วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ “ปลาปล้องทองปรีดี” ซึ่งเป็นปลาหายากอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเสื่อมโทรมลง อีกทั้งยังถูกรุกรานจับขึ้นมาจำหน่ายเพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำให้ปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติลดจำนวนลงเรื่อยๆ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในความพยายามเพาะพันธุ์ปลาปล้องทองปรีดีของไทย หลังจากที่ทีมนักวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 1 (เชียงใหม่) ได้ใช้ระยะเวลาในการศึกษาทดลองกว่า 12 ปี
ทั้งนี้ กรมประมงมีความคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนางานวิจัยชิ้นนี้ให้สามารถต่อยอด เพื่อขยายผลไปสู่การเพิ่มปริมาณประชากรปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติให้มีจำนวนมากขึ้น ไม่สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย และขยายผลไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อปั้นเป็นปลาสวยงามทางเศรษฐกิจด้วย
นายประสาน พรโสภิณ รักษาการตำแหน่ง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 1 (เชียงใหม่) หัวหน้าคณะผู้วิจัย เปิดเผยว่า ปลาปล้องทองปรีดี เป็นปลาในวงศ์ปลาค้อ (Balitoridae) มีขนาดเล็กความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว สีสันสวยงาม ลำตัวมีลักษณะคล้ายปล้องอ้อยเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนอมเทาหรือเหลืองอ่อน และมีลายขวางสีคล้ำลงมาเกือบถึงท้อง พบได้ในประเทศแถบเอเชียสำหรับประเทศไทยพบบริเวณลำธารภูเขาในเขตพื้นที่ อ.แม่แจ่ม อ.เชียงดาว และ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ซึ่งพบว่าปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติหาได้ยากและมีจำนวนลดน้อยลง จึงได้พยายามรวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติเพื่อทำการศึกษาทดลองเพาะขยายพันธุ์ตั้งแต่ปี 2549 แต่ในระยะแรกยังประสบปัญหาเนื่องจากปลาไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมของการทดลองได้ จนกระทั่งปี 2560 ทางศูนย์ฯได้นำไปทดลองเพาะขยายพันธุ์ที่สถานีวิจัยประมงน้ำจืดพื้นที่สูงอินทนนท์ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและอากาศใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติมากที่สุด โดยคัดเลือกปลาที่มีน้ำเชื้อและไข่สมบูรณ์มาทำการทดลองเพาะพันธุ์ด้วยวิธีฉีดกระตุ้นฮอร์โมนสังเคราะห์ แล้วปล่อยลงกล่องทดลองให้พ่อแม่ปลาผสมพันธุ์แบบธรรมชาติที่อุณหภูมิน้ำ 15.3-16.8 องศาเซลเซียส ผลปรากฏว่า ปลามีการตกไข่มากถึง 70% และสามารถฟักออกเป็นตัวได้สำเร็จ แต่อัตราการฟักตัวยังค่อนข้างต่ำอยู่มากเพียง 37.13% เท่านั้น รวมถึงการอนุบาลลูกปลาก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราการรอดยังต่ำอยู่เช่นกัน ซึ่งได้ผลผลิตเพียง 200 ตัวเท่านั้น จึงต้องมีการพัฒนาขยายผลการศึกษาวิจัยในระยะต่อไปเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากกว่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี