สกัดค้ารถข้ามชาติ
เตรียมขนข้ามฝั่งโขง
ชี้โจรกรรมแบบใหม่
วางดาวน์ก่อนเชิดหนี
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน น.อ.ณัฐเกียรติ มนขุนทด ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตนครพนม พร้อมด้วยร.อ.ธีระ เส็งตากแดด ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2601 พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบยึดรถยนต์ 4 คันบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านแก๊ง หมู่ 2 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทนขณะเตรียมลำเลียงข้ามแม่น้ำโขงไปประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับรถยนต์กระบะ 4 คันที่ยึดได้ ประกอบด้วย 1.รถโตโยต้าวีโก้แชมป์ 4 ประตู สีขาว สภาพใหม่พึ่งดาวน์ ออกจากโชว์รูมโตโยต้า จ.ร้อยเอ็ด 2.รถยนต์กระบะโตโยต้าแค็ป สีบรอนด์เงิน ทะเบียน บง 9687 มุกดาหาร 3.รถยนต์ กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมาสด้า บีที 50 โปรสีน้ำเงินทะเบียน 2 กภ 9028 กทม. และ 4. รถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนเงิน ทะเบียน กค 910 ศรีษะเกษ
จากการสอบสวนทราบว่า รถยนต์ของกลางทั้งหมดเป็นแก๊งค์โจรกรรมข้ามชาติ กำลังนำมาจอดรอลำเลียงเตรียมลงเรือหางยาวที่ทำเป็นแพข้ามแม่น้ำโขงไปขายเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอุปกรณ์ไม้ที่ทำเป็นสะพานไว้ลำเลียงรถ 2 ชุด รวมถึงพบมีการจัดทำเส้นทางลำเลียงบริเวณริมแม่น้ำโขง เชื่อว่าน่าจะมีการลักลอบขนส่งรถยนต์ข้ามฝั่งไปขายบ่อยครั้ง
นายสุจินต์ ศรีจันทร์อินทร์ จนท.ศุลกากรนครพนม ชำนาญการ กล่าวว่า แก๊งค์โจรกรรมรถข้ามชาตินี้น่าจะทำเป็นขบวนการ โดยใช้วิธีการหลายรูปแบบคือมีทั้งการโจรกรรม รวมถึงการใช้วิธีดาวน์รถป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองก่อนแจ้งความหาย แล้วฉวยโอกาสนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน จนถึงรถยนต์ที่นำมาจากบ่อนการพนันมีราคาซื้อขายคันละประมาณ 3–5แสน บาท แล้วแต่รุ่นกับสภาพ
“แต่ส่วนใหญ่จะมีออเดอร์เป็นรถยนต์เป้าหมายตระกูลโตโยต้าแบบยกสูงเป็นหลัก ทำให้มีการตรวจยึดจับกุมบ่อยครั้ง ไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ถึงแม้เป็นยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ก็ยังเกิดคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในรอบเดือนที่ผ่านมายึดของกลางได้ 5 คัน ซึ่งมีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ด้วย เชื่อว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทำให้ปราบปรามไม่หมด”นายสุจินต์ กล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า ปัจจุบันขบวนการค้ารถข้ามชาตินี้จะไม่นิยมรถที่โจรกรรมเพราะเป็นที่สนใจติดตามคดีของเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง แต่เปลี่ยนมาเป็นซื้อรถหลุดจำนำจากบ่อนการพนันเพราะมีสภาพดีหรือรถที่ดาวน์จากเต็นรถ และร้านโชว์รูมขายรถ โดยเต้นท์รถบางแห่งรู้กันกับผู้ซื้อจะให้วางเงินดาวน์ ทำประกันกับไฟแนนท์แล้วก็แจ้งรถหายก่อนนำมาส่งขายที่จ.นครพนม
จากนั้นเป็นหน้าที่ของขบวนการค้ารถข้ามชาตินำรถข้ามโขงตั้งแต่การว่าจ้างท่าแพข้ามในราคาคันละ 1 แสนบาท โดยเจ้าของท่าจะเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่จ้างคนขับจากตลิ่งโขงลงไปขึ้นเรือที่ใช้ไม้พาดเรือ 2 ลำ คือต้องใช้คนขับที่เชี่ยวชาญชำนาญมาก นอกนี้ยังมีมดงานจำนวนไม่ต่ำ 10 คน ราคาค่าจ้างคนละ 1000 บาท
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการวางสายข่าวในหมู่บ้านเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาก็จะรายงานชุดขนรถที่ริมโขงทันที กลุ่มมดข่าวจะได้คนละ 500 บาท ขบวนการขนรถข้ามชาติจะขนรถข้ามโขง 5-10 คันจะถูกจับกุมครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่การจับกุมจะไม่มีผู้ต้องหาได้แต่ของกลางและต่อมาบริษัทไฟแนนท์หรือเต็นท์ขายรถก็จะมาขอรับรถคืน
ส่วนใหญ่จะรู้กันกลับกลุ่มขายรถข้ามชาติ เพราะความผิดการค้ารถข้ามชาตินั้นคือ”คือส่งสินค้าผ่านแดนโดยไม่ผ่านด่านศุลกากร”เท่านั้น ยกเว้นรถขโมยมาจะมีโทษเมื่อถูกจับถ้ามีผู้ต้องหา ดังนั้นรถโจรกรรมขบวนการค้ารถจะไม่เล่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี