จับโกดังรีไซเคิล
ขยะพิษ8พันตัน
ลอบเปิดกิจการ
จ่อชง‘คดีพิเศษ’
“เอกนัฏ” ทลายโรงงานรีไซเคิลขยะที่ปราจีนบุรี พบลอบประกอบกิจการซุกวัตถุอันตราย 8 พันตัน พบเป็นธุรกิจศูนย์เหรียญ ปล่อยเช่าตั้งโกดังผิดกฎหมาย ยันเอาผิดเด็ดขาด จ่อชงดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท เซ็ตเมทอล จำกัด เลขที่ 301 หมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่ประกอบกิจการหลอมหล่อโลหะ เช่น อะลูมิเนียม ทองแดง ซึ่งก่อนหน้านี้โรงงานถูกคำสั่งให้ปิดปรับปรุงชั่วคราว เนื่องจากประกอบกิจการไม่ตรงตามใบอนุญาต แต่มีรายงานว่ายังคงลักลอบประกอบกิจการอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบการกระทำความผิดหลายกรณี ทั้งลักลอบประกอบกิจการเดินเครื่องรีไซเคิลสายไฟ ครอบครองวัตถุที่เข้าข่ายวัตถุอันตรายถึงกว่า 8 พันตัน ทั้งยังมีพฤติกรรมตั้งตนเป็นนิคมศูนย์เหรียญ ซึ่งได้สั่งให้ปิดกิจการและดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทันที
ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า ภายในบริษัท เซ็ตเมทอลฯ ที่มีนางจันจิรา สุขสถิต และนายหยู-ลี่ หยาง จดทะเบียนเป็นกรรมการบริษัทฯ มีการแบ่งโกดัง รวม 7 หลัง ทั้งส่วนที่มีใบอนุญาตโรงงาน และส่วนที่ไม่พบใบอนุญาต โดยขณะที่เข้าตรวจสอบ พบว่ามีคนงานจำนวนหนึ่ง กำลังเดินเครื่องรีไซเคิลสายไฟ ซึ่งถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งระงับกิจการชั่วคราว และพบเศษสายไฟ ชิ้นส่วนระบบไฟฟ้ารถยนต์ เศษโลหะปนเปื้อนขยะอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทั้งหมดเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย รวมกว่า 8 พันตัน ถือเป็นการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีข้อมูลว่ามีรถบรรทุกขนย้ายเศษอิเล็กทรอนิกส์เข้า-ออกโรงงานเฉลี่ยเดือนละกว่า 230 คัน
“ตามลักษณะถือเป็นนิคมศูนย์เหรียญอย่างชัดเจน มีการแบ่งพื้นที่ให้เอกชน 7 ราย ซึ่งเป็นชาวจีนและชาวไต้หวัน เช่าประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งอายัดของกลางทั้งหมดไว้” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าว
สำหรับบริษัท เซ็ตเมทอลฯ มีการเช่าพื้นที่ของบริษัท พีทีเอส โกลเด้น เมทัล จำกัด ที่ไม่ได้ประกอบกิจการแล้ว เพื่อประกอบกิจการคัดแยกเศษโลหะ ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย รวมกว่า 8 พันตัน ทั้งนี้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน และอายัดเครื่องจักร วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และกากของเสียไว้ทั้งหมด พร้อมดำเนินคดีข้อหาตั้งประกอบกิจการและครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเนื่องจากทั้ง 2 พื้นที่ มีการครอบครองวัตถุอันตรายเกิน 50 ตัน เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ จึงเตรียมส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี