วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เผยขั้นตอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อ ตร.ชี้ทำงานเป็นทีม-ชักจูงเก่งค่าตัวยิ่งสูง

เผยขั้นตอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อ ตร.ชี้ทำงานเป็นทีม-ชักจูงเก่งค่าตัวยิ่งสูง

วันพฤหัสบดี ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561, 22.12 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขั้นตอน หลอกเหยื่อ
  •  

15 มี.ค.61 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้กำกับการประจำสำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “ทำอย่างไรจึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊ง Call Center” ณ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าจากเท่าที่ทางตำรวจเคยทำการสืบสวนจับกุมกลุ่มบุคคลที่โทรศัพท์ไปหลอกให้ผู้อื่นหลงเชื่อแล้วให้โอนเงิน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบรูปแบบขั้นตอนการหลอกลวงแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนแรก มิจฉาชีพจะใช้ระบบอัตโนมัติโทร.เข้าไปหาเหยื่อ เช่น ขอให้กด 1 กด 9 หรืออื่นๆ โดยโทร.ไปแบบสุ่ม หากผู้รับสายกดตามนั้นก็จะได้พูดคุยกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ซึ่งเป็นทีมแรกของขบวนการ ทำหน้าที่พูดคุยเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน รวมถึงขอเป็นเพื่อนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) พร้อมกับบอกเป้าหมายว่ามีพัสดุให้ไปรับ และพัสดุนั้นคือเงินสดจำนวนมากพอสมควร


จากนั้นมิจฉาชีพก็จะส่งต่อให้ทีมที่ 2 ของขบวนการ โทร.เข้าไปหาเป้าหมายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เช่น ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีแม้กระทั่งอ้างว่าเป็นอัยการหรือผู้พิพากษา บอกว่าเงินสดที่เป็นพัสดุส่งถึงเป้าหมายนั้นอาจพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย

ซึ่งทีมที่ 2 นี้จะมีจิตวิทยาในการพูดสูง สามารถข่มขู่ให้เป้าหมายเกิดความกลัวขึ้นได้ มีการอ้างชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นคนนี้ เช่น อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจต่างๆ อีกทั้งมิจฉาชีพมักโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (VoIP) และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตั้งค่าให้หมายเลขโทรศัพท์ที่ไปปรากฏบนเครื่องของเป้าหมายเป็นหมายเลขจริงของหน่วยงานราชการที่มิจฉาชีพอ้างถึง ยิ่งทำให้เป้าหมายหลงเชื่อได้ง่าย

นอกจากนี้มิจฉาชีพยังข่มขู่ให้เป้าหมายออกห่างจากบุคคลอื่นและห้ามบอกใครเพราะจะมีความผิดฐานเปิดเผยความลับทางราชการ เมื่อทีมที่ 2 ของมิจฉาชีพรู้สึกได้ว่าเป้าหมายเริ่มกลัว ก็จะส่งไม้ต่อให้ทีมที่ 3 ซึ่งจะอ้างตัวว่าสามารถติดต่อผู้บริหารระดับสูงขององค์กรนั้นๆ ให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความได้ แต่ขอให้ช่วยโอนเงินไปเข้าบัญชีนั้นบัญชีนี้เป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้เหตุที่เป้าหมายหลงเชื่อเพราะมิจฉาชีพมักอ้างว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าเดินทางไกลไปให้การ เช่น เป้าหมายอยู่กรุงเทพฯ มิจฉาชีพอาจอ้างว่าต้องไปให้การกับตำรวจที่ จ.เชียงใหม่ หรือ จ.สงขลา เป็นต้น

พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ขนาดนิด

“80 เปอร์เซ็นต์คนร้ายมักจะอ้างกับเหยื่อว่ามีไปรษณีย์ตกค้าง ที่เหลือก็จะอ้างว่าเป็นหมายศาลตกค้าง หรืออ้างว่าโทรศัพท์จะถูกตัดเพราะไปเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม ส่วนการถอนเงินแต่ก่อนจะถอนกันในกรุงเทพเป็นหลัก ตอนหลังก็ไปถอนต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ แต่ที่น่ากลัวคือการโอนเงินเข้าบิทคอยน์ (BitCoin-สกุลเงินดิจิตอล) เพราะตำรวจจะตามไม่ได้ ถ้าโอนไปให้ตัวแทนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เราไม่สามารถติดตามไปอายัดเงินได้” พ.ต.อ.ชูศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.เทิดสยาม บุญยะเสนา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การแอบอ้างของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำให้แม้แต่ตำรวจเองก็ทำงานได้ลำบาก เพราะเวลาตำรวจจะโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากผู้เสียหาย ก็จะโดนตัดสายทิ้งหรือโดนผู้เสียหายต่อว่าเพราะเข้าใจว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทร.เข้าไป นอกจากนี้ทีมหลอกลวงทั้ง 3 ทีมของมิจฉาชีพนั้นได้ค่าจ้างไม่เท่ากัน ทีมแรกอาจได้ร้อยละ 4 ของเงินที่หลอกได้ ทีมที่ 2 จะได้เพิ่มมาเป็นร้อยละ 5 และทีมที่ 3 ซึ่งมีจิตวิทยาในการพูดชักจูงสูงที่สุดใน 3 ทีม จะได้สูงถึงร้อยละ 15

พ.ต.ท.เทิดสยาม ยังกล่าวอีกว่า จากที่เคยสอบถามผู้ต้องหาที่จับกุมได้ บางรายให้การว่าทราบข้อมูลส่วนบุคคลของเป้าหมายแทบจะละเอียดจนทำให้เป้าหมายหลงเชื่อยอมโอนเงินให้ เพราะมีการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่ข้อมูลนี้ทางตำรวจไม่ขอยืนยันว่าจริงหรือไม่เนื่องจากผู้ต้องหาจะพูดอย่างไรก็ได้ ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนขยายผลกันต่อไป แต่หลายครั้งพบว่ากว่าจะถึงทีมที่ 3 ทีมแรกหรือทีมที่ 2 นั่นเองที่เป็นผู้สอบถามจนเหยื่อเผลอบอกข้อมูลส่วนบุคคลไปก่อนแล้ว

พ.ต.ท.เทิดสยาม บุญยะเสนา

"คนเขียนสคริป (Script-บทพูด) ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ข่าวว่ามีการแย่งตัวกันมาก ค่าตัวหลักล้านบาท ไปไหนก็มีคนดูแลตลอด ตอนนี้ทางตำรวจก็พยายามหาตัวอยู่แต่ยังไม่เจอ" พ.ต.ท.เทิดสยาม ระบุ

ด้าน นางสุพัตรา แผนวิชิต นักวิชาการด้านอาชญากรรมเศรษฐกิจและการฟอกเงิน ฝากเตือนถึงประชาชนไว้ว่า 1.ตั้งสติ อย่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ กับมิจฉาชีพที่โทรศัพท์เข้ามา และอย่าโอนเงินไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ตามที่มิจฉาชีพพยายามบอกให้ทำโดยเด็ดขาด 2.โทรศัพท์ไปสอบถามกับหน่วยงานที่ถูกอ้างถึง เพราะหากหน่วยงานนั้นมีการอายัดเงินหรือทรัพย์สินจริงต้องมีการออกเอกสารแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น 3.แจ้งเบาะแส หากทราบบัญชีที่มิจฉาชีพจะให้โอนเงินไป ให้แจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น DSI หรือ ปปง.

"ถ้าตกเป็นเหยื่อแล้ว อันดับแรกโทร.ไปที่ธนาคารก่อน จากข้อมูลของ ปปง. ที่เขาตรวจสอบบัญชีที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่เมื่อโอนเงินไปแล้วจะมีการถอนเงินออกจากบัญชีปลายทางในทันที ส่วนใหญ่จะไม่ทัน แต่ก็ดีกว่าปล่อยไปเฉยๆ เราก็ต้องติดต่อธนาคารปลายทางเพื่อให้ระงับบัญชี ซึ่งเขาจะไปตรวจสอบอีกทีหนึ่ง ต่อไปก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะไปแจ้งความ ไปลงบันทึกประจำวัน" นางสุพัตรา กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เร่งล่าตัวไส้ศึกคนไทย! \'บิ๊กหวาน\' เผยประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดง \'ก๊ก อาน\' เร่งล่าตัวไส้ศึกคนไทย! 'บิ๊กหวาน' เผยประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดง 'ก๊ก อาน'
  • จเรตำรวจเตือนอย่าเป็นคนไทยขายชาติ โทษหนักจำคุก 41 ปี ล่าสุดตะครุบตัว 6 คน จเรตำรวจเตือนอย่าเป็นคนไทยขายชาติ โทษหนักจำคุก 41 ปี ล่าสุดตะครุบตัว 6 คน
  • เร่งล่า\'ก๊ก อาน\' ตัวการใหญ่แก๊งคอลฯ ยังไม่พบโยงนักการเมืองไทย เร่งล่า'ก๊ก อาน' ตัวการใหญ่แก๊งคอลฯ ยังไม่พบโยงนักการเมืองไทย
  • ด่วน! ออกหมายจับ\'ก๊ก อาน\'เจ้าพ่อกาสิโนปอยเปต  คนสนิท\'ฮุนเซน\' โยงอาณาจักรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด่วน! ออกหมายจับ'ก๊ก อาน'เจ้าพ่อกาสิโนปอยเปต คนสนิท'ฮุนเซน' โยงอาณาจักรแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • \'ไทย\'ผนึกกำลัง\'ตร.สากล\' ลุยกวาดล้างแก๊งคอลฯในกัมพูชา 'ไทย'ผนึกกำลัง'ตร.สากล' ลุยกวาดล้างแก๊งคอลฯในกัมพูชา
  • รวบ 2 หญิงไทย รับจ้างข้ามแดนเปิด\'บัญชีม้า\'ให้แก๊งคอลฯ รวบ 2 หญิงไทย รับจ้างข้ามแดนเปิด'บัญชีม้า'ให้แก๊งคอลฯ
  •  

Breaking News

เช็คเสียงโหวตร่างนิรโทษฯ!‘สส.รัฐบาล’เหนียวแน่น ‘6 สส.สายเสื้อแดง พท.’โหวตหนุน‘ฉบับส้ม’

เลยน้ำป่าทะลัก! โรงเรียนปิดการสอน-ชาวบ้านเร่งนำกระสอบทรายกั้น

'แจ็ค ไททัส' Mister Model International 2025 เดินสายพบสื่อมวลชน

'บิ๊กเต่า'ซัดสำนักพุทธฯ ไม่จริงใจ-ปกปิดปัญหา หวั่นปล่อยไว้เป็นมะเร็งร้าย ทำพระพุทธศาสนาเสื่อม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved