วันหยุดยาวเป็นช่วงที่ทุกคนเฝ้ารอ เพื่อจะใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการเดินทางท่องเที่ยวดื่มด่ำความสุขให้เต็มอิ่ม แบบที่วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่อาจตอบสนองได้ แต่ในปีหนึ่งเราจะมีโอกาสหยุดยาวได้สักกี่ครั้ง

การดำน้ำเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะต้องใช้เวลาจากชายฝั่งไปยังจุดต่างๆ แหล่งดำน้ำที่ขึ้นชื่อลือชาย่อมต้องออกทะเลไปไกลจากชายฝั่ง คิดเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่น้อย แต่เหนืออื่นใดคือเวลาที่อาจจะไม่เอื้ออำนวยกับคนทำงานประจำที่หาช่วงวันหยุดยาวได้ยาก ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่หลงใหลโลกใต้ท้องทะเล ชายฝั่งตะวันออกของไทย ก็มีจุดดำน้ำที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ที่ถูกอกถูกใจเพราะเดินทางไปง่ายใช้เวลาและงบประมาณไม่มาก ก็ต้องที่จังหวัดชลบุรี

นับเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางด้านการท่องเที่ยวจนทำให้แต่ละปีมีนักเดินทางเข้ามากว่า 10 ล้านคน เพราะชลบุรีมีเรื่องราวหลากมิติให้เราเข้าไปค้นหา ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กิจกรรมผจญภัย หรือแหล่งบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ แต่ที่ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางเข้ามาไม่ขาดสาย ก็คือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะทางทะเล ซึ่งมีความน่าสนใจในหลากมุมมอง ทั้งการพักผ่อนชายหาด กิจกรรมหรู หรือกีฬาทางน้ำ และหนึ่งในนั้นคือการดำน้ำกลุ่มเกาะล้านสวรรค์ใต้ทะเล

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ที่ชลบุรีก็มีแหล่งดำน้ำอยู่มากมาย แค่ขยับจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างพัทยาไปยัง “เกาะล้าน”
ก็จะพบกับโลกใต้น้ำที่น่าหลงใหลยิ่งนัก

กลุ่มเกาะล้าน เกาะครก เกาะริ้น และเกาะสาก นับเป็นจุดดำน้ำจุดหลักของชลบุรี โดยเฉพาะที่เกาะล้าน ที่ห่างจากชายหาดพัทยาเพียง 7 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเรือธรรมดาประมาณ 45 นาที หากเป็นเรือเร็วก็แค่ 15 นาทีเท่านั้น นับเป็นสวรรค์ใกล้ฝั่งที่เชื้อเชิญให้คนรักกิจกรรมทางน้ำมาใช้เวลาอันแสนสุขกันที่นี่ แม้ชื่อจะไม่ได้ติดโผอยู่ในแหล่งดำน้ำที่ขึ้นชื่อระดับโลก แต่แหล่งดำน้ำที่เกาะล้านก็ไม่ธรรมดา แถมยังมีธรรมชาติใต้ทะเลที่นักดำน้ำหลายคนไม่อาจพบเจอที่ไหนง่ายๆ อาทิ ดอกไม้ทะเลหนวดยาว ปลาการ์ตูนอานม้า กุ้งดอกไม้ทะเล หอยสังข์จุกพราหมณ์ หอยกระต่าย รวมทั้ง ปลาลิ้นหมา ปลากระเบน หรือจะเป็นปลาผีเสื้อกลางคืน ไล่รายชื่อแล้วชักน่าสนใจ ทั้งนี้การมาดำน้ำที่เกาะล้านยังสามารถเลือกได้เกือบรอบเกาะ เรียกว่าเดินออกจากที่พักแล้วกระโจนลงไปในโลกใต้ทะเลกันได้เลย

ออกจากเกาะล้านไปยังกลุ่มเกาะใกล้เคียงอย่าง “เกาะสาก” ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะล้าน ชายหาดด้านทิศเหนือของเกาะสากได้รับความนิยมจากนักเรียนดำน้ำ ด้วยความลึกราว 10-15 เมตร ใต้น้ำมีลักษณะพื้นทรายเรียบ และมีกองปะการังเทียมอยู่ในบริเวณนั้น ส่วนจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมจะไล่จากทิศเหนือไล่ตลอดแนวไปทางตะวันออก ซึ่งเป็นแนวหินและแนวปะการัง เป็นชุมชนสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่คับคั่ง

เยื้องไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสาก เราจะพบกับเกาะเล็กที่มีชื่อน่ารักน่าชังอย่าง “เกาะครก” ซึ่งมีแนวหินและแนวปะการังทอดยาวอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ ระดับความลึก 12-15 เมตร ที่นี่ก็มีสัตว์ทะเลชื่อแปลกๆ ให้เราได้ชมเช่นกัน อาทิ ฟองน้ำครก ฟองน้ำแจกันสีน้ำเงิน ทากเปลือย ฯลฯ

หากอยากสัมผัสความงามให้ลึกเข้าไปอีกขั้น จากชายฝั่งพัทยาห่างออกไปราว 21 กิโลเมตร คือจุดของ “เกาะริ้น” ที่นี่อาจจะต้องใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงจากชายฝั่ง แต่นับว่าคุ้มค่าการดั้นด้นมา ความงดงามเริ่มต้นตั้งแต่แนวชายหาดโค้งยาว ระดับความลึกของน้ำไม่มากนัก จึงเหมาะกับการเริ่มต้นฝึกดำน้ำอีกด้วย ฝั่งชายหาดอาจจะมีเพียงผืนทรายใต้ทะเลกับแนวปะการังเล็กน้อย แต่หากตรงไปทางทิศใต้ของเกาะ ระดับน้ำจะลึก 15-22 เมตร และมีปะการังหนาแน่น แถมยังหลากหลายรูปแบบ ทั้งปะการังโขด ปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังดอกเห็ด ปะการังดำ ปะการังแส้ทะเล เป็นต้น แน่นอนว่าแหล่งปะการังที่สมบูรณ์ย่อมเป็นบ้านของหมู่มวลสัตว์ทะเล นับเป็นหมู่บ้านใต้น้ำที่คึกคักยิ่งนัก

จุดเรือจมมหัศจรรย์แห่งการผจญภัย

นอกจากจุดดำน้ำตามธรรมชาติแล้ว ที่ชลบุรียังมีแหล่งดำน้ำที่แปลกแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะมีบรรดาเรือที่ปลดระวางแล้วจมอยู่ใต้ท้องทะเล

“เรือหลวงคราม” จุดที่ได้ชื่อว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำแห่งแรกของไทย” เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลางของกองทัพเรือ เป็นเรือที่มาจากอู่ต่อเรือในสหรัฐอเมริกา ความกว้าง 10.35 เมตร ยาว 61.05 เมตร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือลำนี้เคยผ่านสมรภูมิเกาะกวม-ญี่ปุ่นมาแล้ว และทำการปลดระวางเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2545 มีอายุการใช้งานถึง 56 ปี หลังจากจมเรือลำนี้ไประยะหนึ่ง ในบริเวณใกล้ๆ กับเกาะไผ่ บรรดากัลปังหาและดอกไม้ทะเลก็เข้าแทรกตัวประดับประดาเป็นภาพที่งดงามแปลกตา ทางกองทัพเรือก็ได้เจาะช่องภายในตัวเรือเพื่อให้นักดำน้ำได้เข้าไปอย่างสะดวกและปลอดภัย บรรดาสัตว์น้ำใต้ทะเลก็ใช้เรือลำนี้เป็นที่พักพิง

ชลบุรี กับช่วงเวลาดีๆ ของทุกคน

มุ่งหน้าสู่อำเภอสัตหีบไปทางทิศใต้ จากชายฝั่งห่างออกไปเพียง 9 กิโลเมตร เราจะพบกับเกาะเล็กๆ อย่าง “เกาะขาม” ซึ่งมีพื้นที่เพียง 61 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในความดูแลของกองทัพเรือ ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่งชายหาด เกาะแห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมเพียง 9 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤษภาคม

เกาะขามมีสองหาดใหญ่ๆ คือหาดด้านทิศเหนือและทิศใต้ ชายหาดด้านทิศเหนือเป็นทรายค่อนข้างละเอียด เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ส่วนทิศใต้เป็นหาดทรายหยาบมีหินกรวดและซากปะการังทับถมเต็มชายหาดลึกลงไป แต่อย่างไรก็ตามแนวปะการังก็กระจายตัวอยู่รอบๆ เกาะ โดยเฉพาะทางทิศใต้ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ซึ่งเหมาะกับการดำน้ำตื้น ความลึกประมาณ 3-6 เมตร เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราจะได้เจอบรรดาสัตว์โลกใต้ทะเลหลากหลายชนิด ที่นี่มีความพิเศษตรงที่สามารถดำลงไปชมด้วยตัวเองใต้น้ำ หรือใช้บริการเรือท้องกระจก

ที่เกาะขามมีผู้เข้าเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง เพราะมีกิจกรรมปลูกปะการังเทียมเพื่อส่งเสริมความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดย
กองเรือป้องกันฝั่งมีการจัดวิทยากรบรรยายให้แก่คณะผู้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย รูปแบบการมาเที่ยวชมเกาะขามจะเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับเนื่องจากไม่อนุญาตให้พักแรมบนเกาะ

จังหวัดชลบุรียังมีแหล่งดำน้ำอีกมากมายนัก อาทิ “เกาะแสมสาร” ซึ่งเป็นแหล่งที่นักตกปลาชื่นชอบ แต่ก็เป็นจุดที่เหมาะกับการดำน้ำด้วยเช่นกัน โดยจุดปะการังบนเกาะแสมสาร มี 2 จุด คือบริเวณหน้าหาดเทียน ซึ่งต้องนั่งเรือห่างออกไป 2 กิโลเมตร และหาดลูกลม ต้องนั่งรถจากหาดเทียนออกไป ซึ่งที่นี่ก็มีเรือท้องกระจกไว้คอยบริการไปดูปะการังด้วยเช่นกัน ขณะที่ท้ายเกาะสีชัง ก็มี “เกาะค้างคาว” เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจเพราะบริเวณรอบเกาะเป็นร่องน้ำค่อนข้างลึก มีโขดหินที่สวยงาม เหมาะแก่
การไปตกปลา และมีปลาทะเลนานาชนิดสวยงาม

เรียกได้ว่าจะไปหาดไหนเกาะใด ชลบุรีก็เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจของนักดำน้ำ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งไม่ต้องดั้นด้นไปไกลหรือต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะชลบุรี มีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯเพียง 81 กิโลเมตร และ
พัทยา-บางแสน ก็แทบจะเป็นห้องรับรองหรือโต๊ะกินข้าวของใครหลายคนไปแล้ว ใครที่มีเวลาเพียงนิดหน่อย ก็บึ่งรถไปเที่ยวชลบุรีกันอย่างง่ายดาย

โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อไปดำน้ำได้ บริเวณชายหาดพัทยามีผู้ประกอบการเอกชนเปิดให้บริการมากมาย หรือ ไปยังหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ต่างๆ หรือ ททท. ภาคกลางเขต 3 โทร.0-3842-7667, 0-3842-8750 ติดต่อเที่ยวเกาะขาม ที่ กองเรือป้องกันฝั่ง โทร. 0-3843-2170