ระอุ!สาดกระสุนแทนน้ำ สงกรานต์ดุ แก๊งโจ๋เขม่น-ยิงกันเดือด

ระอุ!สาดกระสุนแทนน้ำ สงกรานต์ดุ แก๊งโจ๋เขม่น-ยิงกันเดือด

วันพุธ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :

ระอุ!สาดกระสุนแทนน้ำ

สงกรานต์ดุ

แก๊งโจ๋เขม่น-ยิงกันเดือด

เมืองคอนซัดหมดแม็กดับ2

อุบลฯดวลปืนเจ็บ11สาหัส3

“สงขลา”รุมแทงพรุน23แผล

5วันอันตรายตายแล้ว251ศพ

เมื่อวันที่ 14  เมษายน บรรยากาศเทศกาลวันสงกรานต์ กลายสงกรานต์เดือดเปลี่ยนจากสาดน้ำเป็นสาดกระสุนปืน โดยหลายจังหวัดเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิงถล่ม บางเหตุยกพวกรุมแทงดับหลายราย นอกเหนือยอดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บพุ่งสูงขึ้น

อ่างทองเดือด!วัยรุ่นไล่ยิงกันมั่ว


ผู้สื่อข่าวรายว่าเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 14 เมษายน ร.ต.ท.กษิติทัตน์ ฉ่ำชื่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บที่บริเวณริมถนนอ่างทอง-โพธิ์พระยาท่าเรือ หน้าร้านวิริยะประกันภัยต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1ราย ทราบชื่อต่อมานายพิเชษฐ์ ฤทธิวิสุทธิ์ อายุ38ปี เป็นชาว ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร อาการสาหัส รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอ่างทอง

พ.ต.ท.มนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ รอง ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง เผยว่าเมื่อคืนวันที่13 เมษายน เกิดเหตุทะเลาะวิวาทใช้ปืนไล่ยิงทำร้ายกันบริเวณริมถนนอ่างทอง-โพธิ์พระยาท่าเรือ หน้าร้านวิริยะประกันภัย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1ราย และมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน 4 หลัง และรถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพยานหาหลักฐานเพื่อหาคนกระทำผิดมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนแล้ว

เตือนเพื่อนบ้านถูกแทงดับอนาถ

ที่ จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.วิเชียร แก้วจาเครือ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ อยู่ด้านหลังวัดแหลมโพธิ์ ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเวลา00.05น.จึงรุดไปตรวจสอบ พบเป็นกระท่อม ปลูกติดกันอยู่หลายหลัง พบเพียงกองเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ที่พื้นข้างกระท่อม และพบอาวุธมีดพับยาว7นิ้วเปื้อนเลือดตก ผู้บาดเจ็บ คือนายอดุลย์ คำมี อายุ 50 ปี ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ชายโครงข้างซ้ายจนไส้ไหลทะลักอย่างน่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ แต่ได้เสียชีวิตระหว่าทาง

จากการสอบสวน  นางฉวี มีคำ อายุ 50ปี ภรรยาผู้ตายให้การทั้งน้ำตาว่าตนและสามีมารับจ้างดูแลสวนมะระที่อยู่ใกล้กับกระท่อมจุดเกิดเหตุ ระหว่างสามีและตนจะเข้านอนหลับพักผ่อนแต่นอนไม่หลับ เนื่องจากนายจรัญ เพื่อนบ้านตั้งวงนั่งดื่มสุรากับพรรคพวกได้เปิดเพลงส่งเสียงดังฉลองเทศกาลสงกรานต์ สามีลุกไปเตือนให้เบาเสียงเพลงลงแต่นายจรัญอยู่ในอาการเมาท้าทาย หาเรื่องชกต่อยจนตนกับเพื่อนบ้านเข้าห้ามปราม แล้วนายจรัญก็วิ่งไปหยิบมีดพับยาว 7 นิ้วออกมาแทงสามี 1 ครั้ง ล้มฟุบกองที่พื้นแน่นิ่ง ก่อนที่มือมีด คือนายจรัญ กำเนิดคุณ อายุ 34ปี วิ่งหนีเข้าไปในป่าสักละแวกใกล้เคียงซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามจับกุมตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เล่นน้ำเจอคู่อริไล่รุมแทง23แผล

ที่ จ.สงขลา เวลา13.30น.ร.ต.อ.สมชาย ศรีจิ๋ว ร้อยเวร สภ.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพชายวัยรุ่นนอนเสียชีวิตอยู่ข้างกำแพงหมู่บ้านสุธาทิพย์ หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง ผกก.สภ.บางกล่ำและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยแพทย์รพ.บางกล่ำเข้าตรวจสอบชัณสูตรพลิกศพพบว่าผู้ตายชื่อนายทรงวุฒิ สังข์ผ่อง อายุ 16 อยู่บ้านเลขที่ 27 ซอย อุปถัม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอนเสียชีวิตโดยมีหญ้ามาปิดบังอำพรางศพช่วงบนเมื่อนำหญ้าออกพบว่าผู้ตายถูกแทงด้วยของแหลมเข้าที่บริเวณหน้าอก 7 แผลและที่บริเวณข้างหลังอีก 16 แผล ส่วนบาดแผลที่บริเวณขา คาดว่าจะถูกเศษไม้เกี้ยวจนเป็นแผลเล็กน้อย ผู้ตายสวมกางเกงขาสั้นลายดอกดำ แดง ใส่เสื้อยืดสีดำลายการ์ตูน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถจยย.พาแฟนสาวออกเที่ยวเล่นวันสงกรานต์ตั้งแต่เช้าวันที่13เมษายนมาจนถึงสามแยกลพบุรีราเมศวร์ตัดทางเข้าสนามบินหาดใหญ่ได้พบคู่อริ ผู้ตายเลี้ยวกลับมาทางวัดท่าท้อนแล้วเลี้ยวรถเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แล้วผู้ตายทิ้งรถจยย.วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะจากนั้นคู่อริมีไม่ต่ำกว่า 20 คนวิ่งไล่ตามผู้ตายเข้าไปในป่าละเมาะ ขณะแฟนสาวขับรถจยย.ผู้ตายไปแจ้งแม่ผู้ตายต่อมาทั้งญาติ เพื่อนผู้ตายพากันตามหาผู้ตายที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่คืนวันที่13 เมษายน จนมีคนมาพบ ผู้ตายนอนเป็นศพอยู่ข้างกำแพง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และนำน.ส.เขียว(นามสมมุติ)อายุ 17ปีแฟนผู้ตายไปสอบปากคำเพื่อหาตัวคนร้าย คาดตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายดำเนินคดีต่อไป

ฉลองดุขี่จยย.ไล่ยิงกระบะ2หนุ่มดับ

ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 02.00น.วันที่14 เมษายน ร.ต.ท.อภินันท์ พลศร พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2ราย ที่ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองจึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์ เงิน ทะเบียน บษ-9180 นครศรีธรรมราช จอดกลางถนน สภาพมีรอยกระสุนปืนหลายนัด พบปลอกกระสุนปืน9 มม.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ2 ราย นอนแน่นิ่งในรถ จึงรีบนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่ทั้งสอง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.ทราบชื่อคือ นายเอกลักษณ์ หนูสอน อายุ27 ปีอยู่ ต.ท่าเรือ อ.เมือง ถูกยิงด้วยปืนขนาด9 มม. เข้าที่ราวนม 1นัด มือซ้าย1 นัด แขนขวา4นัด บริเวณแผ่นหลัง1 นัด อีกศพ นายวโนทัย วิชัยพล อายุ 25 ปี อยู่ ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง2ได้ไปดื่มฉลองวันสงกรานต์ที่ร้านอาหารในตัวเมืองนครศรีธรรมราชและ มีเรื่องกับวัยรุ่นคู่อริในร้านอาหาร ถึงขั้นชกต่อยกัน ก่อนมีคนห้าม แล้วทั้ง2 คนก็ขับรถยนต์เพื่อกลับบ้านพัก แต่คู่อริในร้านอาหารได้ขับรถจยย.ตามใช้อาวุธปืนยิงถล่มจนบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเบื้องต้น ตำรวจจะเร่งตรวจสอบคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามคนร้ายโหดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ยิงถล่มคู่อริงานบุญเจ็บ11สาหัส3

ที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ต.ต.ชนะพล นิรัตนไพร พนักงานสอบสวน สภ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เผยว่าเมื่อคืนวันที่13 เมษายนได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเข้ามารับการรักษาตัวจำนวนหลายรายจึงรุดไปตรวจสอบ พบว่าแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกยิง รวมทั้งสิ้น 11 คน มีอาการสาหัส 3 ราย สอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดถูกยิงมาจากบริเวณวัดบ้านลาด ต.กระเดียน อ.ตระการพืชผล ที่จัดงานบุญประจำปี ช่วงเกิดเหตุมีวัยรุ่นบ้านลาดกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวงานเข้าที่ประตูด้านหน้าวัด เพื่อจะขึ้นรถขับกลับบ้าน จู่ๆมีวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนลูกซอง และปืนขนาด.22ยิง ฝ่าฝูงคน เข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นบ้านลาดทำให้กลุ่มวัยรุ่นบ้านลาด ชาวบ้านที่มาเที่ยวชมงานได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้น คาดน่าจะเป็นฝีมือวัยรุ่นต่างถิ่นที่เคยมีเรื่องทะเลาะบาดหมางกลุ่มวัยรุ่นบ้านลาดที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนเมื่อมาพบกันในงานจึงลงมือก่อเหตุซึ่งตำรวจพอจะทราบเบาะแสกลุ่มมือปืนรายนี้แล้ว จะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ร้อยเอ็ดสาดกระสุนแทนน้ำดับ1

ที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 04.00น.วันที่ 14 เมษายน พ.ต.ต.ธนกิจ ศิริวุฒิ พงส.ผนก. สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปห้องเก็บศพ รพ.ร้อยเอ็ดเพื่อชันสูตรศพ นายเวช(นามสมมติ)อายุ 15 ปี ชาวบ้านคานหัก หมู่ 21 ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ดที่อกศพมีรูกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าแบบกระจายรวม10รู แพทย์นิติเวช ลงความเห็นสาเหตุการตายเพราะถูกหัวกระสุนปืนเข้าไปเจาะปอด และหัวใจแตก ทำให้ระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายถูกยิง ได้สอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ ผู้ตายพร้อมเพื่อนวัยรุ่นในหมู่บ้านได้ขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันตระเวนไปตามถนนสายต่างๆในบ้านโสกเชือกที่มีหนุ่มสาววัยรุ่นตั้งวงกินเลี้ยงฉลองวันสงกรานต์อยู่ตามหน้าบ้าน

จนถึง เวลา02.00น.ผู้ตายได้พบคู่อริเข้าถูกไล่ทำร้าย จนต้องหนีไปอยู่บ้านคนรู้จักหลังหนึ่ง แล้วฝ่ายผู้ตายวางแผนล่อคู่อริพร้อมพวกไปพบที่ท้ายบ้าน ก่อนยกพวกใช้มีดไล่ฟันฝ่ายตรงข้ามจนบาดเจ็บ 1 คน พากันหนีกลับไปที่บ้านหมู่7จากนั้น มีวัยรุ่น3คนขี่จักรยานยนต์ย้อนกลับมา ใช้ปืนลูกซองสั้นใส่กระสุนเบอร์12ยิงใส่นายเวชขณะยืนอยู่ที่ถนนปากซอยบ้านโสกเชือกหัวกระสุนเข้าเต็มหน้าอกล้มลงหมดสติและเสียชีวิตก่อนถึงรพ.ในตอนเช้ามืด พ.ต.อ.บุญชนะพัฒน์ สกุลจารุมรรคา ผกก.สภ.ศรีสมเด็จ ร่วมกับทหารพล.ร.6 กกล.รส.จว.ร้อยเอ็ด สนธิกำลังเข้าจับ3วัยรุ่นพร้อมปืนพกลูกซองสั้น พบทั้ง 3มี อายุ16 ปี 17ปีและ18ปีจึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล

บุรีรัมย์รวบ3สาวโชว์หวิวสาดน้ำ

ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.สาธิต สถิตถาวร สารวัตรจราจร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เข้าจับกุมหญิงสาว3 คนคือน.ส.ติยาภร เพื่อไทย อายุ 23 ปี, น.ส.จันทิมา แก้วดี อายุ 20 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จ.อุบลราชธานี และสุรินทร์บริเวณถนนเสด็จนิวัฒน์หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่1 ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ หลังทั้ง3สาวได้แต่งกายหล่อแหลมไม่สุภาพทั้งมีพฤติกรรมเต้นท่าทางยั่วยวนวาบหวิว เป็นการกระทำผิดตามกฎหมายและไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)และไม่ให้ความเคารพสถานที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์สักการะบูชา ซึ่งทั้ง3 คนเคยถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนและจับเปรียบเทียบปรับไปแล้วกลับไม่สำนึกยังทำผิดซ้ำอีกจึงจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล

ถนนข้าวตอกสุโขทัยแห่เล่นน้ำ

วันเดียวกัน ที่จ.สุโขทัย  เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ร่วมจัดงาน“สงกรานต์เสื้อลายดอก ถนนข้าวตอกสุโขทัย”ประจำปี2558บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา และที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ได้รับความสนใจอย่างมากมีขบวนแห่นางสงกรานต์และพระแม่ย่า การประกวดซุ้มเล่นน้ำสงกรานต์เสื้อลายดอก ประกวดนางสงกรานต์ เทพบุตรสงกรานต์ สาวงามวันวาน และการแสดงดนตรี อีกทั้งยังจัดโซนเล่นน้ำปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดอาวุธ และปลอดภัย บนถนนข้าวตอกสุโขทัย ให้เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00น.เริ่มจากวันนี้ไปจนถึงวันที่15 เมษายน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันมาเล่นสาดน้ำกันอย่างคึกคัก

ลพบุรีถนนดินสอพองปะแป้งคึก

ที่จ.ลพบุรี ได้จัดงานวันที่2 ที่บริเวณถนนรามเดโช หรือ ถนนข้าวสาร2 เทศบาลเมืองลพบุรีได้ปิดถนนจัดงานสงกรานต์ตั้งชื่อ"ถนนดินสอพอง"เปิดให้เล่นดินสอพองกันอย่างเต็มที่ มีประชาชนนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่ใช้รถกระบะบรรทุกน้ำใส่ภาชนะมาเล่นสงกรานต์คลายร้อน บนถนนตั้งแต่แยกไฟแดงสะพาน33ไปถึงท้ายซอยเป็นระยะทางเกือบ3 กิโลเมตร บางคันต้องปล่อยให้คนที่เล่นเดินลงเล่นไปตามถนนสร้างสนุกสนานรื่นเริงเล่นน้ำ ปะแป้งหน้าขาวจากดินสอพองของเมืองลพบุรีที่ใช้เล่นกันมายาวนานด้วยความสนุกสนานตลอดทั้งวัน พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นพวกกลุ่มวัยรุ่นน่าใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน ทางเทศบาลจัดเวทีมีนักร้องเอาใจวัยรุ่นและจัดปาร์ตี้โฟมเอาใจวัยรุ่นอีกด้วย

กทม.ขยายสงกรานต์สีลมถึง15เมษา.

นางสาวสุภาวดี สิทธิกรไพบูลย์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์บนถนนสีลมว่าเนื่องจากประชาชนจำนวนมากสนใจเที่ยวงานสงกรานต์ถนนสีลมBangkok Songkran Festival @Silom 2015 มีกระแสเรียกร้องให้กทม.ขยายจัดงานสงกรานต์นั้น ผู้บริหารกทม.จึงประชุมหารือและมีผลสรุป ขยายงานสงกรานต์บนถนนสีลมจนถึงวันที่15เมษายนเวลา22.00น.ซึ่งอุโมงค์น้ำสีลมจะเปิดให้บริการจนถึงวันที่15เมษายน เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ประชาชนในโอกาสวันปีใหม่ไทย โดยกทม.จะยังคงระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นเดิม คือ งดเว้นการเล่นแป้ง แอลกอฮอล์และการแต่งกายล่อแหลม

ยอดตาย5วันพุ่ง251บาดเจ็บ2,532

วันเดียวกัน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.)ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี2558ประจำวันที่ 13 เมษายนซึ่งเป็นวันที่5ของการรณรงค์ฯว่าเกิดอุบัติเหตุ 671 ครั้ง บาดเจ็บ 724คน เสียชีวิต 60 ราย ยอดรวมสะสม 5วัน มีอุบัติเหตุ 2,406 ครั้ง บาดเจ็บ 2,532 คน เสียชีวิต 251ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี10 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บได้แก่สมุทรปราการ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช 94 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 11 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช  98 คน ส่วนสาเหตุที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ เมาสุรา

ปภ.ตรวจเข้มดิ่มหล้า-จยย-กระบะ

พ.อ.ดำรงค์ กล่าวว่า ช่วงวันที่ 12–13 เมษายน ถนนสายรองที่เชื่อมต่อเส้นทางสายหลักและระหว่างอำเภอ มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง เนื่องจากหลายพื้นที่มีการเล่นน้ำและเฉลิมฉลองด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัดบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด สนธิกำลัง ทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สรรพสามิต ฝ่ายปกครอง คุมเข้มการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง บนรถและสถานีบริการน้ำมัน

ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่าจากข้อมูลผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนพบว่ากว่าร้อยละ 63 เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ คิดเป็น 2 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตโดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักจากการขับรถเร็วและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ศปถ.กำชับให้จังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำที่ไม่สวมหมวกนิรภัย รถกระบะบรรทุกคนเล่นน้ำท้ายกระบะ ที่ใช้ความเร็ว เน้นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์และเส้นทางโดยรอบพื้นที่โซนนิ่ง เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและการเล่นน้ำไม่ปลอดภัย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top