"กรมประมง"ยันเร่งชงเรื่อง"ปลากัด"เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ แก่สนง.เสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติพรุ่งนี้ หลังถูกโจมตีหนักไม่รักษาสมบัติชาติ
4 พ.ย.61 นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้มอบหมายให้ น.ส.อมรรัตน์ เสริมวัฒนากุล ผู้เชี่ยวชาญกรมประมง เข้าชี้แจงแก่สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ในวันที่ 5 พ.ย.หลังจากที่ได้ส่งหนังสือเสนอให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประชำชาติถึงสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว
โดยเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญกรมประมงจะอธิบายทั้งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า ปลากัด เป็นสัตว์น้ำประจำถิ่นของประเทศไทยมาแต่โบราณ ที่พบเอกสารหลักฐานคนสยามเลี้ยงปลากัดมามีประเพณีแข่งขันกัดปลา รวมทั้งพบว่า มีการเก็บตัวอย่างปลากัดจากแหล่งน้ำสาธารณะซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดยในทางวิทยาศาสตร์นั้น หากมีการเก็บตัวอย่างพืชหรือสัตว์จากที่ใดเป็นที่แรก ถือว่า เป็นสัตว์ประจำถิ่นของพื้นที่ที่เก็บตัวอย่าง ซึ่งต่อมามีการจำแนกชนิด แล้วตั้งชื่อปลากัดที่เก็บตัวอย่างไปว่า Siamese Fighting Fish ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Betta splendens
ส่วนข้อซักถามของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติที่ว่า ปลากัดไทยแต่ดั้งเดิมจะมีครีบสั้น หางสั้น ส่วนในปัจจุบันครีบยาว หางยาวนั้น เป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ทางนักวิชาการกรมประมงได้เตรียมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สำหรับตอบประเด็นนี้แล้วว่า ปลากัดที่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติแต่โบราณมีครีบสั้น หางสั้น แต่เมื่อถูกจับมาเลี้ยงในพื้นที่แคบๆ จึงวิวัฒนาการจนมีครีบยาว หางยาวซึ่งใช้เวลาหลายปี จากการเพาะพันธุ์หลายรุ่น
ทั้งนี้ ในการชี้แจงของกรมประมงในวันพรุ่งนี้ หากสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติต้องการหลักฐานและเอกสารใดเพิ่มเติม กรมประมงพร้อมจัดส่งมาประกอบการพิจารณา ซึ่งหากสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติเห็นด้วยว่า ปลากัดเป็นปลาประจำถิ่นของไทย จะนำเสนอ ครม.เห็นชอบให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติไทยต่อไป
ทั้งนี้ เรื่องการเสนอปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ เกิดกระแสการผลักดันเป็นวงกล้างจากประชาชน นักอนุรักษ์สัตว์น้ำ กลุ่มผู้เลี้ยงปลากัดส่งออก ที่มีความก้าวหน้าในเรื่องเพาะพันธุ์ผสมจนได้สีสรรให้สวยงามแปลกตา ร่วมกับกรมประมง เพื่อป้องกันประเทศอื่นนำปลากัดไทยไปต่อยอดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ได้เคยเสนอเข้าครม.ตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี60 ซึ่งมีการท้วงติงว่าปลากัดเป็นสัตว์น้ำในประเทศเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่ จึงถอนเรื่องออกจาก ครม.ให้กรมประมง นำกลับไปหาข้อมูลชี้ชัดว่าพบในแหล่งน้ำของประเทศไทยแห่งเดียว หรือไทยแลนด์โอนลี่ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา กรมประมงดำเนินการล่าช้าไปมากเพราะอ้างว่ามีเรื่องไอยูยูที่เร่งด่วนกว่าเรื่องปลากัด จนถูกกระแสโจมตีหลายครั้งว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่รักษาสมบัติชาติ เป็นเหตุให้ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ไม่พอใจการทำงานของผู้บริหารกรมประมงอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี