30 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า ชาวบ้านบ้านมะขามโพรง หมู่ 4 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้ทางอำเภอ จังหวัด หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการบริหารจัดการโครงการเลี้ยงไก่เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ของชุมชนสะเดา 2 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

ชาวบ้านอ้างว่านายนิรันต์ สายหลอด ผู้ใหญ่บ้านบ้านมะขามโพรง ในฐานะประธานโครงการฯได้ขายไก่พันธุ์ไข่ที่ซื้อมาเลี้ยงในโครงการฯกว่า 700 ตัว โดยไม่มีการทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน และไม่มีการชี้แจงรายละเอียด หรือยอดเงินในบัญชีให้ชาวบ้าน และสมาชิกกลุ่มรับทราบ โดยบอกว่าที่ต้องขายไก่เพราะประสบปัญหาขาดทุน ส่วนไก่ที่ขายก็มีชาวบ้านและสมาชิกบางคนขอซื้อไปเลี้ยง

ทั้งนี้ การตัดสินใจขายไก่ของผู้ใหญ่บ้าน สร้างความคลางแคลงใจให้กับชาวบ้านว่าเป็นโครงการงบประมาณของรัฐ เหตุใดจึงขายได้ อีกทั้งไม่มีการประชาคม หรือแจ้งให้หน่วยงานภาครัฐทราบ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าโปร่งใสจริงก็ให้นำหลักฐานออกมาชี้แจง แต่ถ้าตรวจสอบพบว่ามีการกระทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเป็นงบประมาณของรัฐ

ด้านนายนิรันต์ กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.สะเดา มีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน หลังจากมีโครงการฯลงมา ก็ได้มีการทำประชาคมตามขั้นตอนเพื่อขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน โดยทั้ง 8 หมู่บ้าน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ในการดำเนินการจำนวน 3 โครงการ  คือ โครงการเลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ และทำเกษตรผสมผสาน ภายใต้งบประมาณทั้งหมด 1,697,070 บาท แบ่งเป็นงบวัสดุ 947,070  บาท และงบแรงงาน 750,000 บาท  

ส่วนโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ของชุมชนสะเดา 2 ที่ชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ทุกขั้นตอนดำเนินการอย่างโปร่งใส ซึ่งตอนแรกมีชาวบ้านเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม 27 คน โดยจะแบ่งปันผลกำไรให้สมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมกลุ่ม ต่อมาหลายคนไม่มีเวลา จึงขอออกจากการเป็นสมาชิก ปัจจุบันจึงเหลือสมาชิกเพียง 7 คน  

ทั้งนี้ การเลี้ยงระยะแรกยังไม่มีปัญหาอุปสรรค เพราะช่วง 6 เดือนแรก ยังได้รับการสนับสนุนหัวอาหารจากทางรัฐ แต่ระยะหลังเริ่มประสบปัญหาขาดทุน เพราะเก็บไข่ไก่ขายได้เพียงวันละ 600-700 บาท แต่ต้องจ่ายค่าอาหารสูงถึงวันละ 920 บาท จากปัญหาดังกล่าวจึงได้ไปปรึกษากรรมการและสมาชิกกลุ่ม เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน อีกทั้งได้แจ้งและขอคำแนะนำจากทางเกษตรอำเภอแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจขายไก่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่านี้ ส่วนเงินที่ได้จากการขายไก่รวมกว่า 50,000 บาท ก็ยังอยู่ในบัญชีของกลุ่ม พร้อมให้ตรวจสอบและชี้แจงทุกขั้นตอน