บุกค้นเรืออดีตนายพล

ยึดซีโฟร์-อาวุธ-ยาไอซ์

บช.น.ระเบิดโผล่ 3 ลูก

ตร.ยันของเก่าช่วงม็อบ

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม(รรท.ผบก.ป.)พร้อมด้วยร.อ.อธิปัตย์ เขื่อนธรรม ผอ.ควบคุมพื้นที่ ม.พัน 3 รอ. ร่วมแถลงจับกุม นายไพฑูรย์ อ้อนชมภู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 9 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ ผู้ต้องหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง

สำหรับของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วย ระเบิดชนิด เคโม 1 ก้อน ระเบิดซีโฟร์หนัก 2 ปอนด์ครึ่ง ระเบิดชนิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก ระเบิดควัน1 ลูก กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 224 นัด กระสุนปืนเอ็ม 60 จำนวน 207 นัด ปืนยาวชนิดไรเฟิล 1 กระบอก บัตรกอ.รมน.ระบุชื่อ ไพฑูรย์ อ้อนชมภู ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พิเศษปฏิบัติการเส้นเขตแดนสากล และยาไอซ์ 4 กรัม จับกุมได้ภายในเรือลากจูง 2 ชั้น“ดิแอมิราล”เลขที่ 4600-00925 ขณะจอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือวัดคลองภูมิ ถนนพระราม 3 ซอย 28 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.

โดยพ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเรือดังกล่าวมีส่วนพัวพันกับยาเสพติดและอาวุธสงครามจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป.นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวเป็นเวลากว่า1สัปดาห์ กระทั่ง เมื่อช่วงสายวันเดียวกันนี้จึงขออนุมัติ หมายค้นศาลที่144/58 เข้าตรวจค้นเรือดังกล่าวโดยพบนายไพฑูรย์อยู่บนเรือพร้อมของกลางทั้งหมด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเป็นผู้ดูแล และเป็นช่างประจำเรือ ส่วนอาวุธสงครามที่พบนั้น มีคนรู้จักนำมาฝากไว้ โดยบางครั้งก็จะนำของกลางไปขายเพื่อเป็นแลกยาเสพติดมาเสพ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยสรรพาวุธ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าทำการตรวจสอบของกลางดังกล่าว ในการตรวจค้นครั้งนี้ เบื้องต้นการข่าวไม่พบความเชื่อมโยงประเด็นการเมือง

ด้านนายไพฑูรย์ ให้การว่า เป็นผู้ดูแลเรือตั้งแต่ปี 2545 จนกระทั่งปี 2549 ได้นำเรือมาจอดที่จุดดังกล่าว ส่วนของกลางทั้งหมด ก็มีเป็นของนายโอ๊ตไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงซึ่งนายโอ๊ต เป็นลูกของนายทหารยศนายพลที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว นำมาฝากไว้หลายปีแล้วซึ่งก็เก็บไว้ใต้ท้องเรือ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดและอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดไว้ในครอบครองก่อนสอบสวนขยายผลต่อไป

ข่าวแจ้งว่า เรือดังกล่าวมี”พล.ร.อ.” คนหนึ่ง ปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว เป็นเจ้าของเรือ รวมทั้งนายพลรายนี้ยังมีกิจการเรือนำเที่ยวอยู่ที่เกาะช้าง จ.ตราด โดยการข่าวพบว่าอาวุธสงครามทั้งหมดถูกนำมาจากพื้นที่ จ.ตราด โดยมีนายไพฑูรย์ เป็นผู้นำมา ก่อนจะจำหน่ายให้ผู้ที่ต้องการซื้อ หรือแลกกับยาเสพติด

ก่อนหน้านี้เวลา10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร.ต.ท.กิ่งเพชร เต้ปิยะ พนักงานสอบสวน สน.ดุสิตได้รับแจ้งจากพนักงานทำความสะอาดว่า พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณ ลานจอดรถชั้น 3 ภายใน บช.น. จึงรุดไปตรวจสอบพบเป็นระเบิดชนิด เอ็มเคทูสอง 1 ลูก เอ็นอาร์ 423 จำนวน 1 ลูก เอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก และยังพบกระสุนปืน คาร์บิ้นจำนวน 61 นัด เอ็ม16จำนวน161 นัด กระสุนลูกซอง 2นัด และ.357 อีก จำนวน 1 นัด ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

ด้านพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.เผยว่าระเบิดที่พบดังกล่าวคาดว่าอาจจะเป็นระเบิดและกระสุนอาวุธปืนสงครามช่วงที่มีการชุมนุมของม็อบเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสภาพค่อนข้างเก่า โดยที่ต้องทำการตรวจสอบเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่จอดรถของสำนักงาน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.

พล.ต.ต.สมบัติ ยังเชื่อว่าระเบิดดังกล่าว ไม่น่าจะเป็นประสงค์ทำร้ายพล.ต.ท.ศรีวราห์เพราะปกติ ไม่ได้ทำจอดรถบริเวณดังกล่าว แต่อาจจะเป็นช่วง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ายที่พัก แล้วอาจจะมีนำขยะมาวางไว้ แล้วยังไม่ได้มีการเก็บกวาดให้เรียบร้อยซึ่งอาจจะมีการนำระเบิดและอาวุธดังกล่าวมาวางไว้ในช่วงเวลานั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพร้อมเจ้าหน้าที่อีโอดี ลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่

ขณะที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่าระเบิดดังกล่าว ไม่ประสงค์ให้เกิดการสูญเสียชีวิต เพราะวางอยู่ในมุมอับ และ มีระเบิด1ลูก ที่ไม่ได้ใช้ในราชการไทยคือ เอ็นอาร์423 แต่ระเบิดอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน มีเพียงกระสุนปืนเอ็ม16 เท่านั้น ที่ไม่สามารถใช้การได้ซึ่งต้องสืบสวนที่มาที่ไปของระเบิดต่อไป