วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'โฆษกศาลฯ'แจงคำตัดสินคดีทุจริตพาณิชย์อุบลฯ จากจำคุก 130 ปี ทำไมรอลงอาญา

'โฆษกศาลฯ'แจงคำตัดสินคดีทุจริตพาณิชย์อุบลฯ จากจำคุก 130 ปี ทำไมรอลงอาญา

วันอังคาร ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568, 19.55 น.
Tag : คดีทุจริตพาณิชย์อุบล โฆษกศาลยุติธรรม ศาลอาญาคดีทุจริต คุก130ปี
  •  

โฆษกศาลยุติธรรมอธิบายเหตุผลกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาจำคุก 130 ปี อดีตพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานีกับพวกฮั้วประมูลโครงการภาครัฐ 26 สัญญา แต่ให้รอลงอาญา

จากที่ปรากฏข้อมูลในสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีการยื่นฟ้องอดีตพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี กับพวกรวม 10 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เป็นคดีทุจริต 26 โครงการ ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกกว่า 130 ปี แต่รอการลงโทษ ทำให้จำเลยกับพวกไม่ต้องรับโทษจำคุก ทั้งที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าร่ำรวยผิดปกติและใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง จนถูกไล่ออกจากราชการเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น


นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า คดีนี้อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี  เป็นจำเลยที่ 1 พร้อมกับจำเลยที่ 2 - 10 ซึ่งมิได้เป็นเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ล้วนเป็นนิติบุคคลและบริวารผู้ใกล้ชิดกับจำเลยที่ 1 และร่วมกับจำเลยที่ 1 จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดเพื่อยื่นประมูลงานจัดนิทรรศการ งานแสดงสินค้า งานประชาสัมพันธ์ และงานอื่น ๆของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งหน่วยงานราชการอื่น ๆ ในลักษณะสมยอมราคากันรวม 26 สัญญา โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวไม่ได้มีวัสดุอุปกรณ์จัดสถานที่ไม่มีอุปกรณ์จัดแสงสีเสียง ไม่มีอุปกรณ์เพื่อการแสดงและไม่มีลูกจ้างหรือทีมงานที่จะใช้จัดงานโดยตรง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 91, 151, 152, 157, 264, 268 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.บประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 7, 10, 11, 12 และขอให้นับโทษต่อสำหรับจำเลยบางราย

จำเลยทั้งสิบให้การรับสารภาพ

ข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏว่า จำเลยที่ 1 วางเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี 3,448,250 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 วางเงินชดใช้ค่าเสียหาคนละ 1,725,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,898,250 บาท

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 รับฟังคำรับสารภาพของจำเลยทั้งสิบ ประกอบกับพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบคำรับสารภาพ แล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง รวม 26 สัญญา (26 กรรม/กระทง) ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี 3 เดือน และปรับกระทงละ 102,000 บาท รวมจำคุก 130 ปี 78 เดือน และปรับ 2,652,000 บาท 

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 65 ปี 39 เดือน และปรับ 1,326,000 บาท โดยในกรณีกระทำความผิดหลายกระทง หากกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี ขึ้นไป ให้จำคุกไม่เกิน 50 ปี จึงให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3)

ส่วนจำเลยที่ 2 -10 ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงระวางโทษลดหลั่นกันไปตามจำนวนกรรมและวาระที่กระทำความผิด

ในการพิจารณาว่ามีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยทั้งสิบหรือไม่นั้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 พิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวนคดี และคำนึงถึงหลายปัจจัย ได้แก่ การรู้สำนึกในการกระทำความผิดของจำเลยซึ่งคดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ความถูกต้องครบถ้วนในการปฏิบัติตามสัญญาของจำเลย ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการภายหลังการเข้าทำสัญญาของจำเลย การได้รับประโยชน์จากการกระทำความผิด ความพยายามบรรเทาผลร้ายโดยวางเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี พฤติการณ์ความร้ายแรงแห่งคดี ประวัติของจำเลย และโอกาสในการแก้ไขปรับปรุงตนเองให้เป็นพลเมืองดีในอนาคต โดยเมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมดนี้แล้ว จึงเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้คนละ 5 ปี แต่เพื่อให้หลาบจำ เห็นควรวางโทษปรับอีกสถานหนึ่ง และกำหนดเงื่อนไขการคุมประพฤติอย่างเคร่งครัดมีกำหนด 3 ปี ให้จำเลยทุกคนไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ตลอดระยะเวลาที่คุมความประพฤติและให้จำเลยทุกคนทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลาคนละ 72 ชั่วโมง และให้ละเว้น
การประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก หากจำเลยผิดเงื่อนไขให้พนักงานคุมประพฤติรายงานศาลเพื่อเปลี่ยนโทษจำคุกที่รอไว้เป็นโทษจำคุกทันที

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด อัยการโจทก์ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ 24 มีนาคมนี้ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์จะพิจารณายื่นอุทธรณ์หรือไม่ ต่อไป

นอกจากนี้ นายรัฐวิชญ์ ยังอธิบายต่อไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การ “รอการลงโทษ”ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ไว้ ดังนี้

1.การจะใช้ดุลพินิจรอการลงโทษจำเลยรายใด อันดับแรกจะต้องพิจารณาก่อนว่า คดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 5 ปี หรือไม่ หากโทษที่ศาลจะลงแก่จำเลยมีกำหนดเกินกว่า 5 ปี ย่อมไม่สามารถใช้ดุลพินิจรอการลงโทษได้ แต่หากโทษที่ศาลจะลงแก่จำเลยมีกำหนดไม่เกิน 5 ปี ศาลย่อมมีดุลพินิจพิจารณาต่อไปว่าจะรอการลงโทษหรือไม่ โดยมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า จำเลยต้องไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน หรือหากเคยรับโทษจำคุกมาก่อนต้องเป็นกรณีที่เป็นการกระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ หรือโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ หากเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน แต่พ้นโทษมาแล้วเกินกว่า 5 ปี แล้วมากระทำผิดอีกโดยความผิดครั้งหลังเป็นการกระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ จึงจะอยู่ในเงื่อนไขที่รอการลงโทษได้

2.ในกรณีคดีที่เป็นข่าวนี้ เป็นกรณีที่จำเลยกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และศาลจะเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ซึ่งหากต้องพิจารณาว่าจะรอการลงโทษจำเลยได้หรือไม่ จะต้องแยกพิจารณาโทษที่ศาลจะลงแก่จำเลยจริง ๆ เป็นรายกระทงความผิดไป หากมีเหตุบรรเทาโทษก็ให้พิจารณาลดโทษรายกระทงให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะนำมาพิจารณาว่าโทษจำคุกแต่ละกระทงมีกำหนดเกิน 5 ปี หรือไม่ เช่นในคดีนี้ ศาลจะลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 26 กระทง กระทงละ 5 ปี 3เดือน โดยศาลลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพทุกกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

ดังนั้น จึงเท่ากับว่าในแต่ละกระทงคงลงโทษกระทงลง 2 ปี 7 เดือน 15 วัน ซึ่งไม่เกิน 5 ปี จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษได้ทุกกระทง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

3.แม้จะอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจใช้ดุลพินิจในการรอการลงโทษได้ แต่ก่อนที่ศาลจะใช้ดุลพินิจรอการลงโทษ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ก็วางหลักเกณฑ์ให้ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงอีกหลากหลายปัจจัย เช่น อายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกผิด และการพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปรานี

ดังนั้น ศาลจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ปรากฏในสำนวนคดีประกอบกันก่อนใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะรอการลงโทษให้แก่จำเลยรายใดหรือไม่ ไม่ได้พิจารณาจากปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดเป็นการเฉพาะ.

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เช็คลิสต์ 5 คดีสำคัญ!!! ฟ้องร้องกันใน\'กสทช.\'-จับตาอีก 4 คดี ลุ้นระทึกชี้ชะตา\'พิรงรอง\' เช็คลิสต์ 5 คดีสำคัญ!!! ฟ้องร้องกันใน'กสทช.'-จับตาอีก 4 คดี ลุ้นระทึกชี้ชะตา'พิรงรอง'
  • ‘โฆษกศาลยุติธรรม’แจงหลักเกณฑ์ ศาลให้ประกันตัว‘ป๋าเบียร์-แม่ตั๊ก’ ‘โฆษกศาลยุติธรรม’แจงหลักเกณฑ์ ศาลให้ประกันตัว‘ป๋าเบียร์-แม่ตั๊ก’
  • ศาลฯแจงชัดปมเลื่อนสั่งจำหน่ายคดี\'บุ้ง\'ออกจากสารบบ ยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ศาลฯแจงชัดปมเลื่อนสั่งจำหน่ายคดี'บุ้ง'ออกจากสารบบ ยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
  • เซ่นแป๊ะเจี๊ยะ!!! คุกอ่วมคนละ 30 ปี‘อดีต ผอ.-รอง ผอ.’รร.ดัง เซ่นแป๊ะเจี๊ยะ!!! คุกอ่วมคนละ 30 ปี‘อดีต ผอ.-รอง ผอ.’รร.ดัง
  • ดีเดย์เมษายนนี้!!! เปิดแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ดีเดย์เมษายนนี้!!! เปิดแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา
  • คุก 50 ปี ไม่รอลงอาญา! ‘จนท.ราชทัณฑ์’เบียดบังเงินค่าสินค้าร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง 4 แสน คุก 50 ปี ไม่รอลงอาญา! ‘จนท.ราชทัณฑ์’เบียดบังเงินค่าสินค้าร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง 4 แสน
  •  

Breaking News

ตัดสินใจช้าหวั่นหายนะ!คาดสั่งฟันคดี'เรือใบ'สิ้นเดือนนี้

ทบ.ยกระดับมาตรการ! ห้ามคนไทยผ่านด่านสระแก้ว ไปบ่อน-กาสิโน-สถานบันเทิง ปอยเปต

เปิดความลับ Red Light Therapy แสงสีแดงช่วยย้อนวัยได้จริงไหม ?

'ฮันนี่-ณภัค'มอบข้าวสาร 100 ถุง (500 กก.) เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับทหารไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved