นายประพันธ์ เจริญฤทธิ์ ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี ยื่นจดหมายขอความเป็นธรรมเรื่องความเดือดร้อนของประมงพื้นบ้านจ.สุราษฎร์ธานีที่เคยทำอาชีพอวนรุนและเรืออวนรุนขนาดเล็กที่ใช้อวนติดตา กับนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านคลองราง ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อค่ำวันที่ 30 เม.ย.61 ที่ผ่านมา

จดหมายของชาวประมงพื้นบ้านระบุว่า เป็นอาชีพดั้งเดิมที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เป็นอาชีพสุจริต อยู่ได้ตามสภาพ วันนี้ ที่ว่าคืนความสุขให้ประชาชนเป็นความจริงไหม วันรัฐบาลออกกฎหมายให้อาชีพพื้นบ้านของชาวสุราษฎร์ คือเรืออวนรุนและเรือรุนเคยขนาดเล็กเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย ห้ามมีไว้ครอบครอง รัฐบาลออกกฎหมายแล้ว เคยกลับมาดูชาวบ้านบ้างหรือไม่ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก จะอยู่กันอย่างไร ต้องออกหากินแบบหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนโจรผู้ร้าย ชาวบ้านจะอยู่อย่างไร เอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายในครอบครัว บางครอบครัวลูกต้องออกจากโรงเรียน เพราะว่าพ่อแม่ไม่งานทำ บางครอบครัวต้องกู้หนี้ยืมสิน ชาวประมงที่ร่วมกันเขียนหนังสือร้องทุกข์ขอรับรองว่า อวนรุนและรุนเคยขนาดเล็กไม่ได้เป็นอาชีพทีทำลายล้างพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ไม่ใช่ฟังข้อมูลจากนายก.นายข.ที่ไม่เคยรู้และสัมผัสกับอาชีพอวนรุนจริงๆ
พวกเราต้องการให้กรมประมงทบทวนข้อกฎหมายใหม่
1.ต้องการให้ช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้าน
2.ขอให้อวนรุนและเรืออวนรุนขนาดเล็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 ตันกรอสจัดให้อยู่ในประมงพื้นบ้าน 
3.ขอให้แยกเรือพื้นบ้านกับเรือประมงพาณิชย์
พร้อมหนังสือร้องเรียนได้แนบรายชื่อตัวแทนชาวประมง 7 อำเภอ จ.สุราษฎร์ธานี คือ อ.ท่าชนะ, อ.ไชยา, อ.ท่าฉาง, อ.พุนพิน, อ.เมือง,อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก จำนวน  162 คน

ตัวแทนชาวบ้านบอกว่า เราไม่ต้องการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ต้องการอาชีพพื้นบ้านของเรากลับคืนมา ถ้าราชการไม่เหลียวแลจะทูลเกล้าถวายฎีกาต่อไป

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะรีบนำเรื่องนี้หารือกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อหาทางช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านและทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป เพราะกฎหมายประมงที่ออกมาไม่สอดคล้องกับความจริง สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในท้องถิ่น