จับยาวชนคู่ผัวเมีย ติดยาจนกลายเป็นทาส ตระเวนขโมยจยย.แลกยาบ้าเสพ ผู้เสียหายแห่ตัวดู โวยวายเพราะไม่เข้าใจกฎหมาย

26 พฤษภาคม 2568 สืบเนื่อง มีคนร้ายชายหญิงลักษณะเหมือนคู่ผัวเมีย เข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น 110ไอ สีขาวแดง ทะเบียนมุกดาหาร ซึ่งเป็นของนายชาญวิทย์ หรือบอย อายุ 23 ปี บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม พนักงานทั่วไปโรงพยาบาลนครพนม เมื่อเวลาประมาณตีสองเศษ วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ในเบื้องต้นได้ตำรวจเช็คกล้องภายในโรงพยาบาลอย่างละเอียด พบว่าคนร้ายคู่นี้ไม่ได้มาเยี่ยมญาติแต่อย่างใด เหมือนจงใจมาขโมยโดยเฉพาะ เพราะเดินเลาะหารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในที่จอดรอบบริเวณนั้น และเลือกเฉพาะรถที่ไม่ได้ล็อคคอเป็นหลัก เมื่อได้รถเป้าหมายแล้วก็ใช้กุญแจผีสตาร์ทเครื่องขับออกไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ต่อมาวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 นางพิกุล อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม ได้พาลูกสาวคือ น.ส.ธิดารัตน์ หรือน้องเมล อายุ 19 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชนุตร์ ภูเทียมศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน นครพนม ที่จอดไว้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเพื่อเข้าไปฝึกงาน กระทั่งเวลาประมาณห้าโมงเย็น พบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไป ทางห้างจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาขโมยไป ปรากฏว่าลักษณะคนร้ายคู่นี้ เหมือนกับคนที่ขโมยรถจักรยานยนต์ในโรงพยาบาลมาก

โดยชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นครพนม ได้ไล่เช็คกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ พบว่าคนร้ายหลังขโมยรถจักรยนต์ได้แล้ว ขับมุ่งหน้าที่ทางทิศเหนือผ่าน อ.ท่าอุเทน และไปสิ้นสุดที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงตรวจสอบข้อมูลจนทราบพิกัดชัดเจนว่า ผู้ต้องสงสัยคู่นี้พักอยู่ที่ไหน วันที่ 25 พฤษภาคมจึงไปนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นเยาวชนทั้งคู่ ทราบชื่อนายม่อน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองฝ่ายทราบว่ามีการจับกุมคนร้ายได้ ต่างชักชวนกันเดินทางมาดูหน้าผู้ต้องสงสัยรายนี้เกือบ 20 คน โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชน และมีกฎหมายคุ้มครอง จึงสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผู้เสียหาย

ต่อมา พ.ต.อ.ธนชิต สุขพัฒนานรากุล ผกก.สภ.เมืองนครพนม และ พ.ต.ท.พร้อม รัตนะ รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองนครพนม ได้มาทำความเข้าใจแก่กลุ่มผู้เสียหาย ว่าทั้งคู่เป็นเยาวชนการสอบสวนต้องรอบคอบตามที่กฎหมายอนุญาต เบื้องต้นเชื่อได้ว่าทั้งคู่น่าจะเป็นคนร้ายที่ขโมยรถจักรยานยนต์จากสถานที่ 2 แห่ง ในส่วนที่มีข้อสงสัยว่าคดีอาญาไกล่เกลี่ยได้ไหม ตามกฎหมายในบางคดี ไกล่เกลี่ยได้ จึงไม่อยากให้วู่วาม ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัย ยืนยันตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง และหลังกลุ่มผู้เสียหายเข้าใจก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ว่าน้องเอ๋ก่อนนี้เป็นเด็กเรียนดี มีเกรดเฉลี่ย 3.5 แทบทุกวิชา ภายหลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด การเรียนก็เริ่มถดถอยและขาดเรียนบ่อย เนื่องจากไปมั่วสุมเสพยาบ้ากับเพื่อนๆ สุดท้ายพ่อแม่ก็ห้ามไม่อยู่ เพราะน้องเอ๋กลายเป็นเด็กก้าวร้าว จะทำร้ายบุพการีจากพิษยาเสพติด จึงต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และเข้าสู่วังวนของยาเสพติดเต็มตัว

กระทั่งมาเจอกับนายม่อน ชาวบึงกาฬ ที่เป็นนักเสพยาบ้าตัวยง ทั้งคู่จึงใช้ชีวิตร่วมกัน ก่อนได้พบนายทุนคนหนึ่ง ให้ยาบ้าสองผัวเมียคู่นี้เสพฟรี แต่ต้องทำงานให้ด้วยการหาขโมยรถจักรยานยนต์มาแลก ทั้งคู่ต้องการยาเสพจึงพากันเลาะหาขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในชุมชนใหญ่ เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เพื่อนำมาแลกกับยาบ้าเสพ

ทั้งนี้คู่ผัวเมียได้สะสมประสบการณ์จนมีความช่ำชอง แม้จะถูกนำตัวมาสอบสวนมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ก็ไม่มีอาการสะทกสะท้าน ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ตนเอง ขณะให้ปากคำทั้งคู่มีอาการมือไม้อยู่ไม่สุข เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าอาจเสพยามา จึงจะนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พร้อมขยายผลหาตัวการใหญ่ต่อไป

.012