อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจังหวัดพิษณุโลก เปิดตัวระบบจ่าเฉยอัจฉริยะ พร้อมระบบออกใบสั่งอัตโนมัติ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานและภาระงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในการออกใบสั่งแก่ผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎหมายปาดเบียดขึ้นสะพาน และเตรียมต่อยอดกระทำผิดกฎไม่สวมหมวกกันน็อก

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2561 ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ดร.วรลักษณ์ คงเด่นฟ้า อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แถลงเปิดตัวระบบจ่าเฉยอัจฉริยะพร้อมระบบออกใบสั่งอัตโนมัติ  ที่เป็นนวัตกรรมคนไทย ทั้งนี้เนื่องจาก ในปัจจุบันประเทศไทยยังขาดระบบ และข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ปัญหาการฝ่าฝืนกฎจราจร และกำหนดนโยบายป้องกันและการบังคับใช้กฎต่างๆ ที่ตั้งขึ้น นอกจากนี้อัตราการฝ่าฝืนกฎจราจรในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เกินอัตรากำลังของตำรวจจราจร ที่จะสามารถดำเนินการดูแลและป้องกันได้อย่างครอบคลุม

ดร.วรลักษณ์ คงเด่นฟ้า อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ระบบจ่าเฉยอัจฉริยะ เป็นความร่วมมือ รศ.ดร.มงคล เอกปัญญาพงศ์ อาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หัวหน้าโครงการระบบจ่าเฉยอัจฉริยะ พร้อมระบบออกใบสั่งอัตโนมัติ เพื่อทำหน้าที่บันทึกภาพการจราจร และออกใบสั่งให้อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและภาระงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในการออกใบสั่งแก่ผู้ขับขี่ที่กระทำผิดในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนมากและเกิดขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่ยากต่อการออกใบสั่งเพราะจะส่งผลกระทบให้สภาพการจราจรแย่ลงกว่าเดิม

ปัจจุบัน จ่าเฉยอัจฉริยะฯ ได้มีการติดตั้งใช้งานจริงในหลายพื้นที่ของจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมีการขยายผลซึ่งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2561 กองบังคับการตำรวจแถลงต่อสื่อว่า ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องจับรถเปลี่ยนช่องทางกะทันหันหรือกล้อง Lane Change ตรวจจับการขับรถปาดเบียดทางขึ้นสะพานและอุโมงค์ลอดทางแยก เพิ่ม 15 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร และจากการประมูล ในโครงการติดตั้ง Lane Change ของ บก.จร. ซึ่งมีการประมูลแข่งขัน โดยใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมนีและแคนาดาร่วมด้วยผลปรากฏว่า จ่าเฉยอัจฉริยะฯ ชนะการประมูล เนื่องจากเป็นระบบที่มีความแม่นยำมากที่สุด การประมวลภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากต่อการอ่านป้ายทะเบียน ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณของโครงการดังกล่าวไปกว่า 15 ล้านบาท ลดการรั่วไหลเงินตราต่างประเทศและลดการนำเข้าได้เป็นอย่างมาก

และนอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโปรแกรมสำหรับบันทึกและออกใบสั่งผู้กระทำผิดไม่สวมใส่หมวกกันน็อกเพิ่มเติมขึ้นมาอีกหนึ่งโปรแกรม ซึ่งขณะนี้เริ่มใช้งานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามโครงการภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ มาประมาณ 1 ปีแล้ว

ดร.วรลักษณ์ เปิดเผยว่า สำหรับระบบจ่าเฉยนี้เริ่มทำเมื่อปี 2559 และพัฒนาเรื่อยมา โดยผลงานนี้ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นของ สกว.ด้านพาณิชย์ อีกด้วย ในอนาคตเตรียมพัฒนาระบบติดตามรถหายอีกด้วย

ศุภชัย สิธานนท์