ไฟไหม้โรงงานSVI
คนงานหนีตายวุ่น
เสียหายนับพันล้าน
สั่งปิดทำการ60วัน
เมื่อเวลา 05.00น.วันที่ 12พฤศจิกายน พ.ต.ท.ชัยทัศน์ ลิ้มกุล พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานของบริษัท เอสวีไอ(SVI) จำกัด (มหาชน) ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี เลขที่142 ม.5 ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลบางกระดีและท้องที่ใกล้เคียงกว่า 20คัน เข้าดับเพลิงซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พบเพลิงโหมลุกไหม้โกดังที่เป็นอาคารชั้นเดียว ด้านในเป็นคลังเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แก๊สและน้ำมัน มีกลุ่มควันพุ่งออกมาจำนวนมาก พร้อมเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง
สอบสวนพนักงานฝ่ายผลิตให้การว่า ขณะเกิดเหตุทำงานอยู่ที่ฝ่ายผลิต ซึ่งอยู่ชั้นล่างของอาคาร ได้กลิ่นเหม็นไหม้ และมีควันออกมาจากห้องทำงาน ชั้น 2 จากนั้นก็มีเสียงตะโกนบอกกันว่าไฟไหม้ พนักงานกะดึกที่ทำงานอยู่ประมาณ 200 คนพากันวิ่งหลบหนีออกมา โดยไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงพนักงาน 2 คนบาดเจ็บ จากการสำลักควันไฟถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปทุมธานี ทราบชื่อคือ น.ส.จิรพร โชติช่วง อายุ 34 ปี และนางสุนันทา ประสานทรัพย์ อายุ 47 ปี
จากนั้น นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ปทุมธานี ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่ยังไม่สงบดีและพยายามสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด อย่างไรก็ตาม พบว่า ด้านข้างตัวอาคารมีรอยร้าวเกิดขึ้น หลังคาพังเสียหายทั้งหมด เนื่องจากไฟลุกไหม้ทั้งตัวอาคารเป็นเวลานาน คาดว่ามูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ประกาศให้อาคารดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้า เพราะเกรงจะถล่มลงมา ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยนายศักดิ์ดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงาน กล่าวหลังเข้ามาตรวจสอบโรงงานที่เกิดเหตุไฟไหม้ว่า ได้สั่งทุบตัวอาคาร เพื่อระบายความร้อนและควันออกจากตัวอาคาร ส่วนตัวอาคารเสียหายไปกว่า 70% เบื้องต้นจึงประกาศสั่งปิดโรงงานดังกล่าวเป็นเวลา 60 วัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษได้เข้าตรวจหาปริมาณสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุซึ่งมีทั้งหมด 44 ไร่ ส่วนที่เกิดไฟไหม้ 20,000 ตารางเมตรด้วย
ด้านนางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)เปิดเผยว่า จากการตรวจสารพิษเบื้องต้นพบค่าเกินมาตรฐาน แต่ไม่ถึงกับส่งผลกระทบต่อประชาชน เพียงแต่จะมีอาการหายใจอึดอัด เมื่อสูดดมกลิ่นเข้าไปหรือระคายเคืองตาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาจมีการปนเปื้อนของแก๊สไฮโดรเจนคลอไรด์ และก๊าซไฮโดรเจนโบรไมด์ที่มาจากเชื้อเพลิงที่ผ่านการเผาไหม้จากกระบวนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแผงวงจร พลาสติก ซึ่งต้องนำน้ำจากการดับไฟที่มีสารปนเปื้อนที่ต้องนำไปผ่านการบำบัดตามกระบวนการก่อน
นางสุณีกล่าวด้วยว่า คพ.จะติดตามสถานการณ์เพื่อประเมินปริมาณสารพิษภายใน 24 ชั่วโมงว่ายังพบค่าสารผิดปกติเกินมาตรฐานอยู่หรือไม่ เพราะเป็นกรดแก๊สที่มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่ควรอยู่ในพื้นที่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ควรรับแก๊สเกิน50 พีพีเอ็ม (ค่าขีดการรับจำกัดการรับสารอย่างเฉียบพลัน) ส่วนประชาชนไม่ควรสูดดมสารพิษเกิน1.8-11พีพีเอ็ม เพราะทำให้ระคายเคือง และถ้าเกิน 22 พีพีเอ็มจะเป็นอันตราย ขณะนี้ มีรายงานว่าโรงเรียนนวมินทร์ราชูทิศ หอวัง เริ่มได้รับผลกระทบจากกลิ่นควันไฟแล้ว
นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางกะดีกล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้นั้นยังไม่ทราบ แต่การดับเพลิงทำได้ยาก เนื่องจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โครงสร้างอาคารร้าว โครงเหล็กอลูมิเนียมพังลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยาก
ขณะเดียวกัน สั่งอพยพพนักงาน ประชาชนที่อยู่ข้างเคียง และสั่งปิดโรงเรียนให้นักเรียนกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท เอสไอวี ที่นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี ทำให้ราคาหุ้นบริษัทเอสวีไอ (SVI ) ช่วงเช้าร่วงหนักถึง 27.27% เพราะนักลงทุนเทขายหลังบริษัทปิดดำเนินการชั่วคราว นางพิศมัย สายบัว เลขานุการบริษัท แจ้งว่า บริษัทต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว และยังไม่ทราบความเสียหาย แต่บริษัทได้ทำประกันคุ้มครองอัคคีภัย และธุรกิจหยุดชะงักไว้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี