'สันธนะ' ขึ้นศาลหลังครบฝากขัง-อัยการยื่นฟ้องคดีกรรโชกทรัพย์ตลาดใหม่ดอนเมือง ลั่นสู้เต็มที่ชั้นศาล ซัด ตร.เละเป็นคู่ปรปักษ์ ศาลนัดสอบคำให้การ 4 ก.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.45 น. วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี อดีตรอง ผกก.สันติบาล 2 ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์ตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมารายงานตัวต่อศาลหลังครบกำหนดฝากขัง 4 ผัด รวม 48 วัน ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังของศาล คดีที่ พ.ต.ท.สันธนะ และพนักงานตลาดที่ถูกกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์กลุ่มผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง
โดย พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เมื่อวันที 29 มิ.ย.ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้แถลงข่าวว่าได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องตนและผู้เกี่ยวข้องในคดีรวม 11 คน อยากจะเรียนให้สังคมทราบว่ากระบวนการสอบสวนเป็นเบื้องต้น ชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคู่ปรปักษ์กับตนมาโดยตลอด จึงไม่แปลกใจที่พนักงานสอบสวนของสตช.มีความเห็นสั่งฟ้องตน แต่แปลกใจในเรื่องรายละเอียดของคดีตามแถลงข่าว รวมถึงข้อมูลในสำนวนการสอบสวน ปรากฏว่าคดีนี้ผู้เสียหายในคดี 11 คน เป็นกลุ่มผู้ค้าที่ตลาดใหม่ดอนเมือง มีพยาน 9 คน ความเสียหายทั้งสิ้น 770,000 กว่าบาท ในช่วงเวลา 2 ปี มีการกรรโชกทรัพย์ความเสียหายเพียงแค่ 7 แสนกว่าบาท แล้วไม่ทราบพวกตน 10 กว่าคนไปแบ่งกันใช้ยังไง
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อว่า ตนถึงบอกว่ามันไปไม่ได้แล้ว คุณหาพยานหลักฐานอะไรไม่ได้ ตนก็เสียใจกับผู้เสียหายและเป็นผู้กล่าวหาตนในคดีนี้ทั้ง 11 คน ว่าคุณตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นที่ไม่ยุติธรรม ส่วนตัวคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนก็น่าจะมีอนาคตเป็นผู้อำนวยความยุติธรรมให้กับสตช.ได้ ดูท่าเหมือนราชสีห์ แต่ถึงเวลาจริงๆ ถูกสัตว์เลื้อยคลานดึงหางไปก็ตามเขา เพียงเพื่อหวังทะเยอทะยานในตำแหน่งสูงสุดขององค์กร ไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน ตนจะบอกสังคมต่อไปว่ามันมีเหตุที่มาที่ไปอย่างไร ตั้งคณะพนักงานสอบสวน 174 คน สรุปสำนวนได้เท่านี้ อย่างที่ตนบอกมันไม่มีการกระทำผิด ไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดกล่าวหาตนก็ทำไม่ได้ตามเป้า วันนี้ก็สิ้นสุดขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนแล้ว
"ผมไม่เคยให้การ คือผมปฏิเสธมาตลอดและไม่ให้การกับพนักงานสอบสวน หรือกระทั่งชั้นอัยการ ในวันนี้ผมเชื่อว่าพนักงานอัยการท่านก็ต้องทำตามหน้าที่ ในเมื่อผมไม่ได้ให้ข้อมูลให้ข้อเท็จจริงรายละเอียดอะไรในสำนวนเลย ท่านก็ต้องมีความเห็นสั่งฟ้องผม ซึ่งผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชั้นศาล ที่ผมนำเรียนมาตลอด และผมจะเร่งรัด จะขอศาลท่านให้ดำเนินการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปรากฏออกมาให้ชัดเจน แล้วสังคมจะได้รับทราบสิ่งที่ผมพูดมาตลอด" พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนไม่ร้อง แต่ผู้ต้องหาอื่นก็แล้วแต่ ทราบว่ามีการไปร้องต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ก็เป็นดุลยพินิจของท่าน ตนอยากให้มีคำพิพากษาของศาลออกมา ถ้าตนไปร้องอสส.ท่านมีความเห็นแย้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อในรายละเอียดของตน ก็ต้องใช้เวลาอีกเยอะ กว่าจะส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พิจารณาทำความเห็น แน่นอน ผบ.ตร.ก็คู่กรณีคู่ปรปักษ์กับตน วิธีการมากมายที่จะยื้อคดีไม่ใช่ประสงค์ของตน ตนอยากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ตกใจกับการเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเย็น เมื่อคดีมีคำพิพากษาออกมาแล้วตนไม่ได้กระทำผิดใครคือคนรับผิดชอบ ตนไม่เป็นไรเปิดหน้าสู้ แต่เอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องมาแถลงเหมือนเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นสูงสุดพิพากษาเขาหมด กล่าวหาแบบนั้นแบบนี้เดี๋ยวคุณโดนบ้างเหมือนที่ทำกับพวกเขา
เมื่อถามถึงกรณีที่เคยบอกว่าจะยื่นฟ้องนายพลตำรวจนั้น พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ติดขัดทางคดี เขาไม่มอบเอกสารอะไรให้ตนเลย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ตนถึงต้องไปทวงเอง คุณกลัวทำไมในเมื่อเปิดหน้าทุกคนก็ทราบแล้ว เราไม่ใช่คดีปกติ เป็นเรื่องระหว่างพวกคุณกับตน ตนถึงบอกว่าจะชี้ให้สังคมทราบว่ามีเหตุอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมตนถึงต้องออกมาล่อเป้า
เมื่อถามว่าทางอัยการมีคำสั่งฟ้องมาอย่างไรได้ดูหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ท่าน เมื่อตำรวจสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งให้อัยการแล้ว วันนี้หมดอำนาจควบคุมฝากขังของทางอัยการก็สุดแท้แต่ ถ้ายื่นฟ้องไม่ทันก็ต้องปล่อยตัว แต่เชื่อว่าในคดีตนท่านคงยื่นฟ้องได้ทัน เพราะไม่มีในส่วนของตน ตนปฏิเสธไม่ให้การในชั้นอัยการด้วย ก็ไม่มีเหตุอะไรที่ท่านจะไม่ฟ้องตน ซึ่งตนก็น้อมรับในชั้นนี้ ในชั้นศาลตนก็ต่อสู้เต็มที่แน่นอน ตนไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว ประเทศนี้น่าอยู่
ต่อมา พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยหลังการรายงานตัวว่า ในคดีนี้ตนก็จะต้องเดินทางมาศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ค.นี้ พร้อมกับพนักงานตลาดที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วยอีก 10 คน ตามที่ศาลอาญานัดหลังจากอัยการได้ยื่นฟ้องตนกับพนักงานตลาดรวม 11 คน ไว้แล้ว ซึ่งตนก็จะเดินทางมาตามนัดในเวลา 9.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีนี้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี, นายชนะโชติ หรือตั๋ม สุขสุคนธ์ อายุ 40 ปี, นายวรรณชัย หรือแก้ว ใจเรือง อายุ 36 ปี, นายวันเพ็ญ ผิวดำดี อายุ 51 ปี, นายสิริชัย หรือชัย เหล่ากุลประสิทธิ์ อายุ 65 ปี, นายประนอม หรือนอม แก้วสวัสดิ์ อายุ 59 ปี, นายกฤษณะ หรือตั้ม หลำรอด อายุ 41 ปี, นายคเณศ หรือต้น เปรมครุฑ อายุ 42 ปี, นายอดิศักดิ์ หรือโต้ง จันทร์ศรี อายุ 39 ปี, นายอนุชา หรือทอม วรเดช อายุ 53 ปี และนายอนุ หรือตุ๋ย สุขสุคนธ์ อายุ 41 ปี เป็นจำเลยที่ 1-11 ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และซ่องโจร โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1951/2561 และนัดสอบคำให้การจำเลยวันที่ 4 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี