14 ก.ย. 58 เวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลจังหวัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายชัยรัตน์ ชูแก้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดหัวหิน ขึ้นบังลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7  คดีอาญาหมายเลขดำที่ 386/2558 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1022/2558 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดหัวหิน โจทย์ นางลักขณา ทองพัฒน์ โจทย์ร่วม นายวันชัยหรือเกมส์ แสงขาว อายุ 21 ปี พนักงานบริการบนรถไฟขบวนนครศรีธรรมราช – กรุงเทพฯ จำเลยที่ 1 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ปกปิดการกระทำผิดซ่อนเร้นอำพรางศพ หลังก่อเหตุฆ่าข่มขืน ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ หรือ “น้องแก้ม” อายุ 13 ปี บนขบวนรถเร็วที่ 174 ระหว่างนครศรีธรรมราช -กรุงเทพ  จากนั้นโยนศพทิ้งทางหน้าต่างรถไฟที่บริเวณ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 6 ก.ค.57  จำเลยที่ 1 กับ นายณัฐกรณ์หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่ 2 ซึ่งในวันนี้มีเพียงนายวันชัย จำเลยที่ 1 ในชุดนักโทษเด็ดขาดตีโซ่ตรวน มาฟังคำตัดสินเพียงคนเดียว โดยมีนางโสพิษ แสงขาว มารดาและญาติมาให้กำลัง ส่วนทางโจทย์ มี นายพัฒนชัย ธานินทร์พงศ์ พี่ชายซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องแก้มและพี่สะใภ้ มาร่วมฟัง โดย นางลักขณา ทองพัฒน์ มารดาน้องแก้มไม่ได้มาด้วยเนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัด

ซึ่งผู้พิพากษาได้ใช้เวลาประมาณประมาณ 20 นาที อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557  ให้ประหารชีวิต นายวันชัย จำเลยที่ 1 เนื่องจากมีพฤติกรรมเหี้ยมโหด แม้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อหา แต่ไม่มีเหตุบรรเทาโทษเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐาน และไม่จำเป็นต้องฟังเหตุผลจากจำเลยที่ 1 ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิตของศาลชั้นต้นโดยอ้างว่าสำนึกผิดแล้ว ที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง ขาดความยั้งคิด ทั้งยังให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงขอให้ศาลปราณีบรรเทาโทษและลงโทษสถานเบา ขณะที่นายวันชัย ยังมีสีหน้าเรียบเฉยหลังฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวก่อนส่งกลับไปคุมขังที่เรือนจำบางขวางต่อไป

ด้านนายพัฒนชัย ธานินทร์พงศ์  กล่าวว่าทุกวันนี้แม่น้องแก้มยังทำใจไม่ได้และยังเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหมั่นทำบุญให้กับน้องแก้มเสมอ พอใจกับคำตัดสินศาลอุทธรณ์ จนถึงขณะนี้การรถไฟฯได้เยียวยาให้แล้วจำนวน 8.5 ล้านบาท

ด้านนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักอัยการภาค 7 กล่าวว่า แม้ว่าทางศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนให้ประหารชีวิตนายวันชัย แต่จำเลยก็ยังมียื่นฎีกาตามกฎหมายภายใน 1 เดือน ถ้าหากมีการโต้แย้งอะไรก็แก้ฎีกากันต่อไป

ขณะที่ นายสุทิน ชิตชอบ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า  สำหรับนายณัฐกรณ์หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่ 2 ในคดีเดียวกับนายวันชัย แสงขาว  ซึ่งศาลจังหวัดหัวหิน มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 พิจารณาโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุก 4 ปี และที่ผ่านมาไม่ยื่นอุทธรณ์คดีโดยยอมรับโทษจำคุก 4 ปีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำประจวบคีรีขันธ์ โดยมีสุขภาพแข็งแรง มีความประพฤติเรียบร้อยสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้คุมขังรายอื่นได้ตามปกติ สำหรับนายวันชัย แสงขาว หากส่งตัวกลับมาถึงเรือนจำประจวบคีรีขันธ์ จะต้องนำตัวไปคุมขังในห้องควบคุมพิเศษ มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นห้องขังที่เคยควบคุมตัวก่อนการพิจาณาของศาลชั้นต้น  เนื่องจากผู้ต้องหามีอัตราโทษสูง