นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนห้ามของรัฐบาลไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงจัดหาแปลงว่างเพื่อรองรับการดำเนินงานตามนโยบายในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานีกาฬสินธุ์ ชุมพร และนครราชสีมา โดยเริ่มตั้งแต่ส่งเสริมการรวมกลุ่มการผลิต เน้นการบริหารจัดการกลุ่มที่ดีและเหมาะสมมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน รวมถึงส่งเสริมให้มีการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ
โดยปัจจุบันมีเกษตรกรสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 111 รายคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ โดยในปี 2559 กรมหม่อนไหมดำเนินการนำร่องเป็นปีแรก มีเกษตรกรเป้าหมาย จำนวน 50 ราย ซึ่งได้รับการจัดสรรพื้นที่รายละ 4.5 ไร่ คิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 200 ไร่ และมีแผนที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปี 2560 ต่อไป
สำหรับโมเดลอาชีพหม่อนไหมที่แนะนำให้เกษตรกรนั้น จะเน้นการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม หรือเลี้ยงไหมเพื่อขายรัง เป็นอาชีพหลักและ
ส่งเสริมอาชีพรอง หรืออาชีพเสริม ได้แก่ การปลูกหม่อนผลสด การปลูกหม่อนเพื่อขายใบ การทอผ้าไหม/ไหมผสมเส้นใยอื่น เป็นต้น