3 ส.ค. 58 เวลา 08.00 น. ร.ต.ท.สุริยาวุธ พัดรุย พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่ทำการไปรษณีย์ สาขาบางคอแหลม เลขที่ 338/11-13 ถนนมไหสวรรย์ แขวงและเขตบางคอแหลม กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ท.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ รอง ผกก.สส.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ท.ศราวุธ วินัยประเสริฐ สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกันจำนวน 3 คูหา ความสูง 4 ชั้น โดยเปิดเป็นที่ทำการไปรษณีย์สาขาบางคอแหลม (ปณ.บางคอแหลม) เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในอาคารดังกล่าวพบข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้องและพบช่องทางที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเข้ามาลักทรัพย์อยู่บริเวณช่องบันไดทางขึ้นชั้นที่ 2 และประสานกับทางพนักงานของไปรษณีย์สาขาดังกล่าว เพื่อทำการปิดให้บริการชั่วคราว โดยพนักงานได้นำป้ายไปแขวนบริเวณด้านหน้าของไปรษณีย์ โดยระบุว่า “ปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากระบบขัดข้อง ขออภัยในความไม่สะดวก”จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าเก็บร่องรอยลายนิ้วมือของคนร้ายในจุดเกิดเหตุไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

พ.ต.อ.ธรรมนูญ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น.ได้รับแจ้งจากทางพนักงานไปรษณีย์สาขาบางคอแหลม ว่ามีคนร้ายงัดแงะเข้ามาภายในที่ทำการไปรษณีย์สาขาดังกล่าวก่อนจะรื้อค้นทรัพย์สินที่เก็บอยู่ภายในห้องชั้นที่ 1 ของตัวอาคารและหลบหนีออกไปอย่างลอยนวล ก่อนที่พนักงานไปรษณีย์เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.สุริยาวุธ พัดรุย พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร จากนั้นได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

พ.ต.อ.ธรรมนูญ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบในเบื้องต้นนั้น พบล่องลอยของลายนิ้วมือที่คาดว่าจะเป็นของคนร้ายติดอยู่บนกำแพงบริเวณชั้นที่ 2 ของอาคารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นช่องทางในการเข้าไปภายในตัวอาคาร ทั้งนี้จากการสอบถามพยานแวดล้อมทราบว่า พบเห็นคนร้ายออกมาจากอาคารดังกล่าวเพียงคนเดียวโดยถือทรัพย์สินออกมาจำนวนหนึ่ง ให้กับเพื่อนที่ยืนรออยู่บริเวณด้านหน้าอาคารอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ก่อนที่จะเรียกแท็กซี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสี่แยกบุคคโล ก่อนที่จะหายไป สำหรับทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปจากการประทุษกรรมในครั้งนี้ยังไม่ทราบจำนวนและมูลค่าซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางพนักงานไปรษณีย์อยู่

อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในจุดเกิดเหตุรวมถึงเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายที่ใช้หลบหนี อีกทั้งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะเชิญพนักงานไปรษณีย์สาขาดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีพนักงานที่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประทุษกรรมในครั้งนี้หรือไม่ต่อไป