ชาวพังงาเข้าวัดทำบุญวันสารทเดือนสิบคึกคัก อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ

บรรยากาศที่วัดสุวรรณคูหา (วัดถ้ำ) ม.2 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีพุทธศาสนิกชนเข้าวัดเพื่อทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ปู่ ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ในประเพณีวันสารทเดือนสิบ โดยประชาชนส่วนใหญ่นำปิ่นโต ขนมเดือนสิบ เช่น ข้าวต้มมัด ขนมต้ม ขนมเทียน ขนมท่อนใต้ ข้าวพอง ขนมลา นอกจากนี้ ยังมีการวางข้าวสารอาหารแห้ง อาหารคาวหวาน รวมถึงเงินเหรียญ และธนบัตร พร้อมเขียนชื่อผู้ที่ล่วงลับ ญาติ บรรพบุรุษ ใส่ร่วมกับสิ่งของต่างๆ เพื่อนำวางไว้ที่ลานชิงเปรต  ซึ่งพบว่าในปีนี้มีผู้เข้าร่วมประเพณีวันสารทเดือนสิบจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศภายในวัดสุวรรณคูหา มากมายไปด้วยประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวภายในวัด และยังมีการอนุรักษ์ประเพณีแห่ช่อ หรือแห่จาด ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับการแห่หรับ ซึ่งถือว่าปีละครั้งที่มีงานบุญใหญ่แบบนี้ในภาคใต้ และถือเป็นวันรวมญาติอีกด้วย

สตูลชาวไทยพุทธหิ้วปิ่นโต-อาหารคาวหวานเข้าวัดทำบุญวันสาทเดือนสิบ (วันส่ง ตา-ยาย)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดมงคลมิ่งเมือง ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล พุทธศาสนิกชนต่างหิ้วปิ่นโต-อาหารคาวหวาน และพาลูกหลานมาเป็นครอบครัว บางครอบครัวสวมใส่ชุดผ้าไทยเสื้อลายลูกไม้นุ่งผ้าปาเต๊ะอย่างสวยงาม เพื่อมาทำบุญสารทเดือนสิบในครั้งนี้จึงทำให้บรรยากาศภายในวัดมีกลิ่นธูปเทียนกลิ่นหอมดอกไม้สดฟุ้งกระจายไปทั่ววัดและมีรอยยิ้มที่สดใสของพุทธศาสนิกชนที่เข้าวัดทำบุญและกราบไหว้บูชา

ขณะที่พุทธศาสนิกชนต่างนำเหรียญบาท เหรียญห้าบาท สิบบาท มาห่อด้วยผ้ากระดาษผับเป็นรูปดอกไม้ รูปดาวอย่างสวยงามและนำไปทำบุญถวายทานที่จะใช้การโยนทานที่บริเวณลานชิงเปรตหลังทำบุญฟังธรรมเสร็จสิ้น

นอกจากนี้พุทธศาสนิกชน'สตูล' ร่วมสืบสานประเพณีโปรยทานชิงเปรต ที่วัดมงคลมิ่งเมือง (วัดป่าช้าจีน) อีกด้วยซึ่งสิ่งหนึ่งในงานบุญเดือนสิบในพื้นที่ จ.สตูล จะต้องมีคือการโปรยทานให้กับคนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กๆ ได้สนุกสนานกับการเข้าวัดทำบุญ และเป็นกุสโลบายที่ต้องการให้ทุกคนได้รู้จักการให้เพื่อเป็นทาน

บรรยากาศทำบุญเดือนสิบของชาวจังหวัดภูเก็ตคึกคัก ผู้ปกครองพาเด็กเยาวชนชมหุ่นเปรตวัดขจรฯ สอนใจให้งดทำชั่ว

ที่วัดขจรรังสรรค์ ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ในชช่วงเช้าวันนี้ มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาถวายอาหาร ขนมเดือนสิบ และจตุปัจจัยแด่พระภิกษุสงฆ์ เป็นจำนวนมากเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ก่อนร่วมฟังเทศนาธรรมเกี่ยวกับวันสาร์ทเดือนสิบ 

ทั้งนี้ที่ลานภายในวัดได้มีการจัดแสดงหุ่นเปรตขนาดใหญ่ที่มีรูปกายในลักษณะต่างนับสิบตัวไว้เพื่อให้ชม อาทิเช่น หุ่นเปรตทำแท้ง,ที่ถูกไฟเผา,เปรตอสูรกายมีหัวเป็นสัตว์ ,เปรตที่ถูกทรมานร่างกายด้วยอาวุธเช่นตาเบ็ดและถูกผ่าท้อง ,เปรตหัวขาด ,เปรตสองหัว,เปรตในกายเด็กและอื่นๆ ซึ่งมีเด็กๆเยาวชน แลประชาชนให้ความสนใจร่วมถ่ายภาพเป้นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามการจัดแสดงหุ่นเปรตดังกล่าวทางวัดขจรรังสรรค์ได้นำมาจัดแสดงในวันสาร์ทเดือนสิบเป็นประจำทุกปี โดยแต่ละปีจำมีการเพิ่มจำนวนขึ้น เพื่อให้เป็นวิทยาทานสอนเตือนสติผู้คนและเยาวชนไม่ให้กระทำความชั่ว พร้อมกันนี้เปิดให้ผู้ร่วมทำบุญและนำข้าวปลาอาหารและขนมไปให้ตามความเชื่อ

พุทธศาสนิกชนชาวนราธิวาสร่วมชิงเปรตงานประเพณีวันสารทเดือนสิบที่วัดประชาภิรมย์จำนวนมาก

สำหรับบรรยากาศในเทศกาลวันสารทเดือนสิบที่วัดประชาภิรมย์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ประชาชนชาวไทยพุทธและร่วมเข้าวัดฟังธรรมและทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วยังมีประเพณีชิงเปรตซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญในงานวันสารทเดือนสิบซึ่งการชิงเปรตนี้จะมีร้านเป็นตึกแถวที่เป็นร้านเป็ดมีการตั้งวางอาหารขนมผล ไม้ต่างๆเป็นจำนวนมาก

เมื่อถึงเวลาหลังพระฉันเพลแล้วก็จะมีการปีนขึ้นไปเพื่อแย่งชิงขนมบนร้านเป็ดลงมาที่ผ่าน การทำพิธีแล้วถือว่าจะได้บุญกุศลและเป็นศิริมงคลแก่ผู้ร่วมชิงเปรตรวมถึงครอบครัวอีกด้วยนอกจากนี้การฉีดบริเวณหน้าวัดประชาภิรมย์และในวัดมีการจัดให้ปีนเสาโครงเหล็ก 4 เสา สูงประมาณ 4 เมตร ซึ่งในปีนี้มีเด็กเป็นจำนวนมากร่วมพิธีชิงเปรตเจ้าหน้าที่จึงใช้เสาเหล็กที่ไม่สูงมากนัก เกรงเด็กๆจะได้รับอันตราย โดยทางกรรมการได้กำหนดเวลาไว้ให้ผู้แข่งขันในวันนี้มีประชาชนชาวนราธิวาสเดินทางมาร่วมประเพณีวันสารทเดือน 10 จำนวนมาก โดยบางครอบครัวได้นำบุตรหลานมาร่วมฟังธรรม และบางครอบครัวนำบุตรหลานมาร่วมพิธีต่างๆพร้อมกันสอนถึงขั้นตอนต่างๆเพื่อร่วมอนุรักษ์ประเพณีสำคัญดังกล่าวด้วย

พุทธศาสนิกชนชาวเบตงชาวไทยในมาเลเซียร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบคึกคัก

ที่สำนักสงฆ์ จันทรัตนาราม ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเบตงและตำบลใกล้เคียง รวมทั้งชาวไทยในมาเลเซีย  ต่างเดินทางมาร่วมประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันสารทเดือนสิบซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบรรยากาศวันส่งเปรต พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับการทำบุญวันสารทเดือนสิบ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า วันชิงเปรตนั้นในเดือนสิบ มีการทำบุญที่วัด 2 ครั้ง ครั้งแรก วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบเรียกว่า วันรับเปรต และครั้งที่สอง วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ เรียกว่า วันส่งเปรต การทำบุญทั้งสองครั้งเป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของบรรพบุรุษที่ตกอยู่ในเปรตภูมิเป็นคติของศาสนาพราหมณ์ที่ผสมในประเพณีของพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนนิยมไปทำบุญ ณ วัดที่เป็นภูมิลำเนาของตนเพื่อร่วมพิธีตั้งเปรตและชิงเปรต โดยจะนำขนมเดือนสิบ เช่น ขนมลา ขนมพอง ขนมกง ขนมเจาะรูหรือขนมเจาะหูขนมบ้า ขนมต้ม และผลหมากรากไม้ ไปทำบุญที่วัด สืบทอดประเพณีและทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับอีกด้วย