10 ก.ย. 58 ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีจ้างวานฆ่านายเจริญ วัดอักษร แกนกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าบ่อนอก หมายเลขดำ ด.2945/2547 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ฟ้องนายเสน่ห์ เหล็กล้วน (เสียชีวิตแล้วในเรือนจำ) , นายประจวบ หินแก้ว (เสียชีวิตแล้วในเรือนจำ) , นายธนู หินแก้ว อาชีพ ทนายความ อายุ 53 ปี , นายมาโนช หินแก้ว อดีต ส.จ.ประจวบคีรีขันธ์ อายุ 49 ปี , และนายเจือ หินแก้ว อดีตกำนัน ต.บ่อบอก อายุ 78 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันจ้างวานฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ.2490

ตามฟ้องอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 47 ระบุว่า เมื่อระหว่างต้นปี 2547–21 มิ.ย. 47 จำเลยที่ 3-5 ร่วมกันจ้างวานให้จำเลยที่ 1-2 ฆ่านายเจริญ วัดอักษร อายุ 37 ปี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ แกนนำคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอกของ บริษัท กัลฟ์ อิเล็คทรอนิค ต่อมาจำเลยที่ 1-2 ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายเจริญ 9 นัด จนถึงแก่ความตาย ขณะนายเจริญ ลงจากรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพ-บางสะพาน  บริเวณสี่แยกบ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากเดินทางไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินสาธารณะคลองชายธง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวจำเลยได้ จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

คดีนี้โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 51 ว่า นายธนู หินแก้ว จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานจ้างวานใช้ฆ่าผู้อื่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ให้ประหารชีวิต ส่วนนายมาโนช และนายเจือ จำเลยที่ 4-5 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบไม่ชัดเจน ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 56  ให้ยกฟ้อง นายมาโนช และนายเจือ จำเลยที่ 4-5 และให้พิพากษายกฟ้องนายธนู หินแก้ว จำเลยที่ 3 จากเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต จำเลยที่ 3-5 ได้รับการปล่อยตัวระหว่างฎีกา ส่วนนายเสน่ห์ และนายประจวบ จำเลยที่ 1–2 กลุ่มมือปืนที่ลงมือยิง ขณะถูกคุมขังในเรือนจำได้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ระหว่างการสืบพยานของศาลชั้นต้น

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานัด มีนายมาโนช อดีต ส.จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำเลยที่ 4 เดินทางมาศาล เพียงคนเดียว ส่วนนายธนู จำเลยที่ 3 และนายเจือ อดีตกำนัน ต.บ่อบอก จำเลยที่ 5 ไม่ได้มาศาล แต่มีทนายความ นำใบรับรองแพทย์ แสดงต่อศาลเพื่อขอเลื่อนนัดการฟังคำพิพากษาฎีกาออกไป เนื่องจากนายเจือ จำเลยที่ 5 มีอาการป่วยขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า นายเจือ จำเลยที่ 5 มีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลแจ้งสาเหตุ ส่วนนายธนู จำเลยที่ 3 ทราบหมายโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุ ศาลจึงให้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษาฎีกาอีกครั้งในวันที่ 13 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาของนายเจริญ ได้เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้าน เครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอกกว่า 20 คน เต็มห้องพิจารณาคดีเพื่อจะร่วมฟังคำพิพากษาฎีกาด้วย

ด้านนางกรณ์อุมา พงษ์น้อย กล่าวว่า ศาลฎีกาถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรมที่จะพิสูจน์เรื่องราวว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ แม้ว่ามือปืนทั้งสองคนจะเสียชีวิตไปแล้ว