สั่งจับนายทุนพลุ
เปิดรง.เถื่อนทำบึ้มสนั่น
ลูกจ้างพม่าแหลก6ศพ
ตร.เตรียมออกหมายจับ
สั่งคุมเข้มรง.ทั้งสุพรรณ
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุพลุระเบิด มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวเมียนมา 6 ราย เป็นหญิง 4 คน และชาย 2 คน ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งลักลอบเปิดเป็นโรงงานผลิตพลุดอกไม้ไฟ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาสภาพพังเสียหายทั้งหลัง เหตุเกิดช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 6 พฤษภาคม พล.ต.ต.ภัสรวินทร์ พงศ์ภิภัทรภาคิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี (ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี) พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ภาค 7 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานและสาเหตุพลุระเบิดอีกครั้ง
โดยพบสารกำมะถันและลูกบอลพลาสติกที่ใช้บรรจุเป็นระเบิดลูกบอลและระเบิดปิงปองตกอยู่จำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า ขณะคนงานทั้งหมดกำลังประกอบพลุลูกบอล คาดว่าดินปืนไปเสียดสีกับพื้นปูน หรือเกิดประกายไฟ จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า ในจ.สุพรรณบุรีมีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตทำพลุถูกกฎหมายไม่ถึง 10 ราย ส่วนจุดเกิดเหตุตรวจสอบแล้วยืนยันได้ว่าไม่มีใบอนุญาตให้ผลิตพลุ แต่มีนายทุนลักลอบว่าจ้างคนงานชาวต่างชาติมาประกอบพลุปิงปองช่วงกลางคืน ซึ่งเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้จับกุมนายทุนรายนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และศาลสั่งปรับเมื่อคดีเสร็จสิ้นก็กลับมาทำอีก โดยเข้ามาขอใช้บ้านหลังดังกล่าวกับญาติที่เป็นคนดูแลบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นของอดีตนายทหารนอกราชการ อ้างว่าขอใช้บ้านเพื่อให้ลูกจ้างชาวเมียนมาพักอาศัย โดยไม่ทราบว่าจะใช้เป็นที่ลักลอบทำพลุระเบิดกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น
ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดครั้งนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียดยังไม่สามารถสรุปได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบชื่อนายทุนที่ว่าจ้างให้แรงงานต่างด้าวรายนี้แล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
ด้านพล.ต.ต.ภัสรวินทร์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจที่เกิดพลุระเบิด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการระเบิด และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อหากับผู้ว่าจ้างแรงงานต่างด้าวลักลอบผลิตพลุ ทราบชื่อผู้ว่าจ้างแล้วคือ นายสายธาร แผนดี ภูมิลำเนาอยู่ที่ต.พิหารแดง อ.เมืองสุพรรณบุรี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ ตำรวจจะแจ้งข้อหาว่าลักลอบเปิดโรงงานผลิตพลุ ดอกไม้ไฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นอดีตนายทหาร ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นการเช่าช่วงกันมาและเจ้าของที่ดินเองก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่จ.สุพรรณบุรี
พ.อ.กุญชภัสร์ หาญสมบูรณ์ เสนาธิการ กกล.รส.มทบ.17 กล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุด เพราะมีคนตายจำนวนมาก มาตรการต่อไปคงต้องตรวจเข้มโรงงานพลุทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มี โดยเฉพาะโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตต้องจับกุมดำเนินคดีสถานเดียว ส่วนโรงงานพลุที่มีใบอนุญาตต้องตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ มีการกักตุนหรือไม่ และมีมาตราการป้องกันดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างไร
สอบถามนายเอนก จอวัน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 7 ต.พลับพลาชัย ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตรเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว มีประะกายไฟออกมาเป็นระยะ จากนั้นมีเสียงระเบิดตามมาอีกเป็นระยะ นานประมาณ 5 นาที เสียงจึงสงบลง จึงออกไปดูก็พบว่าโรงงานทำพลุดังกล่าวราบเป็นหน้ากลองไม่เหลือแม้แต่ซาก
สำหรับเหตุพลุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 5 พฤษภาคม ร.ต.อ.สยาม สวนอินทร์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรีรับแจ้งเหตุพลุระเบิด และมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก จึงประสานหน่วยกู้ภัยเสมอกันสุพรรณบุรีระดมกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวพังราบจากแรงระเบิด เหลือเพียงเสาปูน 6 ต้น ฝา หลังคาบ้าน เศษสังกระสี ปูน เหล็ก รวมถึงปลอกลูกพลาสติกขนาดเท่าลูกปิงปองกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว
นอกจากนี้ ยังพบสภาพศพผู้เสียชีวิต ร่างกายฉีกขาดไหม้เกรียม เศษชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์กระจัดกระจายเป็นวงกว้างเกือบ 100 เมตร บางส่วนกระเด็นไปติดบนต้นไม้ เป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานสุพรรณบุรี และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานไว้เป็นหลักฐาน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัยรัตน์ พร้อมตำรวจสภ.อู่ทองสนธิกำลังทหารบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 7 ต.พลับพลาไชย ของ นายสายธาร แผนดี อายุ 32 ปี และนางนฤมล ม่วงอุ่น สองสามีภรรยา ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร พบพลุสีขนาดต่า ๆ 22 ลูก พลุลูกบอลบรรจุเสร็จแล้ว 200 ลูก พร้อมของกลางที่ใช้ประกอบบรรจุพลุไฟจำนวนมาก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่องรอยการเทดินระเบิดจำนวนมากลงในบ่อน้ำหลังบ้านด้วย ส่วนตัวนายสายธารอาจเกรงกลัวความผิด ได้หลบหนีไปพร้อมภรรยา ซึ่งหลังตรวจสอบพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทองจะเสนอขอออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี