คำถาม ที่บ้านมีเศษปลาจำนวนมาก ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ อยากจะขอวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาครับ
ถวิล นาเจริญ
อ.เมือง จ.ตราด
คำตอบ น้ำหมักชีวภาพ เป็นธาตุอาหารธรรมชาติอย่างแท้จริง เป็นธาตุอาหารสำหรับพืชที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง จุลธาตุ ฮอร์โมน โปรตีน วิตามิน ฮิวมิคแอชิต จุลินทรีย์ และอื่นๆอีกมากมาย ธาตุอาหารพืชเหล่านี้ ทำได้จากวัสดุหลายชนิด และหนึ่งในหลายชนิดนั้น คือ เศษปลาหรือปลาเหมาะสำหรับคนที่ทำการเกษตรในแถบชายฝั่ง
น้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการย่อยสลายเศษวัสดุเหลือใช้จากปลา ได้แก่ หัวปลา ก้างปลา หางปลา พุงปลา และเลือด ผ่านกระบวนการหมักโดยการย่อยสลายโดยการใช้เอนไซม์ ซึ่งเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติหลังจากหมักจนได้ที่แล้ว จะได้สารละลายสีน้ำตาลเข้ม ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม นอกจากนี้ยังประกอบด้วยธาตุอาหารรอง ได้แก่ กำมะถันเหล็กทองแดง และแมงกานีสอีกด้วย
สูตรที่ใช้
1.ปลาหรือเศษปลาจำนวน 40 กิโลกรัม
2.กากน้ำตาลจำนวน 20 กิโลกรัม
3.หัวเชื้อน้ำหมักชีวภาพพด.2 จำนวน 1 ถุง(สามารถขอได้ที่กรมพัฒนาที่ดิน หรือสำนักงานพัฒนาที่ดินในเขตหรือจังหวัดใกล้บ้าน)
ขั้นตอนการทำ นักวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน ได้แนะนำวิธีทำไว้ดังนี้
นำหัวเชื้อน้ำหมักชีวภาพพด.2 มาละลายในน้ำอุ่น 20 ลิตร ผสมลงในถังขนาด 200 ลิตร พร้อมปลาหมักและกากน้ำตาลเติมน้ำสะอาดจนเกือบเต็มแต่อย่าให้ถึงกับล้นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ นำไนล่อนชนิดถี่มาปิดไว้เพื่อป้องกันแมลงวันวางไข่หมักไว้ประมาณ 25-30 วัน ในระหว่างนี้น้ำในถังจะเริ่มลดลงให้เติมน้ำสะอาดลงไปอีกให้ออกซิเจนตลอดเวลา โดยหมั่นคนน้ำหมักอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้งในกรณีที่ใช้พ่นทางใบควรหมักให้นานกว่าปกติยิ่งนานยิ่งดีเพราะถ้านำมาใช้เร็วอาจเกิดผลเสียทำให้ใบไหม้ได้
วิธีสังเกต มีวิธีสังเกตว่าจะนำน้ำหมักมาใช้ได้ ดังนี้
ระยะที่ 1 สังเกตน้ำหมักจะออกเข้มข้นเป็นฟองใหญ่ไม่แตกง่าย
ระยะที่ 2 ฟองจะค่อยๆเล็กและแตกง่ายจะมีกลิ่นหอม
ระยะที่ 3 ฟองจะค่อยๆเล็กลงมากมีกลิ่นน้ำส้มคล้ายกลิ่นแอลกอฮอล์และฟองจะละเอียดมากขึ้น
ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพ ทำให้พืชที่ปลูกออกดอกเร็วเก็บผลผลิตได้เร็วได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้นและมีคุณภาพดีลงทุนน้อยลดต้นทุนในการผลิตและสามารถผลิตไว้ใช้เองในครัวเรือนไม้ผลจะมีรากที่แข็งแรงใบสวยใบใหญ่และยังปรับให้สภาพพื้นที่ดินดีไม่เสียไม่เปรี้ยว
วิธีการใช้น้ำหมักชีวภาพ ถ้าจะใช้ฉีดพ่นทางใบใช้น้ำหมักชีวภาพ 1 ลิตรต่อน้ำ100-150 ลิตร ปริมาณการพ่น 7-10 วัน/ครั้ง และถ้าใช้ราดลงดินให้ราดที่โคนต้นใช้น้ำหมักชีวภาพ 1 ลิตรต่อน้ำ 50 ลิตร ปริมาณการใช้อย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง หรือ 30-40 วัน/ครั้ง
น้ำหมักชีวภาพจากปลานั้น ทำได้ไม่ยาก สะดวก รวดเร็ว ใช้ได้ง่าย ลงทุนน้อย ลดต้นทุนในการผลิตและสามารถผลิตไว้ใช้เองในครัวเรือนง่ายๆ และมีประโยชน์มากกว่าโทษ หากมีความรู้ความเข้าใจในการนำไปใช้ ก็จะใช้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก จากคำบอกเล่าของเกษตรกรผู้ใช้น้ำหมักชีวภาพจากปลาพบว่า น้ำหมักชีวภาพจากปลา จะไปช่วยพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เช่น ดอกไม้ให้มีสีสดขึ้น ผลไม้มีคุณภาพดีขึ้นช่วยเร่งการแตกยอดและออกดอกใหม่ให้แก่ต้นไม้อีกด้วย
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี