12 ส.ค.59 สะเทือนขวัญรับช่วงวันหยุด..กันทีเดียว กับเหตุลอบวางระเบิดและวางเพลิงหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 11 ส.ค.59 คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลาที่พักริมทางตลาดเซ็นเตอร์พอยต์ ซึ่งเป็นถนนคนเดิน รมถนนรื่นรมย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ไมไกลจาก สภ.เมืองตรัง และศาลากลางจังหวัดตรังมากนัก มีผู้บาดเจ็บรวม 7 ราย ต่อมาทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตไป 1 ราย คือ จ.อ.พิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ อายุ 51 ปี
แม่ค้ารายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งร้าน บริเวณศาลามีคนนั่งอยู่จำนวนหนึ่ง สักพักก็เกิดระเบิดขึ้นและมีเสียงร้องระงมด้วยความเจ็บปวด ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยกู้ภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เบื้องต้น นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ความเห็นว่า ไม่น่าใช่การก่อการร้ายไม่ว่าจะจากกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่น่าจะมาจากเหตุขัดแย้งบางอย่างภายในตลาด
คืนวันเดียวกัน..ที่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 ในเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เวลาประมาณสี่ทุ่มเศษ เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณบาร์เบียร์ “จอนนี่ 56” ตั้งอยู่หลังโรงเรียนเทศบาลหัวหิน จากนั้นเพียงไม่ถึงชั่วโมง เวลาประมาณ 23.10 น. เกิดเหตุระเบิดที่ร้าน “เรนทรี สปา” ห่างจากจุดแรกราว 50 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บประมาณ 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีหญิงไทยวัย 40 ปี เสียชีวิต 1 ราย
นายมาร์ค เกนส์ฟอร์ด (Mr. Mark Gainsford) นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกเล่ากับสำนักข่าว BBC ของอังกฤษว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงระเบิด แต่มีเสียงผู้คนตะโกนอย่างต่อเนื่องว่า “มีระเบิด..มีระเบิด” เมื่อเข้าไปดูพบคนนอนบาดเจ็บราว 10 คน พร้อมกับตำรวจที่เข้ามายังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” และไม่ใช่แค่ “ข่มขู่” แต่มุ่งประสงค์ต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง สอดคล้องกับ พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รอง ผบก.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงมีการ “เตือน” ให้ระวังมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ แล้ว
จากนั้นเมื่อนาฬิกาบอกเวลาว่าเข้าสู่ 12 ส.ค. 2559 ก็เกิดเหตุ “ป่วนรายชั่วโมง” ไล่ตั้งแต่เวลาประมาณตีสองเศษๆ เกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดนัดย่านแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก บ้านบางเนียง จ.พังงา ซึ่งสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ทำจากไม้และหญ้าคา เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี พ่อค้าแม่ค้าต่างเร่งขนย้ายข้าวของหนีไฟกันอย่างโกลาหล พร้อมกับรถดับเพลิงที่กำลังฉีดน้ำสกัดไม่ไห้ไฟลุกลาม ใช้เวลา 1 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบเสียหาย 80 ล็อก มูลค่ารวม 8 ล้านบาท เบื้องต้นตำรวจ สภ.เขาหลัก ตั้งประเด็นไว้ว่าอาจเกิดจากการลอบวางเพลิงหรือไฟฟ้าลัดวงจร
เวลาประมาณ 03.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและของที่ระลึก บริเวณหน้าหาดอ่าวนาง (ตรงข้ามประติมากรรมปลาใบ) ตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบร้านค้าได้รับความเสียหาย 4 คูหา มูลค่ารวม 10 ล้านบาท เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ , เวลา 03.30 น. เกิดเหตุที่ จ.ตรังอีกครั้ง คราวนี้เป็นเพลิงไหม้ที่ห้างลีมาร์ท หน้าสถานีรถไฟตรัง ถนนพระราม 6 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ภายในห้างมีกองกระดาษเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี มูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท ,
03.49 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านทวีสินพลาสติก ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ใช้เวลากว่า 2 ชม. จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่ง นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความลำบากเพราะประตูร้านมีถึง 3 ชั้น ต้องเปิดออกทีละชั้น ประกอบกับข้างในเต็มไปด้วยพลาสติกอันเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
07.49 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้างเทสโก้โลตัส ริมถนนสายพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ก่อนจะลุกลาม มูลค่าความเสียหายราว 1 แสนบาท ทว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบ พบ “ซากโทรศัพท์มือถือ” ในสภาพไหม้เกรียมตกอยู่ในพื้นที่ต้นเพลิง จึงสันนิษฐานว่าอาจมีผู้เข้ามาลอบวางระเบิดแต่ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ หรืออาจเป็นการตั้งวงจรให้เกิดประกายไฟเพื่อลอบวางเพลิง
ทั้ง 5 เหตุการณ์ “เคราะห์ดี” ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต!!!
08.00 น. ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจน้ำ จ.สุราษฎร์ธานี หลังกิจกรรม “ตักบาตรวันแม่” เพิ่งเสร็จสิ้นไปเพียงไม่กี่นาที คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณใต้ต้นไม้ริมทางเท้าหน้าสถานีตำรวจน้ำ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ 1.นางจันทน์รัตน์ เจริญจิตร 2.นายณรงค์ชัย สุขแก้ว 3.นายธีรวิทย์ บัวน้อย และผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางจงกลณี พุ่มกระจ่าง พนักงานกวาดขยะของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ,
08.30 น. เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งที่บริเวณข้างตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ใกล้ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างโกลาหล , 08.45 น. ที่ จ.ภูเก็ต เกิดระเบิด 2 จุด บริเวณสวนสาธารณะปลาโลมา เขตเทศบาล จ.ภูเก็ต ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และที่หน้าป้อมตำรวจ ถ.ทวีวงศ์ อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ,
09.00 น. เกิดเหตุระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีก 2 ครั้ง จุดแรกบริเวณหอนาฬิกาใกล้วัดหัวหิน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย และมีหญิงไทยเสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเป็นพนักงานของเทศบาลที่เข้ามาเก็บโต๊ะเก้าอี้ที่ใช้จัดกิจกรรมตักบาตรวันแม่ กับอีกจุดที่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดหัวหิน จุดนี้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เมื่อหน่วย EOD สังกัดตำรวจพลร่มค่ายนเรศวรเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุในย่านบาร์เบียร์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ,
09.30 น. เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณพื้นที่ตลาดนัดย่านแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก บ้านบางเนียง จ.พังงา ใกล้กับจุดที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แรงระเบิดส่งผลให้รถยนต์ที่แล่นผ่านไปมาเสียหาย พื้นที่ปูนแตกเป็นหลุมลึก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
11.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) หลังการประชุม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ขั้นต้น ทราบว่า เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีและไม่ต้องการให้เกิดความสงบสุขขึ้นภายในประเทศ โดยมุ่งหวังทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกและช่วยกันสอดส่องดูแลหากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระบุว่า เหตุลอบวางระเบิดและวางเพลิงที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่ใช่เหตุก่อการร้าย เนื่องจากประเทศไทยไม่มีความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนา หรือปัญหาชนกลุ่มน้อย และไม่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส แต่เป็นความขัดแย้งภายในประเทศ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือประชามติหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นมีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี