กระบี่-พังงา-ภูเก็ต..3จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนนับล้านคน เช่นตัวเลขจาก กรมการท่องเที่ยว ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตลอดปี 2556 แม้นับเพียงสนามบินภูเก็ตที่เดียว ก็ยังสูงถึง 3,155,028 คน ส่วนสนามบินกระบี่ อยู่ที่ 227,245 คน ยังไม่นับผู้ที่เข้ามาทางท่าอากาศยานหลักของไทยอย่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ แล้วต่อรถทัวร์บ้าง รถไฟบ้างอีกเป็นจำนวนมาก
เมื่อพูดถึงกระบี่-พังงา-ภูเก็ต ภาพแรกที่นึกถึงไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ คงหนีไม่พ้นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีฟ้าดูงามตา เมื่อได้ดำน้ำดูปะการังจะเห็นความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้น้ำจนทำให้หลายคนหลงใหลโลกแห่งท้องทะเล แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจ “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวัฒนธรรม” ก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้เช่นกัน
เริ่มกันที่หมู่บ้านแรกคือ “บ้านบางโรง” ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่ “ป่าชายเลน” ที่เต็มไปด้วยไม้โกงกางที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ ด้วยพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ กิจกรรมที่แนะนำคือ “พายเรือคายัค” เที่ยวชมป่าโกงกางรอบพื้นที่ และชมวิถีชีวิตชาวบ้านบางโรงกับการประกอบอาชีพประมง เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง และรับประทานอาหารทะเลสดใหม่
นอกจากป่าโกงกางและวิถีชาวบ้านแล้ว ที่บ้านบางโรงยังมีน้ำตกบางแปที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว ตลอดระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรสู่น้ำตกบางแปจะมีต้นไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะปาล์มหลังขาวซึ่งเป็นการค้นพบปาล์มพันธุ์ใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตขึ้นบริเวณริมลำธาร
เมื่อเดินลัดเลาะทางชันของเขาไปเรื่อยๆ จะพบกับน้ำตกบางแป ซึ่งเป็นน้ำตกสายเล็กๆไหลลงในช่องหินสู่ธารน้ำซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยในพื้นที่และชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกัน นอกจากนั้นในพื้นที่เดียวกันนี้ยังเป็นสถานอนุบาลชะนีเจ็บป่วยก่อนที่จะปล่อยคืนสู่ป่า ตามโครงการคืนชะนีสู่ป่าอีกด้วย
คำแนะนำ..ตำบลป่าคลอกประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งตามหลักศาสนาห้ามบริโภคสิ่งมึนเมา ดังนั้นตามมารยาทนักท่องเที่ยวที่ดี พึงให้เกียรติเจ้าของพื้นที่ จึงไม่ควรนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มโดยเด็ดขาด!!!
ถัดจากภูเก็ต เราเดินทางต่อไปยัง “บ้านโคกไทร” ตั้งอยู่ที่ตำบลมะลุ่ย อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ที่นี่เป็นแหล่งเลี้ยง “หอยนางรม” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการส่งออกพันธุ์หอยนางรมไปเลี้ยงยังพื้นที่อื่นๆ แน่นอนว่าหอยนางรมตามร้านอาหารต่างๆ ทั่วภูเก็ต มาจากที่นี่ทั้งสิ้น และอกจากหอยนางรมแล้ว บ้านโคกไทรยังมีสินค้า OTOP อื่นๆให้ได้ซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก เช่น กะปิตำมือ กุ้งย่าง กุนเชียงปลา เป็นต้น
ไม่เพียงแต่ได้รับประทานหอยนางรมสดๆ จากฟาร์มเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง คือ “หาดทรายร้อน-หาดน้ำร้อน” ในช่วงที่น้ำทะเลลดระดับ บริเวณดังกล่าวจะกลายเป็นน้ำทะเลร้อน ทรายร้อนและโคลนร้อน ซึ่งเกิดจากรอยแยกของเปลือกโลกจากรอยเลื่อนมะรุ่ย หาดทรายร้อนและโคลนร้อนเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเพียงแค่เดือนละ 6 วันเท่านั้น ในช่วงแรมหรือขึ้น 3-5 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้ำลง โดยหากมาตอนช่วงเช้าๆ จะได้เห็นหมอกควันสีขาวลอยอยู่เหนือหาดทราย
คำแนะนำ..หากประสงค์จะไปเที่ยวหาดทรายร้อน ควรติดต่อกับผู้ประสานงานของทางหมู่บ้านก่อน เพราะการนั่งเรือเข้าไปจะต้องผ่านป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ และฟาร์มหอยนางรมของชาวบ้านตลอดทาง!!!
ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ที่ “บ้านถ้ำเสือ” ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำเสือใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของจังหวัด เหตุที่เรียกชื่อหมู่บ้านว่าถ้ำเสือ เพราะในอดีตพื้นที่นี้มีเสือชุกชุมมาก ตั้งอยู่ตอนเหนือของจังหวัดกระบี่ ทิศตะวันตกติดทะเลอันดามัน บ้านถ้ำเสือนั้นอยู่ใกล้กับ “สระมรกต-น้ำตกร้อน” สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากแนวรอยเลื่อนมะลุ่ยพาดผ่าน ทำให้น้ำในลำธารนี้มีอุณหภูมิอุ่นๆ ราว 30-50 องศาเซลเซียส
อีกจุดที่อยากแนะนำ คือ “ถ้ำคลัง” เมื่อเข้าไปด้านใน จะพบหินควอทซ์ ลักษณะเหมือนหลอดกาแฟนับพันแท่งและหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ถ้ำแห่งนี้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน ดังนั้นหากต้องการเข้าไปในถ้ำ ควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลพื้นที่เพื่อนำทาง อนึ่ง..ภายในถ้ำไม่มีไฟฟ้า ต้องใช้ไฟฉายส่องสว่าง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เตรียมไป สามารถติดต่อกับทางชุมชนได้เพราะมีจัดเตรียมไว้ให้
แต่สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย แนะนำให้ไป “ถ้ำผีหัวโต” ถ้ำธารลอดที่สามารถพายเรือเข้าไปได้ เหตุที่เรียกชื่อดังกล่าว เป็นเพราะเคยมีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่กว่าคนยุคปัจจุบัน ซึ่งคากว่าพื้นที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเป็นชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ เนื่องจากพบภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์ เขียนเป็นลายเส้นและแต้มสีตกแต่งลวดลายด้วยสีแดง สีดำ สีเหลือง สีน้ำตาล มีทั้งภาพคน ,สัตว์ และภาพเรขาคณิต เป็นจำนวนมาก
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อาจต้องการบรรยากาศสงบเรียบง่ายตามธรรมชาติ นอกเหนือไปจากท้องทะเลและแสงสี ที่รู้จักกันทั่วไปอยู่แล้ว!!!
บุษยมาศ ซองรัมย์
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี