ปัญหาการครอบครองที่ดินเป็นกรณีที่มีเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ และสาเหตุที่สำคัญประการหนึ่งคือผู้ครอบครองที่ดินอยู่ตลอดเวลาก็เข้าใจว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินนั้น เพราะมีกฎหมายรับรองสิทธิเอาไว้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 “บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง”
ในขณะเดียวกันถ้าหากได้มีบุคคลอื่นเป็นผู้มีชื่อในทางทะเบียนที่ดินแปลงเดียวกันกับที่มีผู้อื่นครอบครองอยู่นั้นก็มีกฎหมายรับรองสิทธิไว้ด้วยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 “ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ ในทะเบียนที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง”
เมื่อต่างคนต่างอ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิในการครอบครอง หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล ถ้าผู้ครอบครองที่ดินเป็นโจทก์นำคดีขึ้นสู่ศาลกฎหมายถือว่าผู้มีชื่อจดทะเบียนในโฉนดที่ดินย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครอง และภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่โจทก์ผู้ครอบครองที่ฟ้องคดี ทั้งนี้เป็นไปได้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1295/2560 “แม้โจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอันจะทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ส่วนฝ่ายจำเลยเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท ก็ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองเช่นกัน แต่มาตรา 1367 เป็นเพียงบทบัญญัติทั่วไป เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีโฉนดที่ดินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ในทะเบียนที่ดิน ซึ่งกฎหมายต้องการให้แสดงออกซึ่งกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนยิ่งกว่าการครอบครอง จึงต้องบังคับตามมาตรา คำพิพากษาศาลฎีกานี้โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้ครอบครองที่ดินต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้มีชื่อในทะเบียนที่ดินได้ดำเนินการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิเช่นนั้นอาจแพ้คดีได้ หากโจทก์ผู้ครอบครองที่ดินสามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยผู้มีชื่อในทะเบียนโฉนดที่ดินดำเนินการออกโฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายก็อาจชนะคดีได้ เมื่อชนะคดีก็สามารถเพิกถอนการออกโฉนดที่ดินนั้นได้ ดังนั้น โจทก์ผู้ครอบครองที่ดินจะนำสืบลอยๆ ไม่ได้เพราะที่ดินเป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกฎหมายต้องการให้แสดงออกทางทะเบียนยิ่งกว่าการครอบครอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี