วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แจงสี่เบี้ย : การชะล้างพังทลายของดินและการอนุรักษ์ดินและน้ำ (3)

แจงสี่เบี้ย : การชะล้างพังทลายของดินและการอนุรักษ์ดินและน้ำ (3)

วันพุธ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :
  •  

1.การชะล้างแบบแผ่น เป็นการชะล้างพังทลายของดินที่เกิดจากแรงปะทะของเม็ดฝน ทำให้ผิวดินแตกกระจายและพัดพาไปเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งจะสังเกตได้ยาก จะเกิดเป็นบริเวณกว้างบนพื้นที่ค่อนข้างมีความลาดเทสม่ำเสมอ

2.การชะล้างแบบ internal เป็นการกัดชะล้างพังทลายของดินที่เกิดขึ้นเนื่องจากแรงกระทบของเม็ดฝนทำให้ดินบนแตกกระจายออกจากกัน อนุภาคที่มีขนาดเล็กก็จะไหลปะปนกับน้ำลงไปในรอยร้าวหรือตามช่องว่างในดินลงสู่ดินล่าง ทำให้ดินแน่นตัว โดยทั่วไปแล้วการชะล้างพังทลายของดินแบบนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง


3.การชะล้างแบบร่อง ตรงกันข้ามกับแบบเป็นแผ่น คือ จะเกิดจากการชะล้างพังทลายของดินเมื่อมีน้ำในปริมาณมากๆ มารวมตัวกันขึ้น แล้วไหลลงสู่ที่ต่ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยแรงกระทบจากเม็ดฝนแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ 3.1 การชะล้างแบบริ้วเป็นการชะล้างพังทลายของดินที่ก่อให้เกิดร่องเล็กๆ มากมาย มักเกิดจากน้ำไหลตามร่องพืชที่ปลูกตามแนวลาดเท หรือบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความลาดเทเล็กน้อยไม่สม่ำเสมอกัน ความลึกของริ้วมีขอบเขตจำกัด คือลึกไม่เกิน 5-8 ซม. การชะล้างพังทลายของดินแบบนี้อาจไถกลบได้โดยใช้เครื่องมือไถพรวนธรรมดา 3.2 การชะล้างแบบร่องธาร เป็นการชะล้างพังทลายของดินกว้างกว่าแบบริ้ว เกิดขึ้นเนื่องจากการปลูกพืชตามแนวลาดเทซ้ำซาก หรือเกิดขึ้นบนพื้นที่ที่มีความลาดเทสูง และระยะของความลาดเทยาวมากอำนาจการชะละลายของน้ำจึงมีมากขึ้น ทำให้ดินถูกพัดพาไปเป็นจำนวนมาก3.3 การชะล้างในธารน้ำ เป็นการชะล้างพังทลายของดินที่เกิดขึ้นตามธารน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำธาร ซึ่งมีน้ำตลอดปีโดยการทำให้ดินแตกกระจายและชะล้างแร่ธาตุจากสองข้างฝั่งไป เนื่องจากกำลังแรงของกระแสน้ำ

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการชะล้างพังทลายโดยน้ำ ประกอบด้วย

1.น้ำหรือฝน หมายถึงการตกลงมาของน้ำในรูปของแข็งหรือของเหลวก็ตาม เช่น ฝน หิมะ ลูกเห็บ หมอก หรือน้ำค้าง โดยทั่วไปแล้วถือว่าฝนเป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้เกิดการชะล้างพังทลาย แต่สำหรับประเทศหนาวหิมะก็มีส่วนมากเหมือนกัน การกัดกร่อนจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับลักษณะของฝน เช่นความมากน้อยที่ตกครั้งหนึ่ง ระยะเวลา จำนวนน้ำฝนทั้งหมด ขนาด ความเร็ว รูปร่างของเม็ดฝน และการแพร่กระจายของในแต่ละฤดู

2.สภาพภูมิประเทศ มีความสัมพันธ์อย่างมากกับน้ำไหลบ่า จะมีอิทธิพลแค่ไหนขึ้นอยู่กับความชันของความลาดเท ความยาวความลาดเท รูปร่างของความลาดเท ความไม่สม่ำเสมอของความลาดเท และทิศทางความลาดเท

3.สมบัติของดิน การชะล้างพังทลายจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยของดิน ดังนี้ ความสามารถในการทนทานต่อการชะล้างพังทลายของดิน ความสามารถในการทนทานต่อการพัดพา และความสามารถในการทนทานต่อน้ำไหลบ่า

4.สิ่งปกคลุมผิวดิน การใช้ประโยชน์จากที่ดิน และการจัดการดินซึ่งอาจมีผลดังนี้ สิ่งปกคลุมดิน การมีเศษวัสดุปกคลุมอยู่มีผลโดยตรงต่อการลดแรงปะทะของเม็ดฝน การใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยใช้ที่ดินให้เหมาะสมตามสมรรถนะของดิน เช่น การปลูกพืชปกคลุมดิน มีผลทำให้การชะล้างพังทลายและการสูญเสียดินลดลงได้ การจัดการดิน ได้แก่การไถพรวนถ้าทำให้ถูกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน วิธีการปลูกพืชมีอิทธิพลต่อการชะล้างพังทลายของดินขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่ปลูก ซึ่งถ้ามีพืชหนาแน่นและปลูกตามแนวระดับหรือขั้นบันไดจะลดการชะล้างพังทลายของดินเป็นอย่างมาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อุตฯอาหารสัตว์-ภาคปศุสัตว์ไทย’ร่วมสร้าง‘อากาศสะอาด’ ไม่รับซื้อวัตถุดิบจากการเผา ‘อุตฯอาหารสัตว์-ภาคปศุสัตว์ไทย’ร่วมสร้าง‘อากาศสะอาด’ ไม่รับซื้อวัตถุดิบจากการเผา
  • ‘นบข.’เคาะจ่าย‘ไร่ละพัน’ทั้งข้าวนาปรัง-นาปี ช่วยชาวนาเหตุราคาตกต่ำ ‘นบข.’เคาะจ่าย‘ไร่ละพัน’ทั้งข้าวนาปรัง-นาปี ช่วยชาวนาเหตุราคาตกต่ำ
  • \'เลขาธิการ มกอช.\'ชื่นชม อย.ตรึงมาตรฐานห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงเข้มงวด 'เลขาธิการ มกอช.'ชื่นชม อย.ตรึงมาตรฐานห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงเข้มงวด
  • เกษตรกรภูเรือวิกฤต! ‘แก้วมังกรราคาดิ่ง’ ท้อแท้!นำไปทิ้ง-กลับไปปลูกยางพารา เกษตรกรภูเรือวิกฤต! ‘แก้วมังกรราคาดิ่ง’ ท้อแท้!นำไปทิ้ง-กลับไปปลูกยางพารา
  • เกษตรกรสทิงพระ-โชว์เคล็ดลับ ‘ปลูกแตงกวา’ ไร้สารเคมี-สร้างรายได้หลักหมื่น เกษตรกรสทิงพระ-โชว์เคล็ดลับ ‘ปลูกแตงกวา’ ไร้สารเคมี-สร้างรายได้หลักหมื่น
  • \'อธิบดีกรมปศุสัตว์\'เฝ้ารับเสด็จฯ 'อธิบดีกรมปศุสัตว์'เฝ้ารับเสด็จฯ
  •  

Breaking News

พูดไม่เข้าหู! 'ศรราม'จวกแรง! 'หจจ'บอกให้เดินระวังๆ ทหารเหยียบกับระเบิดที่ชายแดน

ทุบเปรี้ยง! เดือน พ.ย.‘อิ๊งค์’ลาออกนายกฯ ก่อน‘ยุบสภา’อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง

‘หญิงพิการขา’สุดท้อลำบากอยู่แล้ว สามียังมาตกต้นไม้พิการอีกคน

‘น่าน’เคาะงบกว่า 100 ล้าน ฟื้นฟู-เยียวยาผู้ประสบภัยพายุ‘วิภา’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved