คำถาม ผมมักจะประสบปัญหาในการเพาะเมล็ดครับ เวลาที่ผมเพาะเมล็ดพืช ก็ไม่ค่อยงอกตามที่ต้องการ ขอทราบวิธีการด้วยครับ
รัตนชัย อ่อนสมัน
อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
คำตอบ
การเพาะเมล็ดพืช สำคัญอยู่ที่ต้องรู้ลักษณะของเมล็ดพืชนั้นๆ เพราะพืชแต่ละชนิดมีเมล็ดพันธุ์ที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง นับจากเมล็ดพันธุ์พืชที่ใช้ จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต และถ้าจะให้ดีเกษตรกรควรเริ่มต้นจากการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดี แล้วนำมาเพาะกล้า การเพาะเมล็ดพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก
วิธีการเพาะเมล็ด ที่นิยมกัน มุ่งหมายให้พืชที่ได้มีลำต้นแข็งแรง และให้ผลผลิตสูง มีดังนี้
1. ทำการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์พืชที่มีคุณภาพที่ดี ทนต่อโรคและแมลง มีอัตราการงอกสูง โดยดู วัน/เดือน/ปี ที่ผลิต และวันที่หมดอายุ
2. เมล็ดพืชที่เพาะ ถ้ามีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง ควรกะเทาะเปลือก หรือลอกเปลือกออกให้หมด วิธีการนี้ จะช่วยให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น
3. ให้แช่น้ำเมล็ดพืช จะทำให้เปลือกหุ้มเมล็ดอ่อนตัวลง จึงช่วยให้เมล็ดพืชงอกได้เร็วขึ้น โดยนำมาแช่ในน้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่น ให้ใช้น้ำร้อนผสมน้ำเย็น อัตราส่วน 1:1 แช่นาน 30 นาที และปล่อยจนน้ำเย็น แช่ทิ้งไว้นาน 10-12 ชม. จึงนำมาห่อผ้าเปียกไว้ รดน้ำ 2-3 วัน พอเริ่มมีรากงอกออกมา ให้นำไปเพาะลงในถาดเพาะกล้า หรือถุงเพาะกล้า
4. การเตรียมวัสดุเพาะกล้าพืช โดยให้ผสมดินร่วน ปุ๋ยคอกเก่าแห้งอย่างละเอียด และขี้เถ้าแกลบ ในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 เมื่อผสมวัสดุดีแล้ว ให้นำใส่ในภาชนะเพาะ เช่น ถาดเพาะ กระถาง หรือถุงพลาสติก โดยใส่วัสดุเพาะกล้าลงในภาชนะ ประมาณ 2 ใน 3 ของความสูงของภาชนะบรรจุ ไม่ควรใส่ให้สูงล้นเต็มภาชนะ เพราะเวลารดน้ำจะทำให้เมล็ดพันธุ์ไหลหลุดติดไปกับน้ำ
5. เกลี่ยผิวหน้าวัสดุเพาะให้เรียบ และทำเป็นหลุมหรือร่องเล็กๆ ตามขนาดความยาวของภาชนะ ระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 3 ซม. ลึกประมาณ
1 ซม.
6. ถ้าเป็นหลุมปลูก ให้โรยเมล็ดพันธุ์ลงไปเลย ควรหยอดเมล็ด 2-3 เมล็ด/หลุม ถ้าโรยเป็นแถว ควรโรยบางๆ และกลบวัสดุปลูกทับเมล็ดพันธุ์พืชที่โรยไว้
7. ให้หว่านปูนขาวบางๆ ลงบนผิวของวัสดุปลูก เพื่อป้องกันมด หรือแมลงเข้าทำลายเมล็ดพันธุ์ และควรวางภาชนะเพาะกล้าในที่ร่มรำไร และรดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและเย็น
8. เมื่อเมล็ดเริ่มมีใบ ควรวางภาชนะเพาะกล้าให้ได้รับแสงสว่างในช่วงครึ่งวันเช้า หรือใช้วัสดุพรางแสงกั้นบนภาชนะที่ใช้เพาะกล้า เพื่อให้กล้าผักเริ่มปรับตัวแข็งแรงขึ้น และไม่กระทบกระเทือนต่อสภาพการย้ายปลูกในแปลงปลูก
ที่สำคัญคือ การดูแลและการจัดการกล้าพืชที่เพาะโตและแข็งแรง เมื่อทำการย้ายกล้าลงแปลงปลูกแล้ว จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก รองก้นหลุมก่อนปลูก เพื่อช่วยปรับสภาพดิน เพราะเมื่อต้นกล้าโต ก็จะต้องการธาตุอาหารอย่างมากด้วยนะครับ
วิวัฒน์ ศัลยกำธร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี