22 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสถาปนาศาลยุติธรรมครบ 136 ปี สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เผยแพร่จำนวยสถิติคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รวมทั้งศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1-9 ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ เริ่มทยอยเปิดทำการตั้งเดือน ต.ค.59 กระทั่งครบทั้ง 9 ภาค เมื่อเดือน เม.ย.60 ที่ผ่านมา

โดยช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค.60 มีคดีอาญาเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 1,178 คดี ศาลพิพากษาพิจารณาแล้วเสร็จ 762 คดี คิดเป็นร้อยละ 64.69 ของปริมาณคดีที่เข้าสู่การพิจารณา

ส่วนคดีแพ่ง มีทั้งสิ้น 4 คดี โดยเข้าสู่ศาลอาญาฯกลาง 3 คดี และเข้าสู่ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 5 (ภาคเหนือ) อีก 1 คดี ซึ่งคดีทั้งหมดยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ในการพิจารณาคดี พบว่า ปริมาณคดีที่เข้าสู่การไกล่เกลี่ยทั้งสิ้น 33 คดี เป็นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 32 คดี ยกเลิกการไกล่เกลี่ย 8 คดี และมีคดีที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 8 คดี และไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ  14 คดี อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย 2 คดี , ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 (ภาคตะวันตก) 1 คดี อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย

ระยะเวลาที่พิพากษาคดีแล้วเสร็จ ตามสถิติเดือน ม.ค.- ธ.ค.60 พบว่า คดีที่พิพากษาเสร็จใช้เวลา1 - 3 เดือน มี 265 คดี คิดเป็นร้อยละ 34.78 คดีที่พิพากษาแล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 1 เดือน 170 คดี คิดเป็นร้อยละ  22.31   และคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จในเวลา 6 เดือน- 1 ปี  151 คดี คิดเป็น ร้อยละ 19.82 อย่างไรก็ตาม ถือว่าคดีที่เข้าสู่การพิจารณาและพิพากษาแล้วเสร็จ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาพิจารณา 1 เดือน แต่ไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้มีคดีที่ใช้เวลาพิจารณาเกิน 2 ปีมี 3 คดี

สำหรับขั้นตอนพิจารณาคดี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการสืบพยาน ถัดมาคือขั้นตอนที่อยู่ระหว่างรอการวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ และสุดท้ายขั้นตอนรอคำพิพากษาและคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาด

ในส่วนคดีอาญา ช่วงปี 2560 มีการยื่นอุทธรณ์คดี ต่อศาลอุทธรณ์ พบว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นศาลที่มีปริมาณ ส่งคดีไปยังศาลอุทธรณ์ มากเป็นอันดับแรก จำนวน 189 คดี , รองลงมา คือ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 (ภาคอีสาน) 11 คดี และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคภาค 8 (ภาคใต้)  10 คดี รวมทั้งการอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานั้น มีเพียงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลเดียวที่ส่งคดีไปยังศาลฎีกาจำนวน 36 คดี

สำหรับบุคลากรในหน่วยงานต่างๆของรัฐที่ถูกฟ้องคดี 5 อันดับ อันดับที่ 1 คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (สตช.) 402 คน อันดับที่ 2 กระทรวงมหาดไทย 368 คน อันดับที่ 3 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 351 คน อันดับ 4 กระทรวงศึกษาธิการ 348 คน และอันดับ 5 องค์การบริหารส่วนเทศบาล 195 คน

ส่วนข้อหาที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และภาค1 - 9 ในปี 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,295 ข้อหาโดยข้อหาที่เข้าสู่การพิจารณา  5 อันดับ อันดับที่ 1 ฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157  จำนวน 757 ข้อหา

อันดับที่ 2 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ตามมาตรา147 จำนวน 82 ข้อหา อันดับที่ 3 ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้ตำแหน่งโดยทุจริต ตามมาตรา 151 จำนวน 69 ข้อหา อันดับ 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงานรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ มาตรา162 จำนวน 68 ข้อหา และอันดับ 5  ความผิดเกี่ยวกับบุคคลเรียก รับ หรือให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์หรือการใช้อิทธิพลเพื่อจูงใจหรือข่มขืนใจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใด จำนวน 35 ข้อหา

ส่วนการให้ประกันตัวคดีอาญานั้น พบว่าในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีนายประกันที่ผิดสัญญานายประกัน จำนวน 7 คน เป็นเงิน  2,002,000 บาท โดยมีนายประกันที่ค้างบังคับตามสัญญาประกัน 22 คนเป็นเงิน 7.6 ล้านบาท