วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เที่ยว'กระบี่-พังงา-ภูเก็ต' ถิ่นนี้..มีดีมากกว่าแค่ทะเล

เที่ยว'กระบี่-พังงา-ภูเก็ต' ถิ่นนี้..มีดีมากกว่าแค่ทะเล

วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 08.34 น.
Tag :
  •  

กระบี่-พังงา-ภูเก็ต..3จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนนับล้านคน เช่นตัวเลขจาก กรมการท่องเที่ยว ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตลอดปี 2556 แม้นับเพียงสนามบินภูเก็ตที่เดียว ก็ยังสูงถึง 3,155,028 คน ส่วนสนามบินกระบี่ อยู่ที่ 227,245 คน ยังไม่นับผู้ที่เข้ามาทางท่าอากาศยานหลักของไทยอย่างดอนเมืองและสุวรรณภูมิ แล้วต่อรถทัวร์บ้าง รถไฟบ้างอีกเป็นจำนวนมาก

เมื่อพูดถึงกระบี่-พังงา-ภูเก็ต ภาพแรกที่นึกถึงไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ คงหนีไม่พ้นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีฟ้าดูงามตา เมื่อได้ดำน้ำดูปะการังจะเห็นความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้น้ำจนทำให้หลายคนหลงใหลโลกแห่งท้องทะเล แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจ “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวัฒนธรรม” ก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้เช่นกัน

เริ่มกันที่หมู่บ้านแรกคือ “บ้านบางโรง” ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่ “ป่าชายเลน” ที่เต็มไปด้วยไม้โกงกางที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ ด้วยพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ กิจกรรมที่แนะนำคือ “พายเรือคายัค” เที่ยวชมป่าโกงกางรอบพื้นที่ และชมวิถีชีวิตชาวบ้านบางโรงกับการประกอบอาชีพประมง เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง และรับประทานอาหารทะเลสดใหม่

นอกจากป่าโกงกางและวิถีชาวบ้านแล้ว ที่บ้านบางโรงยังมีน้ำตกบางแปที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว ตลอดระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรสู่น้ำตกบางแปจะมีต้นไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะปาล์มหลังขาวซึ่งเป็นการค้นพบปาล์มพันธุ์ใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตขึ้นบริเวณริมลำธาร


เมื่อเดินลัดเลาะทางชันของเขาไปเรื่อยๆ จะพบกับน้ำตกบางแป ซึ่งเป็นน้ำตกสายเล็กๆไหลลงในช่องหินสู่ธารน้ำซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยในพื้นที่และชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกัน นอกจากนั้นในพื้นที่เดียวกันนี้ยังเป็นสถานอนุบาลชะนีเจ็บป่วยก่อนที่จะปล่อยคืนสู่ป่า ตามโครงการคืนชะนีสู่ป่าอีกด้วย

คำแนะนำ..ตำบลป่าคลอกประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งตามหลักศาสนาห้ามบริโภคสิ่งมึนเมา ดังนั้นตามมารยาทนักท่องเที่ยวที่ดี พึงให้เกียรติเจ้าของพื้นที่ จึงไม่ควรนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มโดยเด็ดขาด!!!

ถัดจากภูเก็ต เราเดินทางต่อไปยัง “บ้านโคกไทร” ตั้งอยู่ที่ตำบลมะลุ่ย อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ที่นี่เป็นแหล่งเลี้ยง “หอยนางรม” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการส่งออกพันธุ์หอยนางรมไปเลี้ยงยังพื้นที่อื่นๆ แน่นอนว่าหอยนางรมตามร้านอาหารต่างๆ ทั่วภูเก็ต มาจากที่นี่ทั้งสิ้น และอกจากหอยนางรมแล้ว บ้านโคกไทรยังมีสินค้า OTOP อื่นๆให้ได้ซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก เช่น กะปิตำมือ กุ้งย่าง กุนเชียงปลา เป็นต้น

ไม่เพียงแต่ได้รับประทานหอยนางรมสดๆ จากฟาร์มเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง คือ “หาดทรายร้อน-หาดน้ำร้อน” ในช่วงที่น้ำทะเลลดระดับ บริเวณดังกล่าวจะกลายเป็นน้ำทะเลร้อน ทรายร้อนและโคลนร้อน ซึ่งเกิดจากรอยแยกของเปลือกโลกจากรอยเลื่อนมะรุ่ย หาดทรายร้อนและโคลนร้อนเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเพียงแค่เดือนละ 6 วันเท่านั้น ในช่วงแรมหรือขึ้น 3-5 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้ำลง โดยหากมาตอนช่วงเช้าๆ จะได้เห็นหมอกควันสีขาวลอยอยู่เหนือหาดทราย

คำแนะนำ..หากประสงค์จะไปเที่ยวหาดทรายร้อน ควรติดต่อกับผู้ประสานงานของทางหมู่บ้านก่อน เพราะการนั่งเรือเข้าไปจะต้องผ่านป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ และฟาร์มหอยนางรมของชาวบ้านตลอดทาง!!!

ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ที่ “บ้านถ้ำเสือ” ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำเสือใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของจังหวัด เหตุที่เรียกชื่อหมู่บ้านว่าถ้ำเสือ เพราะในอดีตพื้นที่นี้มีเสือชุกชุมมาก ตั้งอยู่ตอนเหนือของจังหวัดกระบี่ ทิศตะวันตกติดทะเลอันดามัน บ้านถ้ำเสือนั้นอยู่ใกล้กับ “สระมรกต-น้ำตกร้อน” สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากแนวรอยเลื่อนมะลุ่ยพาดผ่าน ทำให้น้ำในลำธารนี้มีอุณหภูมิอุ่นๆ ราว 30-50 องศาเซลเซียส

อีกจุดที่อยากแนะนำ คือ “ถ้ำคลัง” เมื่อเข้าไปด้านใน จะพบหินควอทซ์ ลักษณะเหมือนหลอดกาแฟนับพันแท่งและหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ถ้ำแห่งนี้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน ดังนั้นหากต้องการเข้าไปในถ้ำ ควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลพื้นที่เพื่อนำทาง อนึ่ง..ภายในถ้ำไม่มีไฟฟ้า ต้องใช้ไฟฉายส่องสว่าง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เตรียมไป สามารถติดต่อกับทางชุมชนได้เพราะมีจัดเตรียมไว้ให้

แต่สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย แนะนำให้ไป “ถ้ำผีหัวโต” ถ้ำธารลอดที่สามารถพายเรือเข้าไปได้ เหตุที่เรียกชื่อดังกล่าว เป็นเพราะเคยมีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่กว่าคนยุคปัจจุบัน ซึ่งคากว่าพื้นที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเป็นชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ เนื่องจากพบภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์ เขียนเป็นลายเส้นและแต้มสีตกแต่งลวดลายด้วยสีแดง สีดำ สีเหลือง สีน้ำตาล มีทั้งภาพคน ,สัตว์ และภาพเรขาคณิต เป็นจำนวนมาก

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อาจต้องการบรรยากาศสงบเรียบง่ายตามธรรมชาติ นอกเหนือไปจากท้องทะเลและแสงสี ที่รู้จักกันทั่วไปอยู่แล้ว!!!
                                                             
บุษยมาศ  ซองรัมย์
SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มทภ. 2 ตรวจเยี่ยมทหารฐานฯ ปราสาทตาเมือนธม ชาวบ้านตะโกนโห่ร้องไชโย มทภ. 2 ตรวจเยี่ยมทหารฐานฯ ปราสาทตาเมือนธม ชาวบ้านตะโกนโห่ร้องไชโย
  • ยกพระราชดำรัส\'ร.4\' ที่ฉันพูดมานี่ไม่ใช่เพราะเวลานี้เท่านั้น แต่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของเรา ต้องรักษาแผ่นดินไว้ให้ดี ยกพระราชดำรัส'ร.4' ที่ฉันพูดมานี่ไม่ใช่เพราะเวลานี้เท่านั้น แต่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของเรา ต้องรักษาแผ่นดินไว้ให้ดี
  • อุตุฯเตือน51จว. เฝ้าระวังฝนถล่ม พิษพายุ‘หวู่ติบ’ ภาคอีสานรับมือ อุตุฯเตือน51จว. เฝ้าระวังฝนถล่ม พิษพายุ‘หวู่ติบ’ ภาคอีสานรับมือ
  • พลังประชาชน! ยางรถยนต์ที่ทุกท่านมอบให้ ถูกนำไปสร้างบังเกอร์แล้ว พลังประชาชน! ยางรถยนต์ที่ทุกท่านมอบให้ ถูกนำไปสร้างบังเกอร์แล้ว
  • ‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย ‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย
  • ‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์ ‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์
  •  

Breaking News

เลขเด็ดพญาบึ้งมาแล้ว! นักเสี่ยงโชคแห่ขอเลข ลุ้นรวยงวดนี้

'รมว.ยุติธรรม'ผนึกกำลังผู้นำศาสนา-ปชช. ประกาศ'วาระควบคุมพืชกระท่อม'พื้้นที่ชายแดนใต้

เศร้า! พ่อ'เก๋ไก๋ สไลเดอร์' เสียชีวิตในบ้านพัก คาดโรคประจำตัวกำเริบ

'ในหลวง-พระราชินี' ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินในพระเจ้าชาลส์ที่ 3

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved