คุกตลอดชีวิต
2อดีตแกนนำเขมรแดง
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กัมพูชา
ปิด‘คดีประวัติศาสตร์’
ศาลพิเศษคดีเขมรแดง มีคำตัดสิน จำคุกตลอดชีวิต สองอดีตแกนนำเขมรแดง “เขียว สัมพัน” ประมุขแห่งรัฐ และ “นวน เจีย” ผู้นำหมายเลขสอง มีความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็นคำตัดสินที่ทุกฝ่ายรอคอยมานานตั้งแต่เขมรแดงล่มสลายเมื่อเกือบ 4 ทศวรรษก่อน
ศาลพิเศษคดีเขมรแดง หรือที่มีชื่อเต็มว่า องค์ชุมนุมชำระคดีวิสามัญแห่งตุลาการกัมพูชามีคำตัดสินว่า นายเขียว สัมพัน วัย 87 ปี มีความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเวียดนาม ส่วนนายนวน เจีย วัย 92 ปี มีความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั้งชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเวียดนามและชาวมุสลิมเชื้อสายจาม เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดร่วมกับนายพล พต ผู้นำหมายเลขหนึ่ง จึงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้บงการอาชญากรรมทั้งหมด ทั้งคู่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยให้รวมกับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่ถูกตัดสินในปี 2557 ข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ด้วยการใช้ความรุนแรงและบังคับอพยพคนออกจากกรุงพนมเปญในเดือนเมษายน 2518
นายเดวิด เชฟเฟอร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเรื่องคดีเขมรแดงของเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2555 จนถึงเดือนก่อนมองว่า คำตัดสินครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อกัมพูชา ความยุติธรรมสากล และบันทึกประวัติศาสตร์ ขณะที่ นายหยก ชาง หัวหน้าศูนย์เอกสารกัมพูชาชี้ว่า คำตัดสินนี้จะยืนยันความเป็นมนุษย์ของเหยื่อเขมรแดงและยอมรับความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น เท่ากับปิดฉากช่วงเวลาอันโหดร้ายในหน้าประวัติศาสตร์กัมพูชา
อย่างไรก็ดี นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของบีบีซีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่าการสังหารประชาชนชาวกัมพูชากว่า 2 ล้านคนในช่วงที่รัฐบาลเขมรแดงเรืองอำนาจระหว่างปี 2518-2522 ไม่เข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ศาลคดีเขมรแดงเป็นศาลระดับประเทศ ตั้งขึ้นในปี 2549 ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็นเพื่อชำระคดีแกนนำเขมรแดงที่ปกครองประเทศอย่างโหดร้ายระหว่างปี 2518-2522 มีชาวกัมพูชาล้มตายร่วม 2 ล้านคนจากการใช้แรงงานหนัก อดอยาก และถูกฆ่า
จนถึงขณะนี้มีแกนนำเขมรแดงถูกตัดสินโทษเพียง 3 คน คนแรกคือนายคัง เค็กเอียวหรือสหายดุช วัย 76 ปี ผู้คุมเรือนจำตวลสเล็งที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 2555 อีกสองคนคือนายเขียว สัมพันและนายนวน เจีย ส่วนแกนนำคนอื่นเสียชีวิตหมดแล้วโดยยังไม่ได้รับโทษ ได้แก่ นายพล พต ผู้นำหมายเลขหนึ่ง นายเอียง สารี รัฐมนตรีต่างประเทศ และนางเอียง ธิริธ ภรรยาที่เป็นรัฐมนตรีกิจการสังคม
สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่า การพิพากษาและตัดสินคดีนี้อาจจะเป็นคดีสุดท้ายของศาลคดีเขมรแดง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถพิจารณาคดีและเอาผิดอดีตผู้นำเขมรแดงได้เพียง 3 คน โดยใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) และมักถูกครหาเรื่องการถูกแทรกแซงทางการเมือง ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งเคยเป็นนายทหารของเขมรแดง มักเตือนว่าเขาจะไม่อนุญาตให้ศาลสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลอื่นเพิ่มเติม โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงของกัมพูชา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี