วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘ข้าวตอกซับน้ำมัน’ เพิ่มมูลค่าข้าวไทย-ส่งเสริมอาชีพชุมชน

‘ข้าวตอกซับน้ำมัน’ เพิ่มมูลค่าข้าวไทย-ส่งเสริมอาชีพชุมชน

วันศุกร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

“ทำไมป๊อปคอร์นที่เป็นผลผลิตจากข้าวโพดจึงกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม และมีมูลค่าการตลาดมหาศาล เมื่อหันกลับมามองข้าวตอกของไทย ที่ดูๆ แล้ว ก็ไม่แตกต่างจากป๊อปคอร์น แต่กลับไม่เป็นสินค้าระดับนานาชาติ ทั้งๆที่คนไทยรู้จักข้าวตอกมากกว่า 100 ปีทำอย่างไรให้ข้าวตอกไทยมีมูลค่ามากกว่าที่เป็นอยู่” นี่คือข้อสังเกตที่เป็นปัญหาคาใจจนนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ของนักวิทยาศาสตร์แถวหน้าของเมืองไทย รศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ อาจารย์ประจำ หน่วยปฏิบัติการวิจัยอุปกรณ์รับรู้ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“คนไทยคุ้นเคยข้าวตอกกันดี ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในงานพิธีมงคล เพื่อสื่อความหมายถึงการแตกหน่อออกผล ความเจริญงอกงาม และส่วนประกอบในกระยาสารท ขนมไทยที่คุ้นเคยกันมานาน แต่มันก็เป็นผลผลิตที่ทำกินทำใช้กันแค่ภายในประเทศ มันยังไม่สามารถออกไปตีตลาดโลกได้อย่างป๊อปคอร์น จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากโครงการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าข้าวไทย จากการนำข้าวตอกที่คั่วจากข้าวเปลือก มาวิเคราะห์พบว่า โครงสร้างข้าวตอกมีความคล้ายฟองน้ำ ที่มีรูพรุนขนาด 80-100 ไมโครเมตร ต่อเนื่องกันทั้งเม็ดข้าวตอก มีสมบัติในการดูดซับได้ดี”


ในขณะเดียวกัน รศ.ดร.สนอง ก็พบกว่า ในการทำอาหารไม่ว่าจะเป็นครัวเรือน หรือร้านอาหาร มักจะมีการใช้กระดาษซับน้ำมันกับอาหารประเภททอดเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระดาษซับน้ำมันก็มีราคาสูง และนำเข้าจากต่างประเทศ ใช้ได้เพียงครั้งหรือสองครั้งก็ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ ด้วยสมบัติการดูดซับน้ำมันของข้าวตอก น่าจะใช้ทดแทนกระดาษซับน้ำมันได้ดี

“ในการศึกษาเบื้องต้น พบว่าข้าวตอกสามารถดูดซับน้ำมันได้ดี และใช้ได้หลายครั้งกว่าที่ข้าวตอกจะอิ่มตัวด้วยน้ำมันจากอาหารทอด และเมื่อข้าวตอกซับน้ำมันเต็มที่แล้วในการกำจัดทำลายก็สามารถทำได้ง่าย ด้วยการนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ทันที ทำให้ไม่มีของเหลือทิ้ง ไม่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับกระดาษซับน้ำมันที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แม้จะผลิตจากกระดาษมีความปลอดภัยและสัมผัสอาหารได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระบวนการผลิตต้องมีการใช้สารเคมี เมื่อใช้เสร็จแล้วกลายเป็นขยะที่ต้องกำจัดไม่สามารถใช้ประโยชน์ต่อเนื่องได้ เหมือนกับข้าวตอกซับน้ำมัน ขณะนี้เราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ในรูปของหมอนซับน้ำมันเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ในขั้นต่อไปจะได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวตอกซับน้ำมันในรูปแบบแผ่นพร้อมใช้งาน หรือรูปลักษณ์อื่นๆ ต่อไป เพื่อสามารถที่จะต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้ต่อไป”

ไม่เพียงแต่ข้าวตอกซับน้ำมันอาหารเท่านั้น รศ.ดร.สนอง ยังมองประโยชน์ไปถึงการใช้ข้าวตอกเป็นวัสดุดูดซับน้ำมันและสารเคมี เช่น น้ำมันปนเปื้อนในแหล่งน้ำ สารเคมีปนเปื้อนในน้ำ น้ำมันที่หกบนพื้นถนน น้ำมันบนอุปกรณ์ช่าง การกำจัดคราบน้ำมัน ในโรงงานอุตสาหกรรม และอู่ซ่อมรถ เมื่อใช้ข้าวตอกไปซับน้ำมันหรือสารเคมีปนเปื้อนแล้ว วิธีกำจัดคือ การนำไปเผาใช้เป็นเชื้อเพลิงเป็นการใช้ประโยชน์อย่างครบวงจร ไม่สร้างมลพิษและสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเนื่องหลังการใช้ประโยชน์

อีกหนึ่งผลงานจาก “ข้าวตอกซับน้ำมัน” ที่รศ.ดร.สนอง เตรียมนำเผยแพร่สู่ตลาด คือการนำไปใช้เป็นวัสดุดูดซับและปลดปล่อยกลิ่นน้ำหอมระเหย ในวงการสปา หรืออโรมาเธอราปี ที่จะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน

“การประยุกต์ นี้เป็นการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างรูพรุนของข้าวตอก เพื่อกักเก็บและปลดปล่อยกลิ่นอย่างช้าๆ เมื่อนำข้าวตอกไปดูดซับน้ำมันหอมระเหย ใส่ในบรรจุภัณฑ์หอมระเหยดับกลิ่น พร้อมให้กลิ่นหอมในห้อง เหมาะกับห้องต่างๆ หรือใช้ในสปา ซึ่งผมกำลังศึกษา และพัฒนาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน ให้นาน 3-6 เดือน ว่า ควรจะใช้ความร้อนแบบใด หรือต้องมีการปรับสมบัติเชิงพื้นผิวอย่างไรเพื่อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับข้าวตอกในการกักเก็บกลิ่นหอมระเหย ก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับชุมชน เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ออกจำหน่าย ซึ่งเราตั้งใจที่จะเผยแพร่ให้ฟรีเป็นองค์ความรู้สาธารณะ เพื่อให้เขาสามารถนำไปทำเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้อีกทางหนึ่ง”

รศ.ดร.สนอง บอกว่า สิ่งประดิษฐ์ “ข้าวตอกซับน้ำมัน” เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นนวัตกรรมทางการเกษตร ให้ตอบโจทย์ในเบื้องต้นว่าข้าวตอกสามารถเป็นนวัตกรรม ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ จากนี้ต่อไปก็ต้องเดินหน้าในการคิดประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับข้าวตอกไทยต่อไป

“การผลิตข้าวตอก ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องลงทุน ด้านเครื่องมือที่ซับซ้อน หรือมีราคาแพง การปรับเปลี่ยนสมบัติเชิงพื้นผิว หรือโครงสร้างของข้าวตอกก็ไม่ยุ่งยาก ต้นทุนการผลิตไม่สูง ผู้สนใจทั่วไป กลุ่มวิสาหกิจชุมชน SMEs+ สามารถทำได้เองด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่หาได้ในประเทศ สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้หลากหลาย การประดิษฐ์คิดค้นนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยได้ เพราะเราสามารถนำข้าวเปลือกด้อยคุณภาพ ข้าวเปลือกความชื้นสูง และข้าวเปลือกที่ถูกแมลงทำลาย นำมาทำเป็นข้าวตอกได้ ด้วยกระบวนการผลิตข้าวตอกซับน้ำมัน การนำไปใช้ประโยชน์ รวมถึงการกำจัดข้าวตอกที่อิ่มตัวด้วยน้ำมัน ล้วนไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม หากในอนาคตสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวตอกซับน้ำมันออกสู่ตลาดให้สามารถนำไปใช้ได้ในภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของภาคการผลิต SMEs+ ผู้บริโภคเองก็จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ถูกลง เพราะเราสามารถผลิตได้เองภายในประเทศ”

ผลงาน “ข้าวตอกซับน้ำมัน” ของ รศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับไอเดียรักษ์โลกด้วยพืชผลทางการเกษตรของไทย ที่รับรางวัลการันตีความคิดสุดเจ๋งนี้ด้วยรางวัลเหรียญทอง จากงาน “2014 Kaohsiung International Invention Exhibition”(KIE2014) ณ เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมาอีกด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อธิบดีกรมปศุสัตว์’ ร่วมงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหมระดับประเทศ ประจำปี 2568 ‘อธิบดีกรมปศุสัตว์’ ร่วมงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหมระดับประเทศ ประจำปี 2568
  • พด.รณรงค์วันทะเลทรายและภัยแล้งฯ พด.รณรงค์วันทะเลทรายและภัยแล้งฯ
  • \'นฤมล\'เปิดงานประกวดเส้นไหม ปี 68 สานงานต่อตามพระราชปณิธาน\'พระพันปีหลวง\' 'นฤมล'เปิดงานประกวดเส้นไหม ปี 68 สานงานต่อตามพระราชปณิธาน'พระพันปีหลวง'
  • กรมชลฯปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลฯปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
  • 16ปีพิพิธภัณฑ์เกษตรฯมุ่งสร้างวิถีเกษตรยั่งยืน 16ปีพิพิธภัณฑ์เกษตรฯมุ่งสร้างวิถีเกษตรยั่งยืน
  • ก.เกษตรฯหนุนปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสร้างรายได้ ก.เกษตรฯหนุนปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสร้างรายได้
  •  

Breaking News

ตามคาด!‘ทักษิณ’ไม่มาศาลฎีกาฯ ทนายรอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

‘กมธ.สาธารณสุข’หนุนสุดลิ่ม‘แพทยสภา’หักวีโต้‘สมศักดิ์’ ปกป้องความยุติธรรมสังคม

‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย

‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved