ศัตรูพืชเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย เกษตรกรมักเคยชินกับการใช้สารเคมีกำจัด ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง อีกทั้งสารเคมียังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรผู้ใช้ รวมทั้งมีพิษตกค้างในผลผลิตส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น หากใช้สารเคมีต่อเนื่อง ศัตรูพืชต้านทานต่อสารเคมี ทำให้การกำจัดเป็นไปอย่างยุ่งยาก จะต้องใช้สารเคมีในปริมาณที่สูงขึ้น ใช้บ่อยขึ้นหรือใช้สารที่มีพิษมากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดผลเสียมากมาย จึงมีความพยายามหาวิธีในการกำจัดศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดและปลอดภัย ซึ่งหนึ่งในวิธีนั้นได้แก่ การใช้ชีวภัณฑ์
ชีวภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ใช้ในการควบคุมศัตรูพืช ได้แก่ ตัวห้ำ ตัวเบียน และเชื้อจุลินทรีย์ ในที่นี้
จะพูดถึงเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อรา 3 ชนิด ได้แก่ เชื้อรากำจัดเชื้อราสาเหตุโรคพืชคือ เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เชื้อราที่ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช คือ เชื้อราบิวเวอเรีย และเชื้อราเมตตาไรเซี่ยม ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยม และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เชื้อราดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนสารเคมี ในการกำจัดโรคพืชและแมลงศัตรูพืชหลายชนิด แต่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และไม่มีฤทธิ์ตกค้างในสิ่งแวดล้อมเหมือนสารเคมี และที่สำคัญเกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ เพราะเกษตรกรสามารถผลิตขยายใช้เองได้ และเชื้อจุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตเมื่อใช้แล้วสามารถขยายพันธุ์ ได้เองในธรรมชาติไม่ต้องใช้บ่อยเหมือนสารเคมี
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมการใช้เชื้อจุลินทรีย์เพื่อลดละเลิกการใช้สารเคมี โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ แบ่งเป็นในส่วนกลางคือกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย (กอป.) และหน่วยงานที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆ ระดับเขต คือ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) มีทั้งหมด 9 ศูนย์ และมีหน่วยงานในระดับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ คือ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ซึ่งประกอบด้วย ศจช.หลัก 882 ศูนย์ และศจช.เครือข่ายอีก 882 ศูนย์ รวมทั้งสิ้น 1,764 ศูนย์
กระบวนการส่งเสริมการผลิตสารชีวภัณฑ์ ทาง กอป.จะทำหน้าที่ผลิตหัวเชื้อบริสุทธิ์และแข็งแรง ส่งให้กับ ศทอ. ซึ่งศทอ.จะใช้เชื้อดังกล่าวผลิตเป็นหัวเชื้อขยายส่งให้ ศจช.ตามความต้องการ จากนั้น ศจช.ซึ่งมีสมาชิกเป็นเกษตรกรในชุมชนก็จะร่วมกันผลิตขยายเชื้อตามความต้องการใช้จริง โดยมีเจ้าหน้าที่จาก ศทอ. จังหวัดและอำเภอ คอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากการใช้ชีวภัณฑ์ได้รับความนิยมจากเกษตรกรและบุคคลทั่วไปมาก ทำให้มีการผลิตและการใช้จุลินทรีย์อย่างกว้างขวาง แต่ถ้ามีการผลิตและการใช้เชื้อโดยขาดความรู้และความเข้าใจมักทำให้เกิดการปนเปื้อน และเมื่อใช้จุลินทรีย์ไม่บริสุทธิ์นอกจากทำให้ใช้ควบคุมศัตรูพืชไม่ได้ผลแล้ว ยังทำให้เกิดความเสียหายและอาจเป็นอันตรายได้ กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะที่เป็นหน่วยงานแรกๆ ที่แนะนำและส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตและใช้เชื้อราในการควบคุมศัตรูพืชได้ตระหนักถึงปัญหานี้และได้มีนโยบายให้ ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานชีวภัณฑ์ โดยกำหนดมาตรฐานชีวภัณฑ์ที่นำมาใช้ในการกำจัดศัตรูพืช และส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตขยายชีวภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อให้นำไปใช้ควบคุมศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนการผลิต มีความปลอดภัยต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ทุกหน่วยงานในกรมส่งเสริมการเกษตรที่รับผิดชอบเรื่องนี้ทุกระดับ ต้องมีการรณรงค์ให้เกษตรกรผลิตขยายเชื้ออย่างถูกต้องและมีการสุ่มตรวจมาตรฐานอย่างเป็นระบบ ทั้งยังแนะนำให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับฤดูกาลผลิตเพื่อสามารถใช้เชื้อในช่วงระยะเวลาที่มีประสิทธิภาพที่สุด และลดภาระในการเก็บรักษาเชื้อด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี