22 เม.ย. 58 จากกรณีที่รีสอร์ทคีรีมายา ซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดีรวม 36 แปลง เนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบความเกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์ของบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชยการ จำกัด หรือ บีบีซี ซึ่งมีนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ และนายราเกซ สักเสนา เป็นจำเลย โดยหลังยึดทรัพย์จากบีบีซีแล้ว กรมบังคับคดีได้นำมาขายทอดตลาด แต่ปรากฏปัญหาภายหลังว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบอยู่ในเขตป่าและภูเขารุกล้ำที่ดินรัฐนั้น

ล่าสุด ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ที่ดินทั้งหมด 36 แปลง ตั้งอยู่ ถ.ธนะรัชต์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่บังคับคดีเริ่มประกาศขายทอดตลาดเมื่อปี 2545 ตั้งราคาประเมินไว้ที่ 317 ล้านบาท เป็นการประกาศขายทอดตลาดทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งในครั้งที่ 3 บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในราคา 265 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ 80% ของวงเงินตั้งราคาประเมินไว้ หลังจากนั้น "คีรีมายา" มาซื้อต่ออีกทอด

"ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นของกรมบังคับคดี ขอถามว่ากรมบังคับคดีดำเนินการผิดขั้นตอนใดบ้าง เพราะเรายึดตามเอกสารราชการ ซึ่งกรมฯ มีหน้าที่ดำเนินการตามคำสั่งพิพากษาของศาล ภายหลังจากที่ธนาคารนครธน ในฐานะเจ้าหนี้รายหนึ่งจากทั้งหมด 110 ราย ยื่นฟ้องล้มละลายบริษัทเขาใหญ่เนชั่นแนลปาร์ค ต่อมาศาลมีคำพิพากษาสั่งล้มละลายแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีที่ต้องยึดทรัพย์ให้เป็นไปตามกฏหมายหลังศาลมีคำพิพากษา โดยนำทรัพย์มาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาเฉลี่ยชดใช้ให้เจ้าหนี้ ซึ่งกรมบังคับคดีจะแจ้งไปยังกรมที่ดินให้รับทราบก่อนจะดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามวิธีพิจารณาความตามกฏหมายแพ่ง" น.ส.รื่นวดี กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับที่ดินดังกล่าวมีทั้งหมด 36 แปลง เดิมติดจำนอง บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด มานาน 13 ปีแล้ว ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ นส.3ก.เป็นหลักประกัน ซึ่งในการประกาศขายทอดตลาด จะมีคำเตือนในท้ายประกาศโดยบอกรายละเอียดที่สถานที่ตั้งทรัพย์สินและสภาพของทรัพย์สิน ซึ่งผู้สนใจสามารถไปดูเพื่อประกอบก่อนการตัดสินใจซื้อ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบเสียหายต้องฟ้องร้องตามกฎหมายกับบริษัท ร้อยแก้ว จำกัด ขณะที่บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด ก็ต้องไปฟ้องร้องไล่เบี้ยหาผู้รับผิดชอบต่อไป