเดียวกับบริเวณบ้านสบเมยซึ่งเป็นจุดที่ขบวนการฯจะล่องไม้เข้าพม่า หากตั้งด่านตรวจก็จะพบความผิดปกติ แต่ก็ไม่ยอมตั้งด่าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านสงสัยมาก