ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ บริเวณสถานีสำโรง (E15) เริ่มด้วยการเยี่ยมชมห้อง Control Room, ทางเชื่อม Skywalk, จุดบริการคนพิการ, จุดติดตั้งกล้อง CCTV และจุดเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างสถานีแบริ่ง (E14)-สมุทรปราการที่สถานีสำโรง (E15) โดยมีรองผู้ว่าฯการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ, รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจเยี่ยม
โดยนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง รายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน ปัจจุบันการก่อสร้าง งานโยธา ดำเนินการแล้ว 88.74% และงานระบบราง 89.40% ภาพรวมของการก่อสร้าง ดำเนินการแล้ว 88.85% ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้า การสื่อสาร กรุงเทพมหานคร มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ
โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเชื่อมต่อจากสถานีแบริ่งบริเวณซอยสุขุมวิท 107 มีทั้งหมด 9 สถานี ได้แก่ 1.สถานีสำโรง (E15) ตั้งอยู่ระหว่างสะพานข้ามคลองสำโรงกับแยกเทพารักษ์ 2.สถานีปู่เจ้าสมิงพราย (E16) ตั้งอยู่ถนนซอยสุขุมวิท 115 3.สถานีเอราวัณ (E17) ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิทซอย 7 4.สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18) ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนนายเรือ 5.สถานีสมุทรปราการ (E19) ตั้งอยู่หน้าวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ
6.สถานีศรีนครินทร์ (E20) ตั้งอยู่สะพานข้ามคลองบางปิ้ง 7.สถานีแพรกษา (E21) ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนสมุทรปราการ 8.สถานีสายลวด (E22) ตั้งอยู่ซอยเทศบาลบางปู 45 และ 9.สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) ตั้งอยู่ซอยเทศบาลบางปู 50 รวมระยะทาง 13 กิโลเมตร มีศูนย์ซ่อมบำรุงพื้นที่ 123 ไร่ หลังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้งและมีอาคารจอดแล้วจรบริเวณสถานีปลายทางเคหะสมุทรปราการ เนื้อที่ 18 ไร่ สามารถจอดรถได้ 1,200 คัน
สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าข้ามจังหวัด ที่เชื่อมต่อกรุงเทพมหานครไปยังจ.สมุทรปราการ โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ต้องประสบปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างสถานีแบริ่งกับสถานีสำโรง ตามแผนคาดว่าจะนำรถไฟฟ้าเข้าทดสอบในเดือนธันวาคม 2559 และจะเปิดให้บริการสถานีแรก ได้แก่ สถานีสำโรง วันที่ 1 มีนาคม 2560 และสามารถเปิดให้บริการตลอดสายได้ในปี 2561
โดยมูลค่าการลงทุนรวมของโครงการทั้ง 2 ช่วง (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) แบ่งเป็นค่างานโยธาที่กรุงเทพมหานครต้องชำระคืนให้รัฐบาลเป็นเงิน 60,815 ล้านบาท และงานติดตั้งระบบ 15,500 ล้านบาท และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดให้บริการจะช่วยบรรเทาการจราจรในเขตบางนา และจ.สมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งชุมชนเป็นจำนวนมาก และในอนาคตสถานีสำโรง (E15) จะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์และกลายเป็นศูนย์กลางพัฒนาแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพฯ ฝั่งใต้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี