“กฤษฏา” ปลื้มยิ้มไม่หุบกระแสชาวนา แห่เข้าปรับเปลี่ยนปลูกข้าวโพด เลิกทำนาปรังรอบสอง ใกล้ทะลุ 1ล้านไร่ เตรียมเสนอครม.อนุมัติขยายจังหวัด หลังเกษตรกรสมัครเข้าโครงการปลูกข้าวโพดหลังฤดูกาลทำนา เกินพื้นที่ 33 จังหวัด ย้ำผู้บริหารระดับสูง ขรก.กษ.ทุกคนห้ามมีผลประโยชน์ ช่วงใกล้เลือกตั้งจะโดนจับผิดโจมตีมาก
23 ต.ค. 61 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าล่าสุดมีเกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนามี 107,911 รายแล้ว หยุดทำนาปรังรอบ 2 และรอบ 3 รวมพื้นที่ 939,791 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรในหลายจังหวัด นอกเหนือพื้นที่เป้าหมายที่เดิมกำหนดไว้ 33 จังหวัด แจ้งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดมาว่า ประสงค์เข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจากรัฐสนับสนุนทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ การดูแลตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว มีประกันภัยกรณีเกิดภัยพิบัติ ที่สำคัญคือ มีบริษัทผลิตอาหารสัตว์อย่างน้อย 13 แห่งที่พร้อมรับซื้อผลผลิตทั้งหมดถึงพื้นที่
“ผมสั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งไปตรวจสอบความเหมาะสมของสภาพดินเหมาะสมหรือไม่ ต้องมีน้ำให้เกษตกรตลอดระยะเวลาเพาะปลูก 4 เดือน จังหวัดที่เข้าไปตรวจสอบเพิ่มแล้วได้แก่ เชียงใหม่ เลย ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร เป็นต้น หากพื้นที่เหมาะสมจะปลูกมีมาก สามารถรวบรวมผลผลิตได้ในปริมาณสูง คุ้มค่าต่อการเข้าไปดำเนินโครงการ จะเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการเพิ่ม” รมว.เกษตฯ กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ และสมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ได้ร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เข้าไปสร้างการรับรู้ถึงการสนับสนุนของภาครัฐและประกันราคารับซื้อทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น คาดว่า เมื่อปิดรับสมัครในวันที่ 15 พฤศจิกายนจะมีเกษตรกรร่วมโครงการรวมพื้นที่ประมาณ 1.2-1.5 ที่ล้านไร่ แม้ไม่ถึงเป้าหมาย 2 ล้านไร่ ก็ไม่ถือว่า ล้มเหลว เนื่องจากเป็นโครงการนำร่องที่จัดทำโดยมีตลาดรองรับแน่นอน ตามนโยบายตลาดนำการผลิต ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้น ส่วนงบประมาณที่ได้รับ 461 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ 2 ล้านไร่ หากร่วมโครงการน้อยกว่า ที่กำหนดไว้ เงินส่วนที่เหลือคืนรัฐบาลไป
“สำหรับการกำหนดจุดรับซื้อนั้น ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์จะแจ้งกลับมายังกระทรวงเกษตรฯ ในวันที่ 24 ตุลาคมว่า บริษัทใดจะรับผิดชอบรับซื้อที่จังหวัดไหน ส่วนการกำหนดจุดรับซื้อที่แน่นอนจะแจ้งประมาณสิ้นเดือน แต่ละอำเภอจะมีจุดรับซื้ออย่างน้อย 1 แห่ง หากอำเภอนั้นมีพื้นที่ปลูกมากก็จะมีจุดรับซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนการกำหนดจุดรับซื้อที่แน่นอนจะประกาศได้ประมาณสิ้นเดือนนี้” รมว.เกษตร กล่าว
นอกจากนี้นายกฤษฏา ยังกล่าวในการประชุมผู้บริหารระดับสูงว่า ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งการทำงานของกระทรวงเกษตรฯจะถูกจับผิดและนำไปโจมตีมากขึ้น ดังนั้นขอให้ข้าราชการทุกคนตั้งใจทำงาน ยึดหลักการในการทำงานห้ามมีผลประโยชน์ จะสามารถทำงานเพื่อเกษตรกรมีความเป็นอยู่ดีขึ้นได้จริง แต่ถ้ามีผลประโยชน์แม้จะรอดพ้นจากขั้นตอนกฎหมาย แต่ตัวเองก็รู้ว่า ทำอะไรไว้บ้างและจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิต
“ขอให้ช่วยกันคิดหาพืชตัวอื่น หรือปศุสัตว์ ที่มีตลาดแน่นอน มาให้เกษตรกรปลูกทำเกษตรเพื่อมีรายได้ดี ไม่เสี่ยงขาดทุนเหมือนที่ผ่านมา โดยประสานกับเอกชน มาเป็นพลังช่วยกันขับเคลื่อนในแนวทางประชารัฐ ตัวดูรูปแบบโมเดลจากโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา ซี่งต้องมีการพัฒนาส่งเสริมในเชิงพื้นที่เช่นในจังหวัดพื้นที่สูง 3-4 จังหวัด เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย และ น่าน ให้หาพืชเมืองหนาวไปพัฒนาอาชีพเกษตรกร เช่น กาแฟ แม็คคาเดเมียม ทั้งนี้องค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ ของกระทรวงฯจะต้องมาพัฒนาเกษตรกร กระจายผลผลิต หาตลาด ป้อนภาคอุตสาหกรรม ต่อยอดจากโครงการของกระทรวงทุกโครงการคู่ขนานไปพร้อมๆกัน อย่างครบวงจร” รมว.เกษตรฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี