รมว.เกษตรฯ สานงานต่อตามพระราชปณิธาน “พระพันปีหลวง” หนุนขยายอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ป้อนตลาดในประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกร
วันนี้ (12 มิ.ย.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดงาน “ประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2568” ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดฯ เข้าร่วม ว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงห่วงใยประชาชนคนไทยในพื้นที่ทุรกันดาร ส่งเสริมให้ชาวบ้านรวมตัวกันทำอาชีพเลี้ยงไหม รวมถึงส่งเสริมเกี่ยวกับกิจการหม่อนไหม จนปัจจุบันกลายเป็นอาชีพของชาวบ้านไปแล้ว โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ก็ได้สานต่องานของกรมหม่อนไหมจากสมเด็จย่า ด้วย ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งปณิธานว่าจะทำงานถวายให้ทั้ง 2 พระองค์ เพื่อที่จะทำให้การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมดำรงอยู่คู่วิถีชีวิตของคนไทยต่อไป
รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า มีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ โดยนำภูมิปัญญา เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชน เพื่อให้สามารถพัฒนาและบริหารจัดการสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะ “ผ้าไหมไทย” ซึ่งนับเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งการจัดการแข่งขันและประกวดในครั้งนี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพเส้นไหมและผ้าไหมไทย ให้ได้มาตรฐาน และเกิดแหล่งผลิตเส้นไหมและผ้าไหมที่มีคุณภาพสูง
ศ.ดร.นฤมล ได้เน้นย้ำกรมหม่อนไหม ให้ส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อให้คนรุ่นใหม่ ประชาชนทั่วไปที่สนใจหันมาประกอบอาชีพหม่อนไหมมากขึ้น ผ่านนโยบาย "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" เนื่องจากจำนวนผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีลดลง จากในอดีตที่มีประมาณ 100,000 ราย แต่ปัจจุบันพบว่ามีประมาณ 87,000 ราย จึงต้องฝากไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันลงไปสนับสนุน ขณะเดียวกัน ความต้องการรังไหมภายในประเทศยังคงสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการเส้นไหม จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ หากมีการขยายอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมก็จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มสูงขึ้นให้เกษตรกร และยังเป็นการอนุรักษ์ และสืบทอดภูมิปัญญาด้านหม่อนไหมให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป
ด้านนายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า ได้จัดงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้ดำรงอยู่ตลอดไป และเพื่อยกย่องเชิดชูเยาวชน บุคคล ชุมชน และหมู่บ้านที่ผลิตผลงานที่มีคุณภาพ สามารถรักษาวิถีการผลิตเส้นไหม การทอผ้าไหม ให้คงอยู่คู่ชุมชนอย่างแข็งแรงและยังช่วยกระตุ้นภาคการผลิตให้ก้าวทันความต้องการของตลาดในปัจจุบัน
อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ชนะเลิศอันดับ 1–3 ในแต่ละประเภทจะได้รับโล่และเงินรางวัล พร้อมได้รับเกียรตินำผลงานไปจัดแสดงในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม–3 สิงหาคม 2568 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอลล์ 6-7 โดยจะมีพิธีมอบรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งการประกวดในปีนี้แบ่งออกเป็น 32 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันสาวไหม 6 ประเภท การประกวดผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน 25 ประเภท และการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากผ้าไหม 1 ประเภท โดยมีผลงานเข้าร่วมกว่า 800 ชิ้น จากเยาวชน เกษตรกร กลุ่มผู้ผลิตผ้าไหม และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์หม่อนไหมทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตไหมไทยให้ก้าวไกลสู่ตลาดสากล พร้อมธำรงไว้ซึ่งมรดกภูมิปัญญาไทยให้ยั่งยืนต่อไป
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี