คืบหน้าพนักงานสอบสวนที่ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ แต่งตั้งขึ้นใหม่เพื่อทำคดี ตร.ซิ่งกระบะข้ามเลนชนรถรีเฟอร์ส่งต่อผู้ป่วยพลิกคว่ำ พยาบาลสาวเสียชีวิต 1 สาหัส 1 และบาดเจ็บอีก 4 เร่งสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องแล้ว 27 ปาก คาดสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์นี้
23 ต.ค.61 ความคืบหน้ากรณีที่ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถพยาบาลของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอก ที่นั่งดูแลหญิงตั้งครรภ์ภายในรถเสียชีวิต ,น.ส.จรวยพร ปาประโคน พยาบาลวิชาชีพ รพ.ประโคนชัย บาดเจ็บสาหัส ทั้งยังมีคนขับรถรีเฟอร์ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อ และญาติ ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดพนักงานสอบสวนที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แต่งตั้งขึ้นใหม่จำนวน 6 คนแทนพนักงานสอบสวนคนเดิม ได้เร่งสอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ในวันที่ ร.ต.อ.เดชา อยู่ที่โรงพักพยาบาล รพ.ประโคนชัย และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ รวมแล้ว 27 ปาก ขณะนี้เหลือเพียงสอบปากคำเจ้าหน้าที่อีกบางคน และเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บที่นั่งมาในรถรีเฟอร์ที่ถูกชนซึ่งต้องร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบ
พร้อมกันนี้ ยังได้ให้พนักงานสอบและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกรอบ เพื่อเก็บรายละเอียดหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้
พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกำกับดูแลคดีดังกล่าวด้วยตัวเอง บอกว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ โดยเฉพาะการสอบปากคำพยานได้ดำเนินการสอบไปแล้วถึง 27 ปาก ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่มีบิดเบือนหรือช่วยเหลือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เดชา คู่กรณีปฏิเสธการตรวจวัดแอลฮอล์ และเจาะเลือดในวันเกิดเหตุนั้น ก็ไม่ได้หนักใจเพราะคำให้การของพยานหลายปากคำ สามารถนำไปเป็นพยานในชั้นศาลได้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนที่มีคำสั่งย้าย ร.ต.อ.เดชา ออกนอกพื้นที่นั้น ก็เพื่อความสบายใจและความเป็นธรรมกับคู่กรณี
นายพลกฤต เนาว์ประโคน ทนายความฝั่งผู้เสียหายพยาบาลที่เสียชีวิต ระบุว่า จากการติดตามการทำคดีของพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ก็มีความพึงพอใจที่ดำเนินการสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว และเห็นว่าจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ก็ถือว่าค่อนข้างเร็วหากเทียบกับคดีอื่นๆ ส่วนประเด็นที่ ร.ต.อ.คู่กรณี ปฏิเสธไม่ตรวจแอลกอฮอล์และเจาะเลือดนั้น ก็ไม่ได้หนักใจเพราะมีพยานเห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุหลายคน
ด้านนายฉัตรชัย แสวงตน พี่เขยของ น.ส.สุดารัตน์ พยาบาลวิชาชีพที่เสียชีวิต บอกว่า หลังจากมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดใหม่ และมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก ก็รู้สึกมีความเชื่อมั่นใจการทำคดีของทางตำรวจมากขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลกรณีที่ ร.ต.อ.คู่กรณีไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ จะทำให้มีผลต่อหลักฐานที่จะต่อสู้ในคดีหรือไม่ ก็อยากฝากให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวและผู้เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งกล่าวหา ร.ต.อ.เดชา แล้ว 3 ข้อหา คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย,ขับรถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และขับรถขณะมึนเมาสุรา” แต่ ร.ต.อ.เดชา ยังคงปฏิเสธข้อหา ขับรถขณะมึนเมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี