วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากจะบอกว่าไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ตมา แล้วอยากจะมาเล่าสู่กันฟัง เริ่มเลยละกัน ก่อนวันเดินทางฉันนอนไม่หลับเลยดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้เดินทางไปกับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เชียงใหม่-ภูเก็ต ของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ สายการบินที่เป็นที่หนึ่งในใจเสมอ ทั้งการบริการ การอำนวยความสะดวก ที่สำคัญที่ฉันชอบคือมีเลานจ์ หรือห้องรับรองไว้ให้รอขึ้นเครื่อง อีกทั้งมีขนมปัง ข้าวต้มมัด ชา กาแฟ ฯลฯ บริการอีกด้วย (ขอชมหน่อยข้าวต้มมัดอร่อย) ฉันเตรียมชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด ครีมกันแดด หมวกสวยๆ ชุดเดินเล่นชายหาด เรียกว่า พร้อมเพื่อจะถ่ายรูปสวยๆ มาอวด การเดินทางของฉันใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงก็ถึงจังหวัดภูเก็ตแล้ว เร็วดีจัง! ฉันตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน เกาะภูเก็ต สมญานามนี้ได้มาจากความงดงามของท้องทะเล สวยงามจริงๆ แม้กระทั่งอยู่บนเครื่องบินมองลงมาก็จะเห็นเกาะต่างๆ ชายหาดสีขาว เส้นขอบฟ้ากับขอบน้ำมาบรรจบกัน งดงามไม่รู้จะบรรยายอะไร นอกจากคุณต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง คืนนั้นฉันนอนที่เคปพันวา รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดภูเก็ต โรงแรมสวยงามมาก มีชายหาดส่วนตัว อยู่ตรงแหลมพันวา แถมฉันยังได้ดินเนอร์สุดอลังการกับอาหารทะเลตั้งมากมาย ริมชายหาด หน้าบ้านพันวา คือมันฟินเวอร์อ่ะ!!!

เช้าวันรุ่งขึ้นคณะของพวกฉันมีโปรแกรมไปดำน้ำดูปะการัง การดำน้ำดูปะการังเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งซึ่งถ้ามาท่องเที่ยวทะเลแล้วไม่ไปถือว่าผิด! เพราะจังหวัดภูเก็ตมีเกาะรายล้อมอยู่มากมาย เช่น เกาะไข่ เกาะนาคาน้อย เกาะตะเภาใหญ่ เกาะราชา ฯลฯ ทำให้มีแหล่งชมปะการังที่สวยงามมากมาย อีกทั้งมีปลาสวยงามมากมายอีกด้วย ทั้งดำน้ำ สนอร์เกิล แต่ทริปของฉันนั้นไปเกาะเฮ เกาะเฮอยู่ไม่ไกลจากแหลมพันวา ที่ฉันพักมากนักเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เกาะเฮ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียดน้ำใสมาก มีปะการังน้ำตื้นที่ยังอุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลใส มองเห็นฝูงปลาแหวกว่ายมากมาย โลกใต้น้ำที่อยู่ทางด้านตะวันตก มีปะการังสมอง ปะการังผักกาด ปะการังเขากวาง ปะการังจาน เป็นแนวยาว และเหล่าปลาน้อยใหญ่ หลากสีสันสวยงาม เช่น ปลาผีเสื้อ ปลาโนรี ปลานกแก้ว ปลาสินสมุทร สามารถดำน้ำแบบสนอร์เกิลใช้หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจก็สามารถเห็นโลกใต้ทะเลที่สวยงาม ด้านหลังของเกาะยังมี ชายหาดสวย ขาวสะอาด น้ำทะเลใส ก็เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว พอไปถึงฉันไม่ลังเลใจเลยเมื่อเรือยอชท์ พันวา พรินซ์เซส (ขอไฮโซนิดนึงนะ) จอดปุ๊บฉันกระโดดลงน้ำปั๊บ เล่นน้ำ ดำน้ำ กระโดดน้ำสนุกสนานมาก ถ้าอยากเห็นปลาเยอะๆ ก็ต้องพกขนมปังลงน้ำทะเลไปด้วย พวกปลาทั้งหลายจะเข้ามาใกล้เราเองนะขอบอก!

หลังจากเหนื่อยกับกิจกรรมดำน้ำดูปะการังแล้วคณะเราได้ล่องเรือมายังท่าเทียบเรือ อ่าวฉลอง ราไวย์ภูเก็ต เพื่อจะไปรับประทานอาหารกันที่ในตัวเมืองภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นเมืองทางใต้ มีน้ำยาปู น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูฮ้อง ไข่เจียวกากหมู ใบเหลียงผัดไข่ ปลากระพงแดงเจี๋ยนผัดตะไคร้ อร่อยทุกอย่าง แต่ส่วนตัวฉันชอบน้ำยาปูมากที่สุด กินกับเส้นหมี่ อร่อยมากๆ และยังได้ลองลิ้มชิมหอยชักตีนอีกด้วย อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยกินมาก่อนก็คือ เบือทอดกรอบ คล้ายๆ ต้นหญ้าเลย มีแต่ทางภาคใต้เท่านั้นมั้ง รสชาติอร่อยเหาะทีเดียว หลังจากอิ่มหมีพีมันกันแล้วก็แวะเข้าไปชมย่านตึกเก่าซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตได้อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีให้คงเดิม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสวยงามของบ้านเรือนทรงยุโรป ทั้งยังมีแบบจีน ผสมผสานกันอยู่ที่แห่งนี้ รับรองว่าต้องไม่ลืมที่จะกดแชะภาพเป็นที่ระลึกแน่นอนเลย

การมาเที่ยวภูเก็ตต้องไม่พลาดที่จะชมวิวตามชายหาด และแต่ละหาดก็มีความงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป หาดยอดฮิตคงหนีไม่พ้นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดกมลา หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ออกมาจัดระเบียบหาดต่างๆ ไม่มีร่ม ไม่มีเก้าอี้พับ ไม่มีหวงยางวางเต็มหาด ก็ทำให้กลับมาเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่ชาวต่างชาติ นอนอาบแดด กันเยอะมาก รวมถึงมีกิจกรรม Advanture ต่างๆ ด้วย

และสุดท้ายไฮไลท์ของทริปที่ต้องไม่พลาดคือ ต้องมาเช็คอินที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน อันเลื่องชื่อ 
สวยงามไม่แพ้ที่ใดในโลก เวลาที่แน่นอนนั้นไม่แน่ชัดแต่ที่แน่ๆพอพระอาทิตย์ตกลาลับขอบฟ้าปุ๊บ ทุกอย่างมืดลงทันที จังหวัดภูเก็ตยังมีอะไรดีๆ มากมายกว่าที่คิด ทั้งกิจกรรมกลางวัน กลางคืน เป็นจังหวัดที่มีครบทุกสิ่ง สมแล้วกับสมญานาม Pearl Of Andamam ไข่มุกแห่งอันดามัน

ศุภรักษ์ จิรกิจญาดา