สำนักงานประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ วางมาตรการเข้มเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกราม ปลา และสัตว์น้ำเขื่อนลำปาว ให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด มุ่งเป็นแหล่งผลิตสัตว์เศรษฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้ ตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล และโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
31 ต.ค.61 ที่ห้องประชุมศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดกาฬสินธุ์ นายอำพล จินดาวงศ์ ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมระดมความคิดเห็น การบริหารจัดการทรัพยากรประมงในเขื่อนลำปาว โดยมีนายสำรวย ชมพุฒ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการสำนักงานประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชน ตัวแทนเกษตรกร ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายอำพล จินดาวงศ์ ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เขื่อนลำปาวหรืออ่างเก็บน้ำลำปาว นอกจากจะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร การประมง การประปา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยได้ชื่อว่าเป็นทะเลน้ำจืดแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ที่สำคัญยังเป็นแหล่งน้ำที่สร้างรายได้ให้กับชาวประมง และเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลากระชัง และกุ้งก้ามกราม เป็นสินค้าส่งออกทั้งประเภทปลาสด กุ้งสด แปรรูป และอื่นๆ มูลค่ารวมนับพันล้านบาทต่อปีอีกด้วย
นายอำพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของการทำประมง ที่ชาวบ้านบริเวณรอบเขื่อนลำปาวหลายหมู่บ้าน ในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.ห้วยเม็ก อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี และ อ.ท่าคันโท ที่นอกเหนือจากหาจับเพื่ออุปโภคบริโภคในครัวเรือนแล้ว ยังยึดเป็นอาชีพหลักหารายได้เลี้ยงครอบตลอดปี ทั้งนี้จากการสำรวจมีประมาณ 2,133 ราย เครื่องมือที่ใช้ทำการประมงมีตาข่าย แห ตุ้ม เบ็ดธง เบ็ดราว ลอบ จั่น ฉมวก ชะนาง แพสะดุ้ง ปลาที่จับได้มากตามลำดับคือปลาสร้อยขาว ตะเพียนขาว กระมัง ซิวแก้ว และปลาสวาย จับได้เฉลี่ยคนละ 3.5 กก./วัน ผลผลิตสัตว์น้ำจากเขื่อนปีละไม่น้อยกว่า 1,100 ตัน มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี
“ขณะที่ในส่วนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีเกษตรกรเลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาว 522 ราย จำนวน 13,587 กระชัง ปริมาณการผลิตปีละ 17,504 ตัน มูลค่าประมาณ 1,050 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีเก็บหอยเล็บม้าจำหน่าย กก.ละ 13 บาท บางช่วงจับได้มากถึง 2-3 ตันต่อวัน โดยเฉพาะการดำน้ำจับกุ้งก้ามกรามหรือกุ้งแม่น้ำและปลาบู่นั้น รายได้ดีมาก ล่าสุดในปีนี้ จากการสอบถามแม่ค้ารับซื้อพบว่ามีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 3 ล้านบาท” นายอำพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในเขื่อนลำปาวนั้น เพื่อการอนุรักษ์และเพิ่มผลผลิต สำนักงานประมง จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกาฬสินธุ์ หน่วยป้องกันและปราบปรามกรรประมงน้ำจืดลำปาว (กาฬสินธุ์) และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เขต 3 (สกลนคร) ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ การสำรวจสัตว์น้ำและคุณภาพน้ำ การควบคุมการทำการประมง ให้เป็นไปตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558
ทั้งนี้ ได้ร่วมกับชุมชนชาวประมง จัดทำเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ 24 จุด มีเขตรักษาพันธุ์พืช 4 จุด ได้รับงบประมาณสนับสนุน จ.กาฬสินธุ์ จัดซื้อลูกกุ้งก้ามกรามนำมาปล่อยเสริมลงในเขื่อนลำปาว ขณะที่กรมชลประทานสนับสนุนหน่วยงานประมงจัดระเบียบการเลี้ยงปลากระชัง ควบคุมการทำการประมง ตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณเลี้ยงปลากระชัง และจัดทำเขตอนุรักษ์พันธุสัตว์น้ำ โดยมีเป้าหมายคือเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในเขื่อนลำปาว ให้คงความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านและชาวประมงได้ทำการจับเพื่ออุปโภคบริโภคและจำหน่ายสร้างรายได้ตลอดปี
นายอำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อกำหนดมาตรการแผนการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้มีประสิทธิภาพ จึงได้จัดประชุมระดมความคิดเห็น ทั้งข้อมูลเชิงวิชาการ กฎหมาย แนวทางประเมินผลผลิตและมูลค่าสัตว์น้ำเขื่อนลำปาว รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อนำไปประกอบในการบริหารจัดการสัตว์น้ำในเขื่อนลำปาว และเสนอคณะกรรมการประมงประจำ จ.กาฬสินธุ์ต่อไป โดยตั้งธงเป็นแหล่งสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้าน ชาวประมงมีรายได้ สอดคล้องกับแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล และโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเขื่อนลำปาว จึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแนวทางขับเคลื่อนงานของจังหวัดดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี