วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เปิดประวัติ'ไอ้มดแดงเมืองไทย' ชีวิตนี้ขอทำเพื่ออนาคตเยาวชน

เปิดประวัติ'ไอ้มดแดงเมืองไทย' ชีวิตนี้ขอทำเพื่ออนาคตเยาวชน

วันพุธ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558, 19.17 น.
Tag :
  •  

ในชุดไอ้มดแดง ขณะกำลังเล่นกับเด็กๆ

 


เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งกับ “แท็กซี่ไทย” เมื่อชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งระบายความอึดอัดใจลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว “สุดทน” กับพฤติกรรมของแท็กซี่ที่รับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะการบังคับ “เหมามิเตอร์” ซึ่งชาวญี่ปุ่นรายนี้ระบุว่า หากจะเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ มายังพื้นที่สะพานควาย เขตพญาไทย กทม. จะต้องจ่ายค่าโดยสารถึง 700 บาท

ทั้งที่จริงๆ แล้ว..หากกดมิเตอร์ตามปกติ ค่าโดยสารน่าจะประมาณเพียง 350 บาทเท่านั้น!!!

ห่างกันถึง “ครึ่งต่อครึ่ง”!!!

หลังเรื่องนี้ถูกนำไปแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ของชาวเน็ตล้วนเป็นไปในทางเดียวกัน คือให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นรายนี้ และประณามพฤติกรรม “เอาเปรียบ” ของแท็กซี่ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ และตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มักจะ “เมินคนไทย” โดยจ้องจะ “หากิน” กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น ขณะที่หลายคนเริ่มค้นหาประวัติของชาวญี่ปุ่นรายนี้ เพราะดูแล้วน่าจะเป็นคนที่รู้จักสังคมไทยดีพอสมควร

แล้วก็ไม่ผิดคาดจริงๆ..เพราะชาวญี่ปุ่นรายนี้ คนไทยน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี!!!

เขาคือเจ้าของฉายา “คาเมนไรเดอร์ผู้ใจบุญ” ที่ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจ ตระเวนช่วยเหลือเด็กๆ ยากจน!!!

โคกิ อากิ (Koki Aki) คือชื่อของชายผู้นี้ที่คนทั่วไปคุ้นเคย แต่ตัวจริงของเขาคือ อากิฮิโระ โทมิคาว่า (Akihiro Tomikawa) นักธุรกิจแดนอาทิตย์อุทัย วัย 46 ปี ที่ใช้เวลาทุกๆ 2 เดือนต่อปี บินมาสยามประเทศเพื่อแต่งกายเป็นชุด “ไอ้มดแดง” หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “คาเมนไรเดอร์-มาสก์ไรเดอร์” (Kamen Rider-Masked Rider) ซีรีส์ฮีโร่แปลงร่างจากญี่ปุ่นที่เป็นขวัญใจเด็กๆ ทั่วเอเชียมาหลายทศวรรษ ขี่จักรยานยนต์คู่ใจไปตามชุมชนแออัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อแจกขนมและของเล่น รวมทั้งเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ในชุมชนเหล่านั้นด้วย

นอกจากนี้ หากเป็นคนมีอายุสักหน่อย คงจะจำซีรีส์ “ซามูไรพ่อลูกอ่อน” เรื่องราวของนักดาบรายหนึ่งที่พเนจรท่องยุทธภพไปทั่วญี่ปุ่น พร้อมกับใช้ฝีมือดาบชั้นเซียนของตนต่อสู้กับเหล่าวายร้าย ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวเอกคือจะไปไหนมาไหนพร้อมกับลูกชายของตนที่อยู่ในตะกร้ารถเข็น และนักแสดงที่รับบทเด็กน้อยลูกชายของตัวเอก ก็คือ อากิฮิโระ โทมิคาว่า นี่เอง

อากิฮิโระ เล่าว่า เหตุที่เขาเลือกสวมชุดไอ้มดแดงตระเวนช่วยเหลือเด็กๆ ยากจน เพราะในอดีต เขาก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีปม “ขาดความอบอุ่น” เช่นกัน นั่นคือผู้เป็นมารดามักจะสนใจแต่พ่อเลี้ยง หรือสามีใหม่ แต่ไม่ค่อยจะให้ความรักความสนใจกับตัวเขา เขากล่าวว่าความเหงาและความเศร้าที่พบตอนนั้น มันทำให้รู้สึกถึงขั้น “อยากฆ่าตัวตาย” แต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกสิ้นหวัง เขามักจะชอบนึกถึงเหล่าวีรบุรุษในโลกบันเทิง ทั้งไอ้มดแดงและ อุลตร้าแมน (Ultraman) รวมทั้งผู้คนในชีวิตจริงที่คอยช่วยเหลือเขาเมื่อยามลำบาก ทำให้เขามีกำลังใจต่อสู้ชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้

และก็เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้ “อยากช่วยเหลือผู้คน” เฉกเช่นคนดีๆ ที่เคยพบเหล่านั้นด้วย!!!

วีรกรรมของหนุ่มใหญ่ในชุดหน้ากากฮีโร่ ที่ทำให้คนไทยจดจำได้เป็นครั้งแรก คือเมื่อปลายปี 2556 ขณะที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่งอยู่บนถนน ก็ถูกรถเก๋งหรู “เมอเซเดส-เบนซ์” (Mercedes Benz) ชนท้าย ซึ่งที่ทำให้เขารู้สึก “อึดอัดใจ” ที่สุด เห็นจะเป็นท่าที “อวดเบ่ง” ของผู้ขับรถเบนซ์คันดังกล่าว ที่นอกจากจะ “ชนแล้วหนี” จนเขาต้องตามหาแล้ว เมื่อพบตัวคนขับรายนี้ กลับไม่มีคำขอโทษ หรือท่าทีอื่นๆ ที่แสดงถึงความ “สำนึกผิด” แต่อย่างใด

มีแต่คำตอบสั้นๆ..“แล้วจะโทร.เรียกประกันมาจ่าย” เท่านั้น!!!

“ผมถามเขาว่าทำไมถึงขับหนี? แต่เขาก็ไม่พูดแม้แต่คำว่าขอโทษ พูดแค่จะโทร.เรียกประกัน สุดท้ายก็เสียเวลาไป 4 ชั่วโมง เขาขับรถเบนซ์ ในประเทศไทยคนขับเบนซ์ แน่นอนคือคนรวย การซื้อรถเบนซ์ต้องใช้เงินเยอะในการรักษา แต่ผมอยากจะถามพวกเขา พวกเขามีมนุษยธรรมสูงเหมือนกับรถเบนซ์ไหม อย่างน้อยก็หาคนแบบนี้ได้ยากในประเทศที่พัฒนาแล้ว” นี่คือสิ่งที่เขาโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว หลังถูกรถชนในครั้งนั้น

ที่สำคัญ..หนุ่มใหญ่แดนซามูไร รายนี้ ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่รู้จักเมืองไทยแบบผิวเผิน ตรงกันข้าม เขาทราบดีว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำสูง “ช่องว่าง” ระหว่างคนรวยกับคนจนกว้างมาก เขาสามารถยกตัวอย่างได้เป็นฉากๆ เช่น “ขณะที่เห็นรถใหม่ๆ แล่นกันเกลื่อนเต็มท้องถนน แต่ก็ยังเห็นคนจนจร คนเร่ร่อนที่ไม่มีแม้รองเท้าจะใส่” , “มีการใช้แรงงานเด็ก” , “มีคนแก่ถูกทอดทิ้งอยู่ข้างถนน” เป็นต้น

ฉากชีวิตที่ทำให้หนุ่มใหญ่ผู้นี้สาบานว่า “จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้” แม้จะไม่ใช่ “แผ่นดินแม่-แผ่นดินเกิด” ของตนก็ตาม จนนำมาสู่การเป็น “จิตอาสา” นั่นคือมีหนหนึ่ง เขาพบหญิงชรานอนอยู่ข้างถนน ท่ามกลางรถยนต์หรูหลากหลายยี่ห้อที่แล่นผ่านไปมา แต่ไม่มีแม้สักคันเดียวที่คิดจะลงมาให้ความช่วยเหลือ

ช่างตรงข้ามกับคำขวัญ “สยามเมืองยิ้ม” (Land of Smiles) ที่พยายามโปรโมตกันตลอดเวลา!!!

“มันเป็นภาพที่ผมจำได้ชัดเจนเลย รถบีเอ็มดับบลิว รถเบนซ์ หลายคันผ่านไปผ่านมา แต่ก็ไม่มีใครมาช่วย เราเห็นเราก็สงสาร ก็ลืมไม่ลง ผมก็สัญญากับยายคนนั้นว่าจะพยายามเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้มันดีขึ้นกว่านี้ จะได้ไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีก” เขากล่าวย้ำ

อากิฮิโระ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม การตระเวนแจกขนมและของเล่น เป็นเพียง “งานเฉพาะหน้า” เพื่อให้เด็กๆ ด้อยโอกาส ได้รับความอบอุ่น ไม่รู้สึกว่าตนเป็น “ผู้ถูกลืม” เท่านั้น แต่ในระยะยาว “การศึกษา” ทั้งทางวิชาการและทางจริยธรรม คือสิ่งที่ดีที่สุดหากจะทำให้เด็กกลุ่มนี้หลุดพ้นจาก “วงจรชั่วร้าย” ประเภทจนแล้วต้องเสพหรือค้ายาเสพติด จนแล้วต้องไปเป็นขอทาน หรือจนแล้วต้องไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย

“ผมก็ไม่แน่ใจ คือก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งของที่มอบให้เด็กๆ มันก็เป็นเพียงวัตถุภายนอก แล้วผมเห็นพวกเขาแค่ตอนที่ไปช่วยเหลือ ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นชีวิตเขาจะเป็นกันอย่างไร แต่ที่เลือกแจกสิ่งของ เพราะเหมือนกับว่าช่วงแรกๆ ถ้าเราเข้าไป แล้วไปสอนเขาเลย คนข้างในเขาคงไม่รับฟัง เราเป็นคนญี่ปุ่นเป็นคนต่างชาติด้วย ก็ต้องทำความคุ้นเคย สร้างความเชื่อใจให้เขารู้จักเราก่อน รู้ว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาตรงจุด การแก้ปัญหาที่ตรงจุดคือการให้การศึกษากับคนข้างในชุมชน คือเด็กๆ จะได้เรียนรู้

ถามว่าทำไมต้องเน้นที่เด็กเป็นอันดับแรก ก็เพราะเมื่อสองปีก่อน เด็กๆ บางคนยังขอขนมขอของเล่นอยู่เลย แต่พอกลับมาเมื่อประมาณต้นปี-กลางปี พวกเขามีลูกมีเต้า มีการใช้ยาเสพติด บางคนพ่อแม่ก็ให้ไปเป็นขอทาน ไม่ได้เรียนหนังสือ เราก็เลยอยากจะพาครูเข้าไปสอนเด็กๆ ข้างใน แล้วก็อาจจะมีนิมนต์พระไปคุยกับเด็ก ให้เขาเข้าใจหลักการใช้ชีวิตที่ดี” หนุ่มใหญ่รายนี้ ระบุ

แม้จะพบกับอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งความที่เป็นคนต่างชาติต่างภาษา เป็นคนที่มาจากประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีแตกต่างออกไป และรวมถึงความไม่เข้าใจจากคนไทยบางส่วน แต่อากิฮิโระ ยังยืนยันว่า เขาจะเดินหน้ายกระดับชีวิตเด็กไทยที่ด้อยโอกาส ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และหลุดพ้นจากความยากจนให้ได้

“ก็ขอให้รักตัวเอง เราต้องเริ่มจากรักตัวเองก่อน อย่าไปใช้ยาเสพติด ถ้าไม่รักตัวเอง แล้วจะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร แล้วก็เชื่อในตัวเอง เชื่อว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงได้ คนอื่นอาจจะยกให้ผมเป็นฮีโร่ แต่ตัวผมไม่คิดว่าผมเป็นฮีโร่ ผมคิดแค่ว่าผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีในตัวเองเท่านั้น

ตัวผมก็คงทำได้อีกไม่นาน เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น เดินเหินไปไหนมาไหนมากๆ ก็ไม่ไหว ก็อยากให้มีคนมาสานต่อ เป็นรุ่นต่อไป คือถ้าสมมติมีคนมาทำต่อแล้วสามารถทำต่อได้ด้วยตัวเองต่อไป วันนั้นผมก็คงจะหยุด แต่ทุกวันนี้ก็พยายามหาคนมาช่วยทำต่อ อะไรอย่างนี้ แต่ยังไม่มี ก็อยากให้คนเขาเข้าใจเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้กันเยอะๆ ครับ” อากิฮิโระ ฝากทิ้งท้าย

อากิฮิโระ โทมิคาว่า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'หมอ-นักวิชาการ\'รุมค้านเสนอแก้กฎหมายสร้างห้องสูบบุหรี่ในสนามบิน 'หมอ-นักวิชาการ'รุมค้านเสนอแก้กฎหมายสร้างห้องสูบบุหรี่ในสนามบิน
  • เปิดภาพ! ทหารช่างลุยงานไม่หวั่นฝน สร้างพนังกั้นน้ำปกป้องประชาชนจากน้ำท่วม เปิดภาพ! ทหารช่างลุยงานไม่หวั่นฝน สร้างพนังกั้นน้ำปกป้องประชาชนจากน้ำท่วม
  • โควิดยังพุ่งหนัก  ป่วย4หมื่นราย-ตายเพิ่ม3 โควิดยังพุ่งหนัก ป่วย4หมื่นราย-ตายเพิ่ม3
  • สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! \'ก.แรงงาน\'เตรียมจัด\'JOB EXPO THAILAND 2025\' มหกรรมหางานที่มากกว่าการหางาน สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! 'ก.แรงงาน'เตรียมจัด'JOB EXPO THAILAND 2025' มหกรรมหางานที่มากกว่าการหางาน
  • \'หมอธีระ\'เผยสถิติสัปดาห์ที่ผ่านมา โควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่เกือบ 7 เท่า ยอดพุ่งกว่า 4 หมื่นราย 'หมอธีระ'เผยสถิติสัปดาห์ที่ผ่านมา โควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่เกือบ 7 เท่า ยอดพุ่งกว่า 4 หมื่นราย
  • สธ.ชักชวนคนไทยปรับพฤติกรรมห่างไกลโรคNCDs สธ.ชักชวนคนไทยปรับพฤติกรรมห่างไกลโรคNCDs
  •  

Breaking News

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 4 จุด บ้าน'สจ.กอล์ฟ-ญาติ' หาหลักฐานเชื่อมโยงเว็บพนัน

จับหนุ่มเสพยาขับรถแถมสวมทะเบียนขนส่งพัสดุ

‘ภูมิธรรม’ไม่ฟันธง‘รัฐประหาร’ไม่เกิดขึ้นอีก เผยทหารเข้าใจผลกระทบมากขึ้น

บรรยากาศสุดเศร้า! รับร่างพยาบาลสาวกลับบ้าน พ่อร่ำไห้สวมกอดลูก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved