.
30 พ.ค.61 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วยนายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง หลังมีคำพิพากษาให้ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ หรือ “ป้าทุบรถ” และพวกรวม 4 คน ชนะคดีตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะกรรมการซึ่งมีนายวันชัยเป็นประธาน ได้พิจารณารายละเอียดตามคำสั่งศาลใน 3 ประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นที่คลาดเคลื่อน ประกอบด้วย
1.ส่วนที่เกี่ยวกับสำนักการโยธา ต้องเป็นผู้ดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในการขอใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า สำนักการโยธา ได้พิจารณาและใช้อำนาจดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยยึดประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 พ.ศ.2530 และคำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งคู่มือปฏิบัติของราชการและกรมที่ดิน ซึ่งไม่ได้ห้ามก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งได้ยึดคำสั่งดังกล่าวในการออกใบอนุญาตถูกต้องแล้ว
2.ส่วนที่เกี่ยวกับสำนักงานเขตประเวศ ซึ่งมีการบังคับใช้กฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขฉบับเพิ่มเติม 2535 ตามมาตรา 40 42 43 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตพร้อมแจ้งความดำเนินคดี โดยศาลจังหวัดพระโขนง มีคำสั่งให้ปรับผู้กระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าก็มีการดำเนินการมาโดยตลอด และ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ได้ออกคำสั่งให้แก้ไข เมื่อเจ้าของตลาดไม่ดำเนินการแก้ไข เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการฟ้องศาลจังหวัดพระโขนงอีกครั้ง โดยศาลมีคำสั่งให้ปรับ
ส่วน พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ทหารและเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ประชุมติดตาม เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะเห็นว่าทั้ง สำนักการโยธา และสำนักงานเขตประเวศ ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกรุงเทพมหานครยังมองคลาดเคลื่อนกับศาลอยู่
3.ในส่วนของค่าเสียหายที่กรุงเทพมหานครจะต้องจ่ายเงินชดใช้ฐานความผิดละเมิด หากพิจารณาตามข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ กทม.ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้วก็ไม่น่าจะต้องรับผิดชอบในมุมของการละเมิด แต่หากต้องรับผิดชอบ ก็พบว่ามีผู้ละเมิดร่วมด้วย คือ ผู้ที่จอดรถขวางหน้าบ้าน และเจ้าของตลาดทั้ง 5 แห่ง ดังนั้นก็น่าจะแบ่งสัดส่วนรับผิดชอบร่วมกัน กรุงเทพมหานครไม่น่าจะรับผิดชอบค่าเสียหายเพียงฝ่ายเดียว
อีกทั้งการคำนวณจำนวนเงินค่าเสียหายของศาลคิดรวม 365 วัน ตลอดระยะเวลา 7 ปี แต่ตลาดเปิดขายจริงเพียงเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น นับ 1 ปี มีเพียง 102 วัน ดังนั้นหากจะให้ กรุงเทพมหานครรับผิดชอบค่าเสียหาย ก็ยินดีจ่ายเงินเยียวยาให้ แต่ต้องมีการแบ่งสัดส่วนตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการ จะสรุปรายละเอียดสำนวนทั้งหมดเสนอต่อ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกรุงเทพมหานครเห็นชอบ ก่อนเสนออัยการพิจารณา ในการอุทธรณ์ทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว ซึ่งต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตามหากอัยการพิจารณายื่นอุทธรณ์ ก็ต้องชะลอเอาผิดด้านวินัยกับข้าราชการประจำไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
“กรุงเทพมหานครมีความเห็นควรอุทธรณ์คำสั่งศาล จะส่งสำนวนให้อัยการเป็นผู้แก้ต่างให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็อยู่ที่ดุลพินิจทางอัยการว่าจะเห็นชอบตามที่กรุงเทพมหานครเสนอหรือไม่ ทั้งนี้ต้องภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ที่จะสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ส่วนที่ศาลสั่งให้รื้อถอนตลาดทั้งหมด กรุงเทพมหานครได้สั่งปิดและให้หยุดขายไปแล้ว ที่มีผู้ค้าไปค้าขายเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เขตประเวศได้เข้าไปทำความเข้าใจแล้ว และกรุงเทพมหานครได้ออกประกาศให้เจ้าของรื้อถอนตลาดภายใน 60 วัน หากไม่ทำตาม เราก็มีขั้นตอนของกฎหมายที่จะดำเนินการต่อไป ในส่วนของข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีความผิดทางวินัย เป็นอำนาจของฝ่ายประจำโดยอำนาจของปลัดกรุงเทพมหานคร” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี